ตัวอย่าง ประโยค Linking Verb
Linking Verb เป็นองค์ประกอบสำคัญในประโยคภาษาไทยที่เชื่อมความหมายระหว่างชื่อเอกพจน์หรือคำอุทานกับ subject ในประโยค โดยทำหน้าที่ในการบ่งบอกหรือเรียกขึ้นว่าชื่อเอกพจน์หรือคำอุทานเป็นอย่างไร
การใช้ Linking Verb ในประโยคเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างไรในภาษาไทย
การใช้ Linking Verb ในภาษาไทยเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสื่อสารและเชื่อมต่อความหมายระหว่างชื่อเอกพจน์หรือคำอุทานกับ subject ในประโยค ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้
1. การใช้ Linking Verb เพื่อเชื่อมความหมายระหว่างชื่อเอกพจน์กับชื่อคำกริยาในประโยค
เมื่อต้องการอธิบายสถานะหรือคุณลักษณะของชื่อเอกพจน์ จะใช้ Linking Verb เชื่อมต่อกับคำกริยาที่เป็นชื่อคุณลักษณะที่ต้องการอธิบาย โดยเป็นส่วนหนึ่งของ subject ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่มี Linking Verb ในภาษาไทย:
– เธอคือนักเรียนที่ดี (Linking Verb: คือ)
– เจ้าหญิงกลายเป็นมด (Linking Verb: กลายเป็น)
2. การใช้ Linking Verb เพื่อเชื่อมความหมายระหว่างชื่อเอกพจน์กับคำอุทานในประโยค
เมื่อต้องการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับชื่ออุทานที่เป็นคุณลักษณะหรือสถานะของชื่อเอกพจน์ จะใช้ Linking Verb เชื่อมต่อกับคำอุทานเพื่อเป็นการกำหนดหรืออธิบายคุณลักษณะหรือสถานะของชื่อเอกพจน์
ตัวอย่างประโยคที่มี Linking Verb ในภาษาไทย:
– พระองค์คือความรักและความสงบ (Linking Verb: คือ)
– กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย (Linking Verb: เป็น)
3. การผันรูป Linking Verb ในแต่ละประโยคให้ถูกต้อง
Linking Verb เป็นคำกริยาที่ไม่มีรูปภาคผ่านหรือภาคแสดง tense หรือของคำแสดงการเปลี่ยนแปลงเวลาของประโยค เนื่องจากมีหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างชื่อเอกพจน์หรือคำอุทานกับ subject ในประโยค
ตัวอย่างประโยคที่ผันรูป Linking Verb ในภาษาไทย:
– เขากำลังเป็นครู (ตัวอย่างที่ถูกต้อง)
– เขากำลังเป็นครูใหม่ (ตัวอย่างที่ไม่ถูกต้อง)
4. การปรับคำนามหรือคำกริยาเพื่อช่วยกันใช้ Linking Verb ในประโยค
เมื่อต้องการใช้ Linking Verb ในประโยค อาจจำเป็นต้องปรับคำนามหรือคำกริยาเพื่อให้ตรงกับ subject หรือเพื่อตรงตามความหมายที่ต้องการสื่อแสดงในประโยคนั้น
ตัวอย่างประโยคที่ปรับคำนามหรือคำกริยาเพื่อช่วยใช้ Linking Verb ในภาษาไทย:
– ห้องน้ำแห่งนี้กลายเป็นเหมือนอุโมงค์ (คำกริยาปรับ: กลายเป็น)
– เด็กหญิงคนนี้เป็นมิตรและสุภาพ (คำนามปรับ: เป็น)
นอกจากนี้ยังมีคำอื่นๆ ที่เป็น Linking Verb ในภาษาไทยอีกมากมาย เช่น และ, ก็, ให้, ครอบครัว, เป็นต้น
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
1. Linking Verb คืออะไร?
Linking Verb หมายถึงคำกริยาที่ใช้เชื่อมต่อชื่อเอกพจน์หรือคำอุทานกับ subject ในประโยค เพื่อเสริมแสดงคุณลักษณะหรือสถานะของชื่อเอกพจน์หรือคำอุทานในประโยคนั้น
2. Linking Verb อ่านว่าอย่างไร?
Linking Verb อ่านว่า “ลิงกิ้ง เวิร์บ” หรือ “ลิงกิ้ง เวิร์บ”
3. Linking Verb + Adj คืออะไร?
Linking Verb + Adj หมายถึงการใช้คำกริยาที่เป็น Linking Verb เชื่อมต่อกับคำคุณลักษณะที่ต้องการอธิบายหรือสื่อในประโยค
4. Linking Verb ครูสมศรีตัวอย่าง ประโยค Linking Verb คืออะไร?
ตัวอย่างประโยค Linking Verb ครูสมศรี:
– หนังเชอร์ล็อคเป็น (Linking Verb) ภาพยนตร์ที่ทำเงินดีที่สุดในปีนี้
Linking Verb ตัวอย่าง, Linking Verb สรุป, Linking Verb แบบฝึกหัด พร้อม เฉลย, Subject linking verb complement ตัวอย่าง, Linking Verb คือ, linking verb อ่านว่า, linking verb + adj คือ, linking verb ครูสมศรีตัวอย่าง ประโยค linking verb
Linking Verbs ที่ควรรู้ และโครงสร้างประโยคของ Linking Verbs
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: ตัวอย่าง ประโยค linking verb Linking verb ตัวอย่าง, Linking verb สรุป, Linking verb แบบฝึกหัด พร้อม เฉลย, Subject linking verb complement ตัวอย่าง, Linking verb คือ, linking verb อ่านว่า, linking verb + adj คือ, linking verb ครูสมศรี
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตัวอย่าง ประโยค linking verb
หมวดหมู่: Top 37 ตัวอย่าง ประโยค Linking Verb
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
Linking Verb ตัวอย่าง
ให้เริ่มเลย
ก่อนที่เราจะทำความรู้จักกับ “Linking verb” ในภาษาไทย เราควรทราบก่อนเป็นอย่างดีว่า “Linking verb” หรือ “ตัวกริยาช่วง” คืออะไร
“Linking verb” หรือ “ตัวกริยาช่วง” เป็นอีกหนึ่งหมวดหมู่ของกริยาในภาษาที่ใช้เชื่อมกลุ่มคำที่เป็นนามและคำคุณศัพท์เรียกว่า “Subject complement” ที่มีหน้าที่นำมาเชื่อมกริยาให้เป็นประโยคที่เต็มถัดมาเกี่ยวข้องกับเรื่องหรือได้รับบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของกริยาในประโยคนั้นๆ
ตัวอย่างประโยคที่เราพบตัวกริยาช่วงมากที่สุดในชีวิตประจำวันคือ “เขาคือครู” ในประโยคนี้ เราสามารถเขียนได้สองส่วนที่สำคัญ คือ “เขา” เป็น Subject และ “ครู” เป็น Subject complement หรือจังหวะของกริยาช่วงในประโยค
มาดูตัวอย่างของ Linking verb ต่างๆ ในภาษาไทยกันบ้าง
1. เป็น (to be) – ตัวกริยาช่วงที่น่าสนใจและดังนับถือมากที่สุดในภาษาไทยคือ “เป็น” เป็นตัวกริยาช่วงที่ใช้เชื่อมนามและคำคุณศัพท์เดียวกับประโยค ตัวอย่างประโยค “เขาคือครู” เห็นได้ชัดว่า “เป็น” เป็นตัวกริยาช่วงที่เชื่อมคำในประโยคทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน
2. ดูเหมือน (to look) – ตัวกริยาช่วงที่บ่งชี้ถึงสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้เป็น “ดูเหมือน” ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจากผู้ที่รับบททำให้เป็นผู้ที่รับบททำตัวได้ตามสภาวะบางอย่าง เช่น “เธอดูเหมือนนักเรียนที่มีทักษะด้านคณิตศาสตร์”
3. เหมือน (to seem) – ตัวกริยาช่วงที่ใช้เพื่อบ่งชี้ถึงคำนึงถึงสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติของสิ่งนั้นๆ คำว่า “เหมือน” ใช้เชื่อมกริยากับนามหรือคำคุณศัพท์ เช่น “ผลไม้หอมเหมือนปลายฝน”
การใช้งานตัวกริยาช่วงในภาษาไทยสามารถสรุปได้ว่ามีลักษณะในการใช้ที่หลากหลายและสร้างประโยคให้เป็นเอกลักษณ์ของภาษาไทยอีกด้วย
แต่ละหมวดหมู่ของตัวกริยาช่วงในภาษาไทยมีความหมายและลักษณะที่แตกต่าง ในการเรียนรู้และใช้งานภาษาไทย เราจำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมการใช้งานที่ถูกต้องของตัวกริยาช่วงในภาษาไทยเพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในประโยคอื่นๆ ได้
ส่วนที่สำคัญที่สุดในการใช้งานตัวกริยาช่วงในภาษาไทยคือ “คำที่ใช้เพื่อการให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรืองานเฉพาะ” เช่น “ตัวอย่าง” หรือ “ในการทำงาน”
ได้เวลาจะตอบคำถามทั่วไปที่ผู้คนมักจะมีต่อ Linking verb ตัวอย่างในภาษาไทยแล้ว ดังนี้
คำถามที่ 1: Linking verb ตัวอย่างในภาษาไทยเป็นอะไรบ้าง?
คำตอบ: Linking verb ตัวอย่างในภาษาไทยได้แก่ “เป็น”, “ดูเหมือน”, “เหมือน” และอื่นๆ อีกมากมาย
คำถามที่ 2: Linking verb ตัวอย่างในภาษาไทยมีลักษณะการใช้งานอย่างไร?
คำตอบ: Linking verb ตัวอย่างในภาษาไทยมีลักษณะการใช้ต่างๆ สามารถเชื่อมกริยากับนามหรือคำคุณศัพท์ หรือใช้เพื่อบ่งชี้ถึงสภาวะทางจินตนาการ
คำถามที่ 3: การใช้ Linking verb ตัวอย่างในประโยคภาษาไทยทำให้ประโยคเป็นอย่างไร?
คำตอบ: การใช้ Linking verb ตัวอย่างให้ถูกต้องทำให้ประโยคเป็นประโยคช่วงในภาษาไทย โดยเชื่อมกลุ่มคำที่เป็นนามและคำคุณศัพท์ไปด้วยกัน
Linking Verb สรุป
สรุป is derived from the Thai word “สรุปรวม” which means “to summarize.” As a linking verb, it is used to connect the subject of a sentence with a summarizing or concluding phrase or clause. It helps to convey the final outcome or overall message of the information being shared. The word order in a sentence with สรุป is as follows: subject + สรุป + summarizing phrase/clause.
For example:
1. เขาเป็นนักเตะที่เก่ง (kǎo pen nák té thī kǎeng) – He is a skilled football player.
สรุป, เขาเป็นนักเตะที่เก่ง (sǔp, kǎo pen nák té thī kǎeng) – In conclusion, he is a skilled football player.
2. ความประสบการณ์นี้สำคัญมาก (khwāam prasòp kanī sǎmkhan mâak) – This experience is very important.
สรุป, ความประสบการณ์นี้สำคัญมาก (sǔp, khwāam prasòp kanī sǎmkhan mâak) – In summary, this experience is very important.
3. เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย (rêuang nī mâi châi rêuang ngâai) – This matter is not easy.
สรุป, เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย (sǔp, rêuang nī mâi châi rêuang ngâai) – To sum up, this matter is not easy.
In addition to summarizing information, สรุป can also be used to make a general statement or share one’s overall opinion about a particular subject. It reflects the speaker’s viewpoint or evaluation of a situation or concept.
For example:
1. สรุป, ฉันคิดว่าดูฟุตบอลน่าเบื่อ (sǔp, chǎn khít wâa duu fút bɔɔl nâa bè̀u) – In my opinion, I think watching football is boring.
2. สรุป, การอ่านหนังสือมีประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ (sǔp, gaan àan nǎng sǔue mii bprà-yòot sǎmràp gaan rian-rúu) – In general, reading books is beneficial for learning.
Now, let’s address some frequently asked questions related to the use of สรุป:
Q1: Can สรุป be used interchangeably with other linking verbs in Thai?
A1: No, สรุป has a specific function of summarizing or concluding information, and it cannot be used in the same way as other linking verbs like เป็น (pen) or อยู่ (yùu).
Q2: Can สรุป be used at the beginning of a sentence instead of the end?
A2: While it is more common for สรุป to appear at the end of a sentence, it is possible to use it at the beginning for emphasis or stylistic purposes. However, this usage is less common and should be used sparingly.
Q3: Can สรุป be used in formal writing?
A3: Yes, สรุป can be used in both formal and informal writing. It provides a concise way to summarize information and is suitable for various contexts.
Q4: Are there any synonyms for สรุป in Thai?
A4: Yes, there are alternative ways to express summarizing or concluding ideas in Thai. Some synonyms for สรุป include สรุปรวม (sǔp-rūam), สรุปข้อสรุป (sǔp k̄hx sǔp), or เสร็จสิ้น (sèt-sǐn).
To conclude, สรุป is a versatile linking verb in Thai that helps summarize or conclude information. It connects the subject of a sentence with a summarizing phrase or clause, reflecting the speaker’s opinion or evaluation. Its flexible usage makes it a valuable tool for expressing overall conclusions or conveying the main message in a concise manner. Whether in spoken or written Thai, สรุป is a useful verb that can enhance clarity and coherence in communication.
Linking Verb แบบฝึกหัด พร้อม เฉลย
ตัวอย่างของลิงก์วาจาคือ “be”, “become”, “seem”, “appear”, “look”, “feel”, “taste”, “sound”, “smell”, “remain” เป็นต้น ในประโยค “He is a doctor”, “is” เป็นลิงก์วาจาที่เชื่อมคำนาม “doctor” และ “He seems happy”, “seems” เป็นลิงก์วาจาที่เชื่อมคำคุณศัพท์ “happy”
ลิงก์วาจาส่วนใหญ่นั้นมีผู้ปฏิบัติกิจกรรมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคำนามหรือคำคุณศัพท์ ซึ่งทำให้ประโยคเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น “She becomes a teacher.” เป็นต้น เพราะว่าเมื่อคุณใช้ลิงก์วาจา “becomes” กับคำนาม “teacher” จะมีการเปลี่ยนแปลงจากการเป็นอย่างอื่น และกลายเป็นครู
ลิงก์วาจานั้นถูกนำมาใช้ในสายงานหลากหลาย เช่น ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่นำมาใช้ในการแสดงคุณลักษณะของสิ่งต่าง ๆ อย่างละเอียดและรายละเอียด ผู้ที่มีความคิดเห็นว่าลิงก์วาจาเป็นรูปแบบหนึ่งของอารมณ์ความรู้สึกและคุณภาพที่ไม่เกี่ยวกับเวลา โดยในการใช้ลิงก์วาจาจะต้องมีค่อนข้างละเอียดในเรื่องของไวยากรณ์และประโยค ถ้าหากทำไม่ถูกต้อง อาจทำให้การแสดงความหมายมีความกังวล
ฝึกฝนการใช้ลิงก์วาจาที่ถูกต้อง:
1. ผลของการใช้เวลา (Time)
– เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ลิงก์วาจาเลย เนื่องจากสิ่งที่เรากล่าวถึงอยู่ในปัจจุบัน หรือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอ ๆ เช่น “I am hungry.” หรือ “She is my friend.”
2. ลักษณะทางกายภาพ (Appearance)
– ลักษณะทางกายภาพเป็นคุณสมบัติที่เป็นลักษณะเอกชนิด และส่วนใหญ่ดูเหมือนจะใช้ลิงก์วาจา “be” เช่น “She is beautiful.” หรือ “He looks tired.”
3. คุณลักษณะทางอารมณ์ (Mood)
– การใช้ลิงก์วาจาในกรณีที่ผู้คุยต้องการที่จะอธิบายความรู้สึก เช่น “She seems happy.” หรือ “He feels sad.”
4. สัมพันธภาพทางกาย (Physical sensation)
– สัมพันธภาพทางกายเกิดขึ้นเมื่อคุณรับรู้ได้ถึงอาการที่เกิดขึ้นบนร่างกาย เช่น “The coffee tastes bitter.” หรือ “The music sounds great.”
การใช้ลิงก์วาจาในประโยคที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คำนามหรือคำคุณศัพท์สอดคล้องกับกริยาอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับความหมายที่ต้องการจะเสนอ การใช้ลิงก์วาจาที่ผิด อาจทำให้ประโยครู้สึกอึดอัดไม่สมบูรณ์ หรือไม่ชัดเจน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับลิงก์วาจา:
1. สามารถใช้ “be” แทนคำใดได้บ้าง?
– “be” สามารถใช้แทนคำในรูปแบบการสร้างของคุณลักษณะเป็นหนึ่งเท่านั้น เช่น “He is smart.” สามารถแปลได้เป็น “He looks smart” หรือ “He appears smart.”
2. ทำไมในบางกรณีถึงต้องใช้ลิงก์วาจา?
– เพราะลิงก์วาจามีหน้าที่เชื่อมโยงคำนามหรือคำคุณศัพท์กับกริยา ซึ่งทำให้เราเข้าใจว่าสิ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างไร
3. เมื่อใดที่เราถึงต้องใช้ลิงก์วาจาในประโยค?
– เราต้องใช้ลิงก์วาจาเมื่อเราต้องการเชื่อมแทนคำนามหรือคำคุณศัพท์กับกริยา หรือเมื่อเราต้องการอธิบายสิ่งต่าง ๆ เช่นลักษณะทางกายภาพ ความรู้สึก หรือสัมพันธภาพทางกาย
4. จะใช้ลิงก์วาจาอย่างไรในแต่ละเหตุการณ์?
– การใช้ลิงก์วาจาจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของคำนามหรือคำคุณศัพท์ หากเราต้องการพูดถึงคุณลักษณะหรือสภาพที่เป็นลักษณะเอกชนิด เราควรใช้ลิงก์วาจาที่สอดคล้องกับแต่ละคำ
เพื่อให้การใช้ลิงก์วาจาให้ถูกต้องและสื่อความหมายได้ถูกต้อง ควรฝึกฝนการใช้ลิงก์วาจาในประโยคต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวมา และทำความเข้าใจในลักษณะการใช้ลิงก์วาจาในบริบทต่าง ๆ
ในสรุป, ลิงก์วาจาเป็นกริยาที่สำคัญในภาษาอังกฤษที่มีหน้าที่เชื่อมโยงคำนามหรือคำคุณศัพท์กับกริยา และสามารถใช้ในหลายสถานการณ์และบริบทต่าง ๆ หากต้องการใช้ลิงก์วาจาอย่างถูกต้อง ควรใช้รูปแบบที่สอดคล้องกับคำนามหรือคำคุณศัพท์ที่ใช้ในประโยค เพื่อให้ประโยคมีความหมายที่ชัดเจนและเป็นระบบ
พบ 14 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตัวอย่าง ประโยค linking verb.
ลิงค์บทความ: ตัวอย่าง ประโยค linking verb.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ ตัวอย่าง ประโยค linking verb.
- linking verb คืออะไร มีอะไรบ้าง ต่างจาก Verb to be อย่างไร ดู …
- linking verbs มีหน้าที่อย่างไร – GrammarLearn
- Linking Verb: รวมไวยากรณ์ที่น่ารู้ พร้อมแบบฝึกหัด – Eng Breaking
- การใช้ Linking Verb [Verb + Adjective] กริยาที่ตามด้วย Adj
- หลักการใช้ Linking Verb – Engcouncil
- Grammar: หลักการใช้ Linking verb คำกริยาผู้มาแทน Verb to be
- Linking verbs คือ..? มีอะไรบ้าง..? – English So Easy
- Linking Verb คือกริยาที่ใช้แสดงสภาพ หรือความรู้สึกของประธาน
- มาทำความรู้จักกับ Linking Verbs ให้มากขึ้น – NockAcademy
- เคล็ดลับ การใช้กริยาเชื่อม (Linking verbs) ที่ไม่ควรพลาด
ดูเพิ่มเติม: lasbeautyvn.com/category/digital-studios