ตารางTense
แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับตาราง Tense
คำว่า Tense หมายถึงการอ้างอิงถึงเวลาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กล่าวคือ Tense หมายถึงเวลาที่กล่าวถึงในประโยค เช่น อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต การใช้ Tense ในภาษาไทยแตกต่างจากภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปเราใช้ต้นการเปลี่ยนแปลงของตัวกลุ่มคำตามเนื้อหาที่ถูกกล่าวถึงร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยแยกเป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ดังนั้นในการศึกษาเรื่อง Tense เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจและใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง
องค์ประกอบของตาราง Tense
ตาราง Tense ในภาษาไทยมี 6 องค์ประกอบหลัก ๆ ที่ต้องรู้คือ อดีต, ปัจจุบัน, อนาคต, สิ่งที่เป็นจริง, คำกริยาช่วย และคำกริยาในสถานะที่ไม่คงตัว เพื่อให้สามารถสร้างประโยคในรูปแบบที่ถูกต้องได้
1. ตาราง Tense ในประโยคประกอบและประกอบเอง
ในภาษาไทยมี 4 กลไกหลักในการเพิ่มข้อมูลเวลาลงในประโยค คือ คำบอก, เข้ารหัสเวลา, คำบอกเหตุการณ์/สถานะ และคำสรรพนาม การใช้งานแต่ละกลไกจะมีหลักการและลักษณะเฉพาะของตนเอง เช่น
– คำบอก: ใช้คำบอกหรือคำวิเศษณ์ที่เกี่ยวข้องกับเวลา เช่น เมื่อวาน, วันนี้
– เข้ารหัสเวลา: ใช้คำพราหมณ์ในการเข้ารหัสเวลา เช่น ที่แล้ว, ตอนนี้
– คำบอกเหตุการณ์/สถานะ: ใช้คำบอกซึ่งช่วยให้เห็นภาพของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น กำลัง, จะ
– คำสรรพนาม: ใช้คำสรรพนามที่เกี่ยวข้องกับเวลา ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น สรรพนามบุรุษ พหูพจน์ และเอกพจน์
2. การใช้ตาราง Tense เพื่อแสดงเหตุการณ์ในอดีต
Tense ในภาษาไทยแสดงเหตุการณ์ในอดีตโดยการใช้คำกริยาที่มีลักษณะของการเปลี่ยนแปลงตัวคำกริยาให้เป็นอดีต เช่น
อดีตกาลเจาะคณิตศาสตร์ เช่น
– เมื่อวานผมไปร้านอาหาร (อดีตกาลกำหนดเป็นคาบ ๆ)
– เมื่อวานตอนเย็นผมไปหนัง (อดีตกาลกำหนดเป็นเวลาที่เกิดขึ้นแล้วเสร็จสิ้น)
อดีตกาลละความเร่งรีบ เช่น
– วานผมกำลังนอนก็ตื่น
– เมื่อกี้อากาศร้อนมาก
3. การใช้ตาราง Tense เพื่อแสดงเหตุการณ์ในปัจจุบัน
ขณะที่ Tense ในภาษาอังกฤษแสดงเหตุการณ์ในปัจจุบันโดยการใช้คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบเมื่ออ้างถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน เช่น
ปัจจุบันกาลเจาะคณิตศาสตร์ เช่น
– ผมกินข้าวที่กินอะไร (คำกริยาไม่เปลี่ยนรูป)
4. การใช้ตาราง Tense เพื่อแสดงเหตุการณ์ในอนาคต
ในภาษาไทย Tense ใช้คำกริยาในอนาคตโดยการใช้คำบอกเวลาเหตุการณ์เป็นอนาคต เช่น
อนาคตกาลเจาะคณิตศาสตร์ เช่น
– พรุ่งนี้ต้องไปไหน (อนาคตกาลกำหนดเป็นเวลาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต)
– ชาวบ้านจะมาที่นี่ (อนาคตกาลกำหนดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต)
การใช้ตาราง Tense ในภาษาไทยจำเป็นต้องใส่ใจในการเลือกใช้คำกริยาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละเวลา
ตาราง Tense ในภาษาไทย
อดีต | Tense (ก่อนหน้ากริยา) + กริยา
_________________________________________
ปัจจุบัน | กำลัง + กริยา หรือ กริยา
_________________________________________
อนาคต | จะ + กริยา
ช่วยให้เข้าใจและใช้ Tense ในภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง จำต้องศึกษาและฝึกปฏิบัติใช้ตาราง Tense ให้เข้าใจเป็นอย่างดี เพื่อใช้ในการสื่อสารและการใช้ภาษาไทยในทุก ๆ บทวิชา
FAQs ตัวกรอง Tense
Q: เมื่อไหร่ควรใช้ Tense ในภาษาไทย?
A: การใช้ Tense ในภาษาไทยขึ้นอยู่กับเนื้อหาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลักการเบื่องต้นคือการใช้คำกริยาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับเวลา และการอ่านตาราง Tense จะช่วยให้ครอบคลุมคำตอบเกี่ยวกับวิธีการใช้ภาษาไทยในแต่ละเวลา
Q: หากมีการนำ Tense จากภาษาอื่นมาใช้ในภาษาไทย จะถูกต้องหรือไม่?
A: ไม่ใช่ทุกครั้ง เนื่องจากภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ มีลักษณะการใช้ Tense ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการนำ Tense จากภาษาอื่นมาใช้ในภาษาไทยอาจทำให้ประโยคเป็นไปอย่างไม่ถูกต้องหรือเข้าใจได้ยาก
Q: มีหลักการใช้คำกริยาสำหรับ Tense ในภาษาไทยหรือไม่?
A: ในภาษาไทยหลักการใช้คำกริยาเพื่อแสดง Tense ขึ้นอยู่กับลักษณะของเหตุการณ์และเวลา และใช้คำบอก, เข้ารหัสเวลา, คำบอกเหตุการณ์/สถานะ, และคำสรรพนามเป็นรูปแบบที่ช่วยให้เข้าใจและใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
Q: มีเคล็ดลับใดในการเรียนรู้และใช้ Tense ในภาษาไทยได้ถูกต้องหรือไม่?
A: เคล็ดลับสำคัญคือการอ่านและฝึกใช้ตาราง Tense ให้มีความเข้าใจ การฝึกใช้ภาษาไทยในทุก ๆ บทวิชาและดำเนินการที่ตรงกับเหตุการณ์และเวลาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้การเรียนรู้โดยการฟังและพูดภาษาไทยในสถานการณ์ต่าง ๆ ยังช่วยให้เข้าใจและใช้งาน Tense ได้อย่างคล่องแคล่วในชีวิตประจำวัน
ในการใช้ Tense ในภาษาไทยเราสามารถนำตาราง Tense ที่ให้มาจากบทความนี้มาใช้เป็นแนวทางในการสร้างประโยคให้ถูกต้องและมีความสอดคล้องกับเหตุการณ์และเวลาที่เกิดขึ้น การรู้และใช้ Tense ในภาษาไทยเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจโครงสร้างและรูปแบบของภาษาไทยได้เป็นอย่างดี ลองฝึกและใช้งาน Tense ในประโยคเพื่อประสบความสำเร็จในการเรียนรู้และใช้ภาษาไทยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในทุก ๆ การสื่อสาร
วิธีจำ 12 Tenses จำแบบนี้ ไม่มีลืม!! (เข้าใจง่าย ไม่ต้องท่อง)
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: ตารางtense
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตารางtense
หมวดหมู่: Top 68 ตารางTense
12 Tense มีอะไรบ้าง
1. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นบวก (Positive)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นบวกใช้สำหรับกิริยาที่ไม่ลงท้ายด้วยเสียง “ย” หรือ “ว” ซึ่งในกรณีนี้จะต้องเพิ่มเสียง “อ” หลังกริยา เช่น ชอบ – ชอบแล้ว
2. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นลบ (Negative)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นลบใช้สำหรับกริยาที่ลงท้ายด้วยเสียง “ย” หรือ “ว” โดยการเปลี่ยนเสียงสระ “ย” เป็น “อย” และเปลี่ยนเสียงสระ “ว” เป็น “วย” ซึ่งละสระตามหลังกริยา เช่น กิน – ไม่กินแล้วเสร็จ, อ่าน – ไม่อ่านแล้วเสร็จ
3. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นกรรม (Object)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นกรรมใช้สำหรับกริยาที่มีคนเป็นกรรมเป็นย่อมเช่น รู้ – รู้แล้ว, ชอบ – ชอบแล้ว
4. รูปกริยาอดีตแสดงความสมบูรณ์ (Perfect)
รูปกริยาอดีตแสดงความสมบูรณ์ใช้สำหรับกริยาที่เสร็จแล้ว หรือมีตัวเองเหตุการณ์นั้น เช่น หัด – หัดแล้วเสร็จ, ปิด – ปิดแล้วเสร็จ
5. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากกลุ่มเล็กไปกลุ่มใหญ่ (Transitive-Intransitive)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากกลุ่มเล็กไปกลุ่มใหญ่ใช้สำหรับกริยาที่สามารถใช้ในรูปกริยาตรงกลุ่มของตนได้ และสามารถใช้ที่สรภาพของคนหรือสร้างเอกสารขึ้นมา เช่น แค่งั้น – แค่นั้นแล้วเสร็จ, ไป – ไปแล้ว
6. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากกลุ่มใหญ่ไปกลุ่มเล็ก (Intransitive-Transitive)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากกลุ่มใหญ่ไปกลุ่มเล็กใช้กับกริยาที่ไม่สามารถใช้ในรูปกริยาตรงกลุ่มของตนเองได้ แต่สามารถใช้ที่สรภาพของคนหรือสร้างเอกสารขึ้นมา เช่น มี – มีแล้ว, ได้ – ได้แล้ว
7. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเคลื่อนที่ (Movement)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเคลื่อนที่ใช้กับกริยาที่แสดงความเคลื่อนที่ของคนหรือสิ่งของ เช่น เดิน – เดินแล้ว, วิ่ง – วิ่งแล้ว
8. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการใช้ไว้ (Usage)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น แต่ง – แต่งแล้ว, สั่ง – สั่งแล้ว
9. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเรียนรู้ (Learning)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเรียนรู้ใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ เช่น เรียน – เรียนแล้ว, จำ – จำแล้ว
10. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการค้าขาย (Commerce)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการค้าขายใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับการซื้อขาย หรือการทำธุรกรรมเช่น ซื้อ – ซื้อแล้ว, ขาย – ขายแล้ว
11. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการใช้เทคโนโลยี (Technology)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการใช้เทคโนโลยีใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี เช่น ถ่าย – ถ่ายแล้ว, โทร – โทรแล้ว
12. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเดินทาง (Travel)
รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเดินทางใช้กับกริยาที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น ขึ้น – ขึ้นแล้ว, ลง – ลงแล้ว
คำถามที่พบบ่อยเรื่องรูปกริยาอดีต (FAQs)
1. กริยาอดีตเป็นอะไร?
– กริยาอดีตคือรูปของคำกริยาที่ใช้เมื่อต้องการเล่าเรื่องหรืออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตหรือเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนปัจจุบันในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
2. รูปกริยาอดีตแสดงอะไรบ้าง?
– รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นบวก, ความเป็นลบ, ความเป็นกรรม, ความสมบูรณ์, ความเป็นเรื่องจากกลุ่มเล็กไปกลุ่มใหญ่, ความเป็นเรื่องจากกลุ่มใหญ่ไปกลุ่มเล็ก, ความเป็นเรื่องจากการเคลื่อนที่, ความเป็นเรื่องจากการใช้ไว้, ความเป็นเรื่องจากการเรียนรู้, ความเป็นเรื่องจากการค้าขาย, ความเป็นเรื่องจากการใช้เทคโนโลยี, และความเป็นเรื่องจากการเดินทาง
3. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากกลุ่มเล็กไปกลุ่มใหญ่ใช้ตอนไหน?
– รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากกลุ่มเล็กไปกลุ่มใหญ่เป็นการถ่ายทอดข้อมูลของกริยาที่สามารถใช้ได้ในกลุ่มของตัวเอง และสามารถใช้ได้ในสร้างเอกสารเช่นคนหรือสิ่งของ
4. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการใช้เทคโนโลยีใช้ตอนไหน?
– รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการใช้เทคโนโลยีเป็นการถ่ายทอดข้อมูลของกริยาที่เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี เช่นการถ่ายภาพ หรือการโทร
5. รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเดินทางใช้ตอนไหน?
– รูปกริยาอดีตแสดงความเป็นเรื่องจากการเดินทางเป็นการถ่ายทอดข้อมูลของกริยาที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของคนหรือสิ่งของเช่นการเดิน หรือการขึ้นลง
การใช้รูปกริยาอดีตให้ถูกต้องและเหมาะสมในบริบทต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เราสื่อสารได้อย่างชัดเจน และเข้าใจจุดประสงค์ของการพูดหรือการเล่าเรื่องได้อย่างถูกต้อง
4 Tense มีอะไรบ้าง
In the Thai language, just like in any language, verb tenses play a crucial role in conveying the time and the continuity of an action or event. Thai language learners often struggle with understanding the different tenses, as they may be quite different from those in their native language. In this article, we will explore the four main tenses in Thai, their usage, and provide some examples to help you grasp their usage more effectively.
1. อนาคต (Anākhǒt) – Future Tense:
The future tense in Thai, known as ‘อนาคต’, is used when talking about actions or events that will happen in the future. In most cases, an auxiliary word is used to indicate the future tense, which is ‘จะ’ (ja). The verb following ‘จะ’ remains in its base form without any changes.
Examples:
– เขาจะเดินไปที่โรงเรียนพรุ่งนี้ (kǎo ja derm bpai tîi rong-rian phrûng-ní) – He will walk to school tomorrow.
– ฟ้าจะเงาเหมือนใจตามหลัง (fáa ja ngao mǔean jai dtaa-mǔang-lang) – The sky will be as bright as the eyes can see.
– พ่อจะส่งของห้องน้องในเวลาเที่ยงคืน (phǎw ja sòng kǒng hǒng-nóng nai wélaa thîang-keun) – Father will deliver the items to my sister’s room at midnight.
2. ปัจจุบัน (Pàt-jù-ban) – Present Tense:
The present tense in Thai, called ‘ปัจจุบัน’, is used to describe actions or events occurring in the present moment. In most sentences, there is no need to use any specific words or markers to indicate the present time.
Examples:
– ผมไปอ่านหนังสือทุกวัน (phǒm bpai àan nǎng-sǔe thúk-wan) – I read books every day.
– เธออยู่ไหนอยู่ (thoo-er yòo năi yòo) – Where are you right now?
– คนเมืองเราต้องการความสงบ (khon-múeang rao dtông-gaan kwaam-sǒng-bòp) – People in our town want peace.
3. อดีต (A-dīt) – Past Tense:
The past tense in Thai, known as ‘อดีต’, is used to talk about actions or events that have already happened in the past. The most commonly used auxiliary word to indicate the past tense is ‘เคย’ (koey). The verb following ‘เคย’ remains in its base form without any changes.
Examples:
– เธอเคยเข้าชมสวนสัตว์กับฉัน (thoo-er koey kâo chom sǔan-sàt gàp chǎn) – You visited the zoo with me before.
– ผู้ชมเคยเห็นการแสดงนี้มาก่อนหรือยังครับ (poo-chom koey hěn gaan-sà-dǎng níi mâak-gàwn reu yang khráp) – Have you seen this performance before?
– ทุกคนเคยร่วมงานกันมาแล้ว (thúk-kon koey rûam-ngaan gan maa-láew) – Everyone has been working together for a while.
4. เงื่อนไข (Ngeuan-khǐ) – Conditional Tense:
The conditional tense in Thai, called ‘เงื่อนไข’, is used to express possibilities, hypothetical situations, or if-then statements. To indicate the conditional tense, the word ‘ถ้า’ (thâ) is commonly used at the beginning of the sentence. The verb following ‘ถ้า’ remains in its base form without any changes.
Examples:
– ถ้ามีเวลาว่างฉันจะไปเที่ยวในเกาะ (thâ mii wé-laa wâang chǎn ja bpai thîao nai gàw) – If I have free time, I will go on a trip to an island.
– ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพฯ คุณจะได้พบฉันบ่อยขึ้น (thâ khun yòo nai grung-thêp khun ja dâi pope chǎn bòi kêun) – If you are in Bangkok, you will get to see me more often.
– ถ้าเธอหยุดร้องไห้ อะไรคุณจะทำ (thâ thoo-er yùt róng-hâi à-rai khun ja tham) – If she stops crying, what will you do?
FAQs:
Q: Are there any other auxiliary words to indicate tenses?
A: Yes, apart from ‘จะ’ (ja) for the future tense, ‘เคย’ (koey) for the past tense, and ‘ถ้า’ (thâ) for the conditional tense, Thai language also has other auxiliary words to indicate tenses. However, the four tenses discussed above are the most commonly used tenses in everyday conversations.
Q: Are there other verb tenses in Thai?
A: In addition to the four tenses discussed above, Thai language also has other tenses, such as the present continuous tense, present perfect tense, and past continuous tense. However, these tenses are less commonly used in everyday conversations.
Q: Are Thai verb tenses similar to those in English?
A: While there might be some similarities between Thai and English verb tenses, it is important to note that there are also significant differences. Thai language learners should not rely solely on the English language when trying to understand Thai verb tenses, as this may lead to confusion. It is advisable to study the tenses in Thai context, taking into account the specific rules and structures of the Thai language.
In conclusion, understanding the four main tenses in Thai – future tense, present tense, past tense, and conditional tense – is essential for effective communication in the Thai language. By becoming familiar with these tenses and practicing their usage, Thai language learners can achieve greater proficiency in expressing actions and events accurately and appropriately.
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
พบ 20 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ตารางtense.
ลิงค์บทความ: ตารางtense.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ ตารางtense.
- สรุป 12 Tense ภาษาอังกฤษ จำง่าย ใช้ได้ตลอดชีวิต! – OpenDurian
- แจกตารางสรุป 12 Tenses… – Easy English with Kru Cakla
- สรุปหลักการของ tense ทั้ง 12 tense ฉบับเข้าใจง่าย
- ใบความรู้ตารางสรุป 12 Tenses (PDF) – Twinkl
- ตารางสรุป TENSES ในภาษาอังกฤษทั้งหมด ปริ้นท์แปะฝาห้อง …
- [วิชามารภาษาอังกฤษ] วิธีจำ Tense ทั้ง 24 อย่างรวดเร็ว – Pantip
- 12 tense ไม่ต้องท่อง
- Tenses ทั้ง 12 สรุปเข้าใจง่าย – English Down-under
- สรุป 12 Tenses ภาษาอังกฤษอย่างง่าย – YouTube
- สรุป 4 tenses คู่ รู้ไว้ ตัดชอยส์ได้รัว ๆ อัปคะแนน TOEIC 750+ – OpenDurian
- Tense คืออะไร? แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง? การเ T
- 12 tense มีอะไรบ้าง และโครงสร้างประโยคเป็นอย่างไร – Twinkl
ดูเพิ่มเติม: lasbeautyvn.com/category/digital-studios