ตัวอย่างประโยค Present Perfect: เข้าใจใช้อย่างถูกต้อง

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense ในภาษาไทย

Present Perfect Tense ใช้ในประโยคที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่มีผลกระทบต่อปัจจุบัน การสร้างประโยคใน Present Perfect Tense ในภาษาไทยจะมีรูปแบบดังต่อไปนี้:

Subject + have/has + Past Participle

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense:

1. เธอได้ปั่นจักรยานแล้ว (She has ridden a bicycle.)
2. เราเคยไปดูสิ่งนี้ (We have seen this before.)
3. เขาเคยทำงานเป็นแม่บ้าน (He has worked as a housekeeper.)

Present Perfect Tense มักใช้ในกรณีต่อไปนี้:

การใช้ Present Perfect Tense ในประโยคคำสั่ง
Present Perfect Tense สามารถใช้ในการแสดงคำสั่งหรือคำถามในรูปแบบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและสัมพันธ์กับปัจจุบัน ตัวอย่างประโยคคำสั่งใน Present Perfect Tense ได้แก่:

1. คุณได้เคยช่วยดูเด็กๆหรือยัง? (Have you ever babysat?)
2. ฉันได้เป็นอาจารย์มานานหรือยัง? (Have I been a teacher for a long time?)
3. เขาไม่เคยพูดภาษาไทย (He has never spoken Thai.)

การใช้ Present Perfect Tense ในประโยคคำบอกเหตุผล
Present Perfect Tense สามารถใช้ในการบอกเหตุผลของสถานการณ์ในปัจจุบัน ตัวอย่างประโยคคำบอกเหตุผลใน Present Perfect Tense ได้แก่:

1. เดินทางทั่วโลกไปแล้ว ฉันรู้สึกดีใจและเคยได้พบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร (I have traveled the world and feel happy because I have had unique experiences.)
2. ฉันต้องเริ่มต้นใหม่แต่ฉันไม่รู้ว่าจะทำอะไร (I have to start over, but I don’t know what to do.)
3. เรามองหาตัวเลือกใหม่ เพื่อเปลี่ยนสภาพการดำเนินชีวิต (We are looking for new options to change our way of life.)

การใช้ Present Perfect Tense ในประโยคคำอธิบายสถานะ
Present Perfect Tense สามารถใช้ในการอธิบายสถานะหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงมีผลต่อปัจจุบันอยู่ ตัวอย่างประโยคคำอธิบายสถานะใน Present Perfect Tense ได้แก่:

1. เขาได้โตแล้ว (He has grown up.)
2. มันยังไม่เสร็จ (It has not finished yet.)
3. ครูใหญ่ได้พูดจบแล้ว (The teacher has finished speaking.)

การใช้ Present Perfect Tense ในประโยคคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต
Present Perfect Tense สามารถใช้ในการสร้างประโยคคำถามเพื่อสอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ตัวอย่างประโยคคำถามใน Present Perfect Tense ได้แก่:

1. เคยไปเที่ยวที่ปารีสหรือยัง? (Have you ever been to Paris?)
2. เพื่อนๆเคยได้ยินเขาร้องเพลงหรือยัง? (Have your friends heard him sing?)
3. คุณอาจารย์เคยฝากคำบรรยายหรือไม่? (Has your professor left any comments?)

การใช้ Present Perfect Tense ในประโยคคำบอกเวลาโดยไม่ระบุเวลาเฉพาะ
Present Perfect Tense สามารถใช้ในการบอกเวลาว่าเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแต่ไม่ระบุเวลาเฉพาะ ตัวอย่างประโยคคำบอกเวลาใน Present Perfect Tense ได้แก่:

1. เขาเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน (He has heard this sound before.)
2. เธอจากไปมานานแล้ว (She has been gone for a while.)
3. เราทำงานทีนี้มาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว (We have been working for several hours now.)

การใช้ Present Perfect Tense กับประโยคพาราเลล
Present Perfect Tense สามารถใช้ในการสร้างประโยคพาราเลลเพื่อเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตัวอย่างประโยคพาราเลลใน Present Perfect Tense ได้แก่:

1. เรียน โชคดี (Study, good luck.)
2. เรารู้สึกดีใจ (We feel happy.)
3. เคยพบหมอหรือยัง (Have you met the doctor?)

การใช้ Present Perfect Tense ในประโยคคำเทียบเปรียบ
Present Perfect Tense สามารถใช้ในการสร้างประโยคคำเทียบเปรียบ เช่นเทียบเสียงความรู้สึกหรือสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในอดีตและปัจจุบัน ตัวอย่างประโยคคำเทียบเปรียบใน Present Perfect Tense ได้แก่:

1. เสียงของเตือนอัจฉริยะได้ลดลง (The sound of the alarm has decreased.)
2. ความระมัดระวังของกล้องดิจิตัลช่างไม่ดีเท่ากัน (The attention of the digital camera technicians is not the same.)
3. ฉันสามารถสียัญพานได้ (I have managed to win a medal.)

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense 20 ประโยค:
1. She has never been to Europe. (เธอไม่เคยไปยุโรป)
2. They have already left for the airport. (พวกเขาไปสนามบินแล้ว)
3. He has just finished the book. (เขาเพิ่งเสร็จหนังสือ)
4. We have lived in this town for over ten years. (เราอยู่ในเมืองนี้มาเกือบสิบปี)
5. I have seen that movie before. (ฉันเคยดูหนังเรื่องนั้นมาก่อนแล้ว)
6. Has she ever traveled alone? (เธอเคยเดินทางคนเดียวกันรึเปล่า?)
7. We have just arrived at the hotel. (เราเพิ่งมาถึงโรงแรม)
8. He has worked for the company since 2010. (เขาทำงานให้กับบริษัทตั้งแต่ปี 2010)
9. They have already eaten dinner. (พวกเขาเคยกินข้าวค่ำแล้ว)
10. I have known him since we were in elementary school. (ฉันรู้จักเขาตั้งแต่เราอยู่ในโรงเรียนประถม)
11. She has just graduated from university. (เธอเพิ่งจบการศึกษาที่มหาวิทยาลัย)
12. Have you ever seen a shooting star? (คุณเคยเห็นดาวตกไหม?)
13. We have been waiting for over an hour. (เรารอมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว)
14. He has visited his parents twice this month. (เขาไปเยี่ยมพ่อแม่ในเดือนนี้สองครั้ง)
15. They have just finished their exams. (พวกเขาเพิ่งสำเร็จการสอบ)
16. I have never tasted sushi before. (ฉันไม่เคยลิ้มรสสุชิม่วงมาก่อน)
17. Has she met the president? (เธอเคยพบประธานาธิบดีรึเปล่า?)
18. We have already seen that movie. (พวกเราได้ดูหนังเรื่องนั้นแล้ว)
19. He has lived in Bangkok his whole life. (เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครตลอดชีวิต)
20. They have been best friends for over twenty years. (พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมาเกือบยี่สิบปี)

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense 20 ประโยค:
1. She has been working on this project for weeks. (เธอทำงานโครงการนี้มาสัปดาห์กว่า)
2. They have been studying English for years. (พวกเขาศึกษาภาษาอังกฤษมาเป็นปี)
3. He has been playing the piano for hours. (เขาเล่นเปียโนมาหลายชั่วโมงแล้ว)
4. We have been waiting for the bus since morning. (เรารอรถเมล์ตั้งแต่เช้า)
5. I have been studying for the exam all week. (ฉันศึกษาเพื่อสอบทั้งสัปดาห์)
6. Has she been working out at the gym lately? (เธอเล่นกีฬาในห้องออกกำลังกายกันไหมล่าสุด?)
7. They have been practicing their performance for months. (พวกเขาซ้อมทักษะการแสดงมาเป็นเดือน)
8. He has been writing emails all morning. (เขาได้เขียนอีเมลล์ตลอดเช้า)
9. We have been waiting for the rain to stop. (เรารอให้ฝนหยุดลง)
10. I have been looking for my keys everywhere. (ฉันเรียกหากุญแจของฉันไปทุกที่)
11. She has been practicing the song since yesterday. (เธอซ้อมเพลงตั้งแต่เมื่อวาน)
12. They have been working on this project together. (พวกเขาทำงานโครงการนี้ร่วมกัน)
13. He

ประโยค present perfect มีอะไรบ้าง

ในภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ ประโยค present perfect เป็นหนึ่งในประโยคที่ใช้บ่อยที่สุดในการแสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่กำลังยังเกิดผลในปัจจุบัน ประโยคนี้มีลักษณะการใช้งานที่ซับซ้อนไม่แปลกใจนักเรียนที่จะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประโยค present perfect มากขึ้น ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประโยค present perfect ในภาษาไทยอย่างละเอียดเพื่อให้คุณเข้าใจและใช้งานได้อย่างถูกต้อง โดยเริ่มต้นด้วยการอธิบายลักษณะการใช้งานของประโยค present perfect แล้วจึงนำเสนอคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประโยคนี้

ลักษณะการใช้งานของประโยค present perfect

ประโยค present perfect สร้างขึ้นจากเนื้อหาดังนี้: กริยาช่องที่ 1 + have/has + กริยาช่องที่ 3 (past participle) ซึ่งบ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่กำลังมีผลกระทบไปถึงปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค:

1. เราเคยไปทะเลมาก่อน (We have been to the beach before)
2. เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน (He has never heard of this before)

การใช้งาน present perfect มีหลายรูปแบบ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ การใช้เพื่อเสริมความหมายในปัจจุบันและการใช้เพื่อเชื่อมต่อจากอดีตไปยังปัจจุบัน

1. การใช้เพื่อเสริมความหมายในปัจจุบัน

ประโยค present perfect สรุปความเป็นจริงที่ยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน อย่างเช่น:

– ฉันเคยเรียนหมายเลขนี้มาก่อน (I have studied this number before) – แสดงว่าการศึกษาหมายเลขนี้ยังมีผลกับปัจจุบัน
– เขาเคยทำงานกับบริษัทนี้ (He has worked for this company) – แสดงว่าการทำงานกับบริษัทนี้สัมพันธ์กับปัจจุบันโดยตรง

2. การใช้เพื่อเชื่อมต่อจากอดีตไปยังปัจจุบัน

ประโยค present perfect ใช้สร้างความเชื่อมต่อระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังมีผลกระทบต่อปัจจุบัน อย่างเช่น:

– เขาได้พบและรู้จักกับฉันมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว (He has met and known me for 5 years) – เส้นทางการรู้จักคุมิตสว่างชอบกันมาช้านานแล้ว
– พวกเขาเคยออกเดินทางไปที่นี่ (They have traveled here before) – แสดงว่าการเดินทางไปที่นี่เป็นที่รู้จักกันระหว่างเพื่อน ๆ อยู่บ่อย ๆ

กระบวนการจะใช้ present perfect ให้ถูกต้อง เราต้องตรวจสอบว่ากริยาช่องที่ 3 (past participle) ที่อยู่หลัง have/has เป็นช่องกริยาที่ถูกต้องตามกฎบริสุทธิ์ของกริยานั้น ๆ

การสร้าง past participle ของกริยามีกฎแน่นอนและกฎที่เปลี่ยนแปลงไป กฎบางอย่างของ past participle มีเดือนที่ผ่านไปเอาชนะไปแล้ว ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ เราจะเสนอช่วยจำกัดข้อความสำคัญของตลาดทททททตัวอย่างขั้นต้นสำหรับบางการเปลี่ยนแปลง

ปัญหาที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับประโยค present perfect

คำถาม: การใช้เพื่อเสริมความหมายในปัจจุบันมีข้อจำกัดอย่างไร?
คำตอบ: การใช้ present perfect อาจมีข้อจำกัดเมื่อแสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตที่สิ้นสุดลงหรือไม่มีผลกระทบต่อปัจจุบันเช่นเดียวกัน ในกรณีนี้ การใช้ past simple อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เช่น:

– เขาทำตัวอย่างไรมาช้านานแล้ว? (How has he been acting for so long?) – พูดได้ว่าเขากำลังทำตัวเสร็จสิ้นไปและไม่มีผลกระทบต่อปัจจุบันอีกต่อไป
– เขาเคยซื้อรถมาก่อน แต่ขายออกไปปีนึงแล้ว (He bought a car before but sold it a year ago) – บอกให้คุณรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของรถในปัจจุบันแล้ว

คำถาม: การใช้เพื่อเชื่อมต่อจากอดีตไปยังปัจจุบันมีพิเศษอย่างไร?
คำตอบ: การใช้งาน present perfect เพื่อเชื่อมต่อจากอดีตไปยังปัจจุบัน เน้นการเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีตที่ยังคงเป็นจริงในปัจจุบัน โดยการใช้กริยาช่องที่ 3 (past participle) และคำกริยาลดตัวเอง (e.g. met, known, done) เราสามารถเน้นให้คุณเห็นความแตกต่างระหว่างประโยคที่ใช้ present perfect และ past simple:

– ผมได้และรู้จักกับเธอมานานแล้ว (I have met and known her for a long time) – ผมเคยเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
– ผมเคยเจอและรู้จักเธอมานานแล้ว (I met and knew her a long time ago) – บอกว่าเราเคยพบและรู้จักอีกครั้งอย่างน้อยในอดีต
– ผมเจอและรู้จักกับเธอช่วงเราอยู่ในประเทศชาติเดียวกัน (I met and knew her when we were in the same country) – เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างเรากับเธอในบางเรื่อง

คำถาม: อย่างไรถึงจะรู้ว่าต้องใช้ past participle ใดในประโยค present perfect?
คำตอบ: การกำหนด past participle ออกไปตามพ้องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจึงมีความยากลำบาก จะต้องพึ่งพากฎและข้อผิดพลาด บางกรม เพื่อช่วยให้คุณจำกัดข้อนี่ ๆ เราขอแนะนำให้ฝึกฝนการทำการทดสอบภาคไวยากรณ์ช่วงนี้เป็นประจำ

การใช้ประโยค present perfect ให้ถูกต้องและสื่อความหมายที่เหมาะสมนั้นเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้เรียนภาษาไทย แต่ในตอนท้ายของวัน ความเข้าใจที่เป็นธรรมชาติในลักษณะและข้อความของประโยคนี้จะตอบทุกข้อสงสัยที่คุณอาจมีอยู่ ที่สำคัญอย่างยิ่ง ความเข้าใจถูกต้องของประโยค present perfect จะช่วยให้คุณมีทักษะในการสื่อสารภาษาไทยอย่างสมบูรณ์และแม่นยำ สู่การพัฒนาทางด้านการใช้ภาษาไทยของคุณอย่างรวดเร็ว

เราใช้ Present Perfect Tense ในกรณีใดในภาษาไทย

Present Perfect Tense เป็นเวลาที่ใช้ในภาษาอังกฤษเพื่อเสริมความหมายของปัจจัยเวลาที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบัน หากสนใจที่จะเข้าใจและใช้ Present Perfect Tense ได้อย่างถูกต้องในกรณีที่เหมาะสม ท่านต้องทำความเข้าใจถึงบทบาทของ Present Perfect และหลักการในการใช้งานที่ถูกต้องซึ่งจะช่วยให้ท่านประพฤติตัวและสื่อสารได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน

บทบาทของ Present Perfect Tense
Present Perfect Tense ใช้เพื่อเสริมความหมายที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเวลาในปัจจุบัน โดยใช้รูปแบบ have/has + past participle ของคำกริยา เราสามารถใช้ Present Perfect Tense ในหลายกรณีตามต่อไปนี้:

1. Completed actions with indefinite time period (การกระทำที่เสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลาแต่ไม่ระบุช่วงเวลา)
เราใช้ Present Perfect Tense เมื่อเราต้องการพูดถึงการกระทำที่เสร็จสิ้น แต่ไม่ได้ระบุเวลาที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น:
– I have read that book. (ฉันอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้ว)
– They have visited many countries. (พวกเขาได้เดินทางไปถึงหลายประเทศแล้ว)

2. Actions that started in the past and continue to the present (การกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงเป็นเช่นนั้นในปัจจุบัน)
Present Perfect Tense สามารถนำมาใช้เมื่อเราต้องการพูดถึงการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีต แต่ยังคงเป็นเช่นนั้นในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น:
– She has lived in Bangkok for five years. (เธออาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯเป็นเวลาห้าปีแล้ว)
– We have known each other since we were children. (เรารู้จักกันตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก)

3. Actions that have just happened (การกระทำที่เพิ่งเกิดขึ้น)
Present Perfect Tense สามารถใช้ในกรณีที่เราต้องการพูดถึงการกระทำที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ตัวอย่างเช่น:
– We have just finished our dinner. (เราเพิ่งหมดอาหารเย็น)
– I have just received an email from my boss. (ฉันเพิ่งได้รับอีเมลจากหัวหน้า)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Present Perfect Tense

Q: ทำไมเราถึงต้องใช้ Present Perfect Tense ในบางกรณี?
A: Present Perfect Tense ช่วยให้เราเน้นถึงความสัมพันธ์กับปัจจัยเวลาในปัจจุบัน โดยใช้รูปแบบ have/has + past participle ของคำกริยา เมื่อใช้ถูกต้อง Present Perfect Tense จะช่วยเสริมความหมายและทำให้คำพูดน่าเชื่อถือมากขึ้น

Q: เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในกรณีใดที่เราควรใช้ Present Perfect Tense?
A: เราสามารถใช้ Present Perfect Tense ในกรณีที่ต้องการเน้นถึงความเกี่ยวข้องกับปัจจัยเวลาในปัจจุบัน โดยใช้คำกริยารูปแบบ have/has + past participle ซึ่งให้ความหมายแทนบทบาทของ Present Perfect Tense ได้อย่างเหมาะสม

Q: ถ้าผมใช้ Present Perfect Tense ในบางกรณีแล้วไม่ถูกต้อง จะทำให้การสื่อสารไม่เข้าใจได้ใช่ไหม?
A: ใช่, การใช้ Present Perfect Tense ในรูปแบบที่ผิดพลาดอาจทำให้คนอื่นไม่เข้าใจความหมายหรือเกิดความสับสนได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด ควรทำความเข้าใจในหลักการและการใช้งานที่ถูกต้องของ Present Perfect Tense อย่างละเอียด

ในสรุป, Present Perfect Tense เป็นเวลาที่ใช้ในภาษาอังกฤษเพื่อเสริมความหมายของปัจจัยเวลาที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบัน เราใช้ Present Perfect Tense ในหลายกรณี เช่น completed actions with indefinite time period, actions that started in the past and continue to the present, และ actions that have just happened เพื่อเน้นความสัมพันธ์กับปัจจัยเวลาในปัจจุบัน การใช้ Present Perfect Tense ให้ถูกต้องจะช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างถูกต้องและครบถ้วนมากขึ้น

(จำนวนคำ: 929)

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense 20 ประโยคในภาษาไทย

Present Perfect Tense (tense ปัจจุบันกาลที่สมบูรณ์) เป็นอีกหนึ่งประเภทของประโยคที่นิยามว่าทำได้ในอดีต แต่ผลลัพธ์ที่ได้มีผลต่อปัจจุบันมาจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับอดีตกาลที่สมบูรณ์ (Simple Past Tense) ภาษาไทยมักจะไม่มีหลักการการใช้เหมือนกับภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้น สำหรับในบทความนี้จะนำเสนอตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense ในภาษาไทย พร้อมทั้งข้อหารือที่พบบ่อยเกี่ยวกับประโยคในช่วงสุดท้ายของบทความด้วย

1. ฉันได้ทำการบ้านเสร็จแล้ว (I have finished my homework)
2. เขาเคยไปเที่ยวที่เกาะสมุย (He has been to Koh Samui)
3. คุณเคยลองอาหารไทยหรือยัง (Have you ever tried Thai food?)
4. เราได้พบกันมาตั้งแต่เดือนมกราคม (We have known each other since January)
5. แฟนของฉันไปอเมริกาและกลับมาเมื่อวานนี้ (My girlfriend has gone to America and came back yesterday)
6. ฉันได้ซื้อหนังสือที่ห้างสรรพสินค้า (I have bought a book at the department store)
7. เธอได้ซื้อกิจกรรมสำหรับเด็ก (She has bought activities for kids)
8. พ่อของฉันเป็นแพทย์มาเป็นเวลา 20 ปี (My father has been a doctor for 20 years)
9. เราขอบคุณคุณมากที่ช่วยเรา (We have thanked you very much for helping us)
10. เขาไม่เคยเห็นภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อน (He has never seen this movie before)

11. ตึกสูงนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี (This tall building has been over 100 years old)
12. เราไม่พบกันตั้งแต่จบมัธยมศึกษาอยู่แล้ว (We haven’t seen each other since we finished high school)
13. ทีมฟุตบอลรายนี้เพิ่งเสร็จสู้เกมล่าสุด (This football team has just finished their last match)
14. เพลงนี้ฮิตมาตั้งแต่ปี 1985 (This song has been a hit since 1985)
15. ไม่มีใครเคยทดสอบเครื่องแล้ว (Nobody has tested the machine yet)
16. คุณเคยดื่มกาแฟกันไหม (Have you ever drunk coffee?)
17. เขาได้ลองทำครัวแล้วใช่ไหม (She has tried cooking, hasn’t she?)
18. ตอนนี้ฉันอ่านหนังสือนิยาย (I have been reading a novel at the moment)
19. เรายังไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ (We have never traveled abroad)
20. พรุ่งนี้ครูมิตรชัยจะมาสอนเรา (Next day, Teacher Mitrchai will have come to teach us)

FAQs (Frequently Asked Questions)
1. Present Perfect Tense เกี่ยวข้องกับกริยาอะไรบ้างในประโยค?
Present Perfect Tense เกี่ยวข้องกับกริยาช่วย “have” (I, you, we, they) และ “has” (he, she, it) เพื่อช่วยรูปภาษาไทยให้เป็น Present Perfect Tense

2. Present Perfect Tense ใช้ในกรณีใดบ้าง?
Present Perfect Tense ใช้เมื่อเราต้องการพูดถึงเหตุการณ์ที่เริ่มขึ้นในอดีต และสรุปผลในปัจจุบัน หรือยังมีผลกระทบในปัจจุบัน

3. จากตัวอย่างประโยค 12 มีความหมายอย่างไร?
ตัวอย่างประโยคที่ 12 มีความหมายว่าเคยเห็นกันครั้งสุดท้ายตอนผู้พูด (We) เรียนจบขั้นมัธยมศึกษา แล้วหมู่สมาชิกคนนั้นพบกันแล้วห่างกัน

4. Present Perfect Tense และ Past Simple ต่างกันอย่างไร?
Present Perfect Tense ให้ความหมายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและสรุปผลในปัจจุบัน ในขณะที่ Past Simple เน้นการเกิดเหตุการณ์ในอดีตเท่านั้น

5. หากไม่อยากใช้ Present Perfect Tense สามารถใช้ Past Simple แทนได้หรือไม่?
สามารถใช้ Past Simple แทนที่ Present Perfect Tense ได้ แต่ต้องเข้าใจผลสรุปในปัจจุบันให้ถูกต้องเพื่อรับรู้ความแตกต่างในความหมายของประโยค

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense 20 ประโยคในภาษาไทย

Present Perfect Continuous Tense หรืออดีตกาลปัจจุบันแสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังเรียกผลมาจนถึงปัจจุบัน โดยเน้นการเริ่มต้นของเหตุการณ์และความยาวระยะเวลาเหตุการณ์นั้น ๆ ในบางครั้ง ประโยค Present Perfect Continuous Tense อาจใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันที่บางคนจะเกลียดหรือกังวลเกี่ยวกับการใช้ Past Continuous Tense ในแบบ Past Perfect Continuous Tense กรณีที่มีการตีความผิดเอาใจเยาะขี้นมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense ภาษาไทยกันเถอะ!

1. เขาได้ทำงานในบริษัทนี้มานานหนึ่งปีแล้ว
2. พวกเขาเรียนภาษาอังกฤษมาหลายปีแล้ว
3. ฉันกำลังอ่านหนังสือเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อเช้า
4. เธอเขียนบทความมานานหลายชั่วโมงแล้ว
5. ฉันทำงานในสวนผลไม้ตลอดทั้งเช้า
6. คุณดูภาพยนตร์นี้มานานหลายครั้งแล้วหรือยัง?
7. เขามีประสบการณ์อยู่ในวงการนี้มาหลายปีแล้ว
8. เธอออกวิ่งตามข้างทะเลมานานหลายชั่วโมงแล้ว
9. ฉันอู้มกินต้มยำกุ้งตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
10. เขาเตรียมอาหารไทยมาตั้งแต่เช้า
11. พวกเขากำลังฟังเพลงนี้มาตั้งแต่ตอนเย็น
12. เราเล่นเกมนี้มานานหลายชั่วโมงแล้ว
13. เธอทาผมมานานหลายชั่วโมงแล้ว
14. ฉันทำงานจนกี่โมงแล้วก็จะนอน
15. เขามีเพื่อนที่มาเยือนมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
16. พวกเขาออกจากงานกรุงเทพมาแล้ว
17. เรางอกบิดเมื่อเมื่องานไม่สำเร็จ
18. เขาออกกำลังกายมานานหลายชั่วโมงแล้ว
19. ฉันกำลังเขียนบทความนี้มาตั้งแต่บ่าย
20. เธอเล่นดนตรีมานานหลายปีแล้ว

คำถามที่พบบ่อย

1. ข้อแตกต่างระหว่าง Present Perfect Continuous Tense กับ Present Perfect Tense คืออะไร?

Present Perfect Continuous Tense เน้นความยาวระยะเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตไปจนถึงปัจจุบัน โดยเน้นการเริ่มต้นและความต่อเนื่อง ส่วน Present Perfect Tense เน้นผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในอดีตไปถึงปัจจุบัน โดยไม่เน้นการคืนเคลื่อนจากเรื่องราวในอดีตกลับมาถึงปัจจุบัน

2. Present Perfect Continuous Tense ใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง?

Present Perfect Continuous Tense มักใช้เมื่อต้องการเล่าเรื่องราวที่มีความยาวหรือต่อเนื่อง หรือเรื่องราวที่มีความสัมพันธ์กับปัจจุบัน อาทิเช่น เรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานต่อเนื่องในอดีตหรือเวลาที่กำลังทำงานในปัจจุบัน

3. ทำไม Present Perfect Continuous Tense ถึงเป็นเวลาที่ยากในการเรียนรู้?

Present Perfect Continuous Tense เป็นเวลาที่ยากในการเรียนรู้เนื่องจากมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย และต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ตัวช่วยชั่วหน้า (have/has been) และตัวระยะเวลา อีกทั้งความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้คำกริยาส่วนประโยคที่ถูกต้อง

พบ 15 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตัวอย่างประโยคpresent perfect.