สรุป Tense ทั้ง 12
เมื่อเรียนภาษาอังกฤษ เราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ tense หรือ กาลในการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารที่ถูกต้องและไกล่เกลี่ยไปตามเงื่อนไขที่เราต้องการสื่อสารถึงใคร่ครวญ. Present Simple, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous, Past Simple, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous, Future Simple, Future Continuous, Future Perfect, และ Future Perfect Continuous เป็น tense ทั้ง 12 ที่เราจะต้องเรียนรู้
Present Simple Tense (ปัจจุบันกาลธรรมดา)
Present Simple Tense เป็นรูปการเรียกความที่เกิดขึ้นประจำทุกวัน และสื่อถึงความจริงที่เราพูด เช่น “I play soccer every day.” (ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน)
Present Continuous Tense (ปัจจุบันกาลต่อเนื่อง)
Present Continuous Tense เราใช้เมื่อต้องการตอบสนองหรือเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนนี้ และสร้างความรู้สึกถึงกระแสที่กำลังเกิดขึ้น เช่น “I am playing soccer right now.” (ฉันกำลังเล่นฟุตบอลตอนนี้)
Present Perfect Tense (ปัจจุบันกาลเสร็จสมบูรณ์)
Present Perfect Tense เราใช้เมื่อต้องการแสดงถึงประสบการณ์ในอดีตที่มีผลต่อปัจจุบัน เช่น “I have played soccer before.” (ฉันเคยเล่นฟุตบอลมาแล้ว)
Present Perfect Continuous Tense (ปัจจุบันกาลเสร็จสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
Present Perfect Continuous Tense เราใช้เมื่อต้องการเน้นถึงระยะเวลาที่เกิดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น “I have been playing soccer for two hours.” (ฉันเล่นฟุตบอลมาสองชั่วโมงแล้ว)
Past Simple Tense (อดีตกาลธรรมดา)
Past Simple Tense เป็นการเรียกความที่เกิดขึ้นในอดีตและเสร็จสิ้นไป เช่น “I played soccer yesterday.” (ฉันเล่นฟุตบอลเมื่อวาน)
Past Continuous Tense (อดีตกาลต่อเนื่อง)
Past Continuous Tense เราใช้เมื่อต้องการเล่าเรื่องของผ่านมาและเน้นถึงกระแสของเหตุการณ์ เช่น “I was playing soccer when it started to rain.” (ฉันกำลังเล่นฟุตบอลเมื่อฝนตก)
Past Perfect Tense (อดีตกาลเสร็จสมบูรณ์)
Past Perfect Tense เราใช้เมื่อต้องการแสดงถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น “I had played soccer before it started to rain.” (ฉันเคยเล่นฟุตบอลมาก่อนที่ฝนตก)
Past Perfect Continuous Tense (อดีตกาลเสร็จสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
Past Perfect Continuous Tense เราใช้เมื่อต้องการเน้นถึงกระแสของเหตุการณ์ที่เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น “I had been playing soccer for two hours before it started to rain.” (ฉันกำลังเล่นฟุตบอลมาสองชั่วโมงก่อนที่ฝนตก)
Future Simple Tense (อนาคตกาลธรรมดา)
Future Simple Tense เราใช้เมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “I will play soccer tomorrow.” (ฉันจะเล่นฟุตบอลพรุ่งนี้)
Future Continuous Tense (อนาคตกาลต่อเนื่อง)
Future Continuous Tense เราใช้เมื่อต้องการเน้นถึงกระแสของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “I will be playing soccer at 5 PM tomorrow.” (ฉันจะกำลังเล่นฟุตบอลเมื่อเวลา 17:00 พรุ่งนี้)
Future Perfect Tense (อนาคตกาลเสร็จสมบูรณ์)
Future Perfect Tense เราใช้เมื่อต้องการเน้นถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดเสร็จสิ้นในอนาคต เช่น “I will have played soccer by the time you arrive.” (ฉันจะเล่นฟุตบอลจนกว่าคุณจะมาถึง)
Future Perfect Continuous Tense (อนาคตกาลเสร็จสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
Future Perfect Continuous Tense เราใช้เมื่อต้องการเน้นถึงระยะเวลาของเหตุการณ์ที่จะมีผลต่อเหตุการณ์อื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “I will have been playing soccer for two hours by the time you arrive.” (ฉันจะกำลังเล่นฟุตบอลมาสองชั่วโมงจนกว่าคุณจะมาถึง)
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
Q: สรุป tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด pdf มีอยู่ไหนบ้าง?
A: Present Simple, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous, Past Simple, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous, Future Simple, Future Continuous, Future Perfect, และ Future Perfect Continuous.
Q: สรุป tense ทั้ง 12 เข้าใจง่ายมีอยู่ไหนบ้าง?
A: Present Simple, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous, Past Simple, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous, Future Simple, Future Continuous, Future Perfect, และ Future Perfect Continuous.
Q: สรุป tense เข้าใจง่าย pdf มีอยู่ไหนบ้าง?
A: Present Simple, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous, Past Simple, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous, Future Simple, Future Continuous, Future Perfect, และ Future Perfect Continuous.
Q: สรุป12 tense มายแมพคืออะไร?
A: สรุป12 tense มายแมพเป็นการแสดงกระแสของ tense ทั้ง 12 ในรูปแผนภาพเพื่อให้เห็นภาพโดยรวมของ tense แต่ละอัน
Q: tense ตัวอย่างประโยคที่ใช้มีอยู่ไหนบ้าง?
A: Present Simple: “She brushes her teeth every morning.” /
Present Continuous: “They are watching a movie right now.” /
Present Perfect: “He has eaten lunch.” /
Present Perfect Continuous: “I have been studying all day.” /
Past Simple: “I played soccer yesterday.” /
Past Continuous: “She was cooking dinner when I arrived.” /
Past Perfect: “They had finished their homework before the movie started.” /
Past Perfect Continuous: “I had been waiting for two hours when the bus finally arrived.” /
Future Simple: “We will go to the beach tomorrow.” /
Future Continuous: “She will be reading a book at 8 PM tomorrow.” /
Future Perfect: “He will have completed the project by next week.” /
Future Perfect Continuous: “I will have been working for three years by the time I retire.”
Q: โครงสร้าง 12 tense บอกเล่า ปฏิเสธ และ คำถามสรุป tense ทั้ง 12 มีอยู่ไหนบ้าง?
A: โครงสร้าง 12 Tense บอกเล่า: Subject + Verb + Object / ปฏิเสธ: Subject + do/does/did + not + Verb / คำถาม: do/does + Subject + Verb?
สรุป tense ทั้ง 12 เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับ vibration/ การเปลี่ยนแปลงเวลาในภาษาอังกฤษที่สำคัญ สรุป tense
12 Tenses ครบในคลิปเดียว! | เรียน Grammar ภาษาอังกฤษฟรี กับครูดิว
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: สรุป tense ทั้ง 12 สรุป tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด pdf, สรุป tense เข้าใจง่าย, Tense ทั้ง 12, tense ทั้ง 12 พร้อมตัวอย่าง, สรุป tense เข้าใจง่าย pdf, สรุป12 tense มายแมพ, tense ตัวอย่างประโยค, โครงสร้าง 12 tense บอกเล่า ปฏิเสธ คําถาม
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สรุป tense ทั้ง 12
หมวดหมู่: Top 95 สรุป Tense ทั้ง 12
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
สรุป Tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด Pdf
ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษหนึ่งในเรื่องที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของการใช้ Tense หรือ รูปเวลาในภาษาอังกฤษ โดย Tense จะบอกถึงเวลาที่เกี่ยวข้องกับปฏิสัมพันธ์ของคำในประโยค ซึ่งภาษาอังกฤษมี Tense ทั้งหมด 12 รูป ซึ่งในบทความนี้จะสรุป tense ทั้ง 12 อย่างละเอียดเพื่อให้เห็นภาพเกี่ยวกับการใช้งานและรูปแบบของแต่ละ Tense อย่างชัดเจน
1. Present Simple Tense (ปัจจุบันกาลธรรมดา)
ใช้เพื่ออธิบายสิ่งที่เป็นความจริงหรือสภาพที่เป็นประจำ เช่น “I eat breakfast every day.” (ฉันกินอาหารเช้าทุกวัน)
2. Present Continuous Tense (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์)
ใช้เพื่ออธิบายการเกิดขึ้นขณะนั้น ๆ หรือกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น “She is watching TV right now.” (เธอกำลังดูทีวีอยู่ขณะนี้)
3. Present Perfect Tense (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์)
ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังมีผลต่อปัจจุบัน เช่น “I have visited Paris.” (ฉันเคยไปเที่ยวปารีส)
4. Present Perfect Continuous Tense (ปัจจุบันกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เริ่มขึ้นในอดีต และยังคงเกิดอยู่ในปัจจุบัน เช่น “She has been studying all day.” (เธอเรียนมาตลอดวัน)
5. Past Simple Tense (อดีตกาลธรรมดา)
ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและเสร็จสิ้นแล้ว เช่น “They went to the movies last night.” (พวกเขาไปดูหนังเมื่อคืน)
6. Past Continuous Tense (อดีตกาลสมบูรณ์)
ใช้เพื่ออธิบายกิจกรรมที่กำลังเป็นต่อเนื่องในอดีต เช่น “He was playing football when it started raining.” (เขากำลังเล่นฟุตบอลเมื่อเริ่มฝนตก)
7. Past Perfect Tense (อดีตกาลสมบูรณ์)
ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีต เช่น “They had already left when I arrived.” (พวกเขาไปแล้วเมื่อฉันมาถึง)
8. Past Perfect Continuous Tense (อดีตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
ใช้เพื่ออธิบายกิจกรรมที่เกิดขึ้นในอดีต และยังคงเป็นต่อเนื่องจนถึงจุดใดจุดหนึ่งในอดีต เช่น “She had been waiting for hours before he arrived.” (เธอต้องรอมาหลายชั่วโมงก่อนที่เขาจะมาถึง)
9. Future Simple Tense (อนาคตกาลธรรมดา)
ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “I will call you tomorrow.” (ฉันจะโทรหาคุณพรุ่งนี้)
10. Future Continuous Tense (อนาคตกาลสมบูรณ์)
ใช้เพื่ออธิบายกิจกรรมที่กำลังเป็นต่อเนื่องในอนาคต เช่น “She will be working all day tomorrow.” (เธอจะทำงานตลอดวันพรุ่งนี้)
11. Future Perfect Tense (อนาคตกาลสมบูรณ์)
ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่คาดว่าจะสำเร็จและเสร็จสิ้นในอนาคต เช่น “By this time next year, I will have graduated.” (ในช่วงเวลานี้ในปีหน้าฉันจะจบการศึกษาแล้ว)
12. Future Perfect Continuous Tense (อนาคตกาลสมบูรณ์ต่อเนื่อง)
ใช้เพื่ออธิบายกิจกรรมที่เริ่มต้นในอดีต และจะยังคงเป็นต่อเนื่องจนถึงจุดใดจุดหนึ่งในอนาคต เช่น “By the time she arrives, we will have been waiting for two hours.” (ในขณะที่เธอมาถึงเราจะรอมามากว่าสองชั่วโมง)
โดยการทราบเกี่ยวกับ Tense ทั้ง 12 รูปนี้จะช่วยให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามที่พบเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยครั้ง เรามารู้จักกับคำถามที่พบบ่อยในส่วน FAQ (Frequently Asked Questions) เพื่อสรุปคำตอบอย่างชัดเจน
FAQs
1. Q: จำเป็นต้องใช้ Tense ทุกแบบหรือไม่?
A: ใช่เพราะการใช้ Tense ที่เหมาะสมจะช่วยให้คำพูดมีความรู้สึกถูกต้องตามเวลาและความสัมพันธ์ที่ต้องการ
2. Q: อย่างไรถึงจะสามารถรู้ว่า Tense ใดถูกต้องในประโยค?
A: เราสามารถรู้ได้จากคำกริยาหลักที่ใช้ใน Tense นั้น ๆ เช่น “eat” ใช้กับ Present Simple Tense และ “will” ใช้กับ Future Simple Tense
3. Q: มีการเปลี่ยนแปลงใน Tense ไหนบ้างเมื่อเปลี่ยนประธาน?
A: ในบางกรณี เราต้องเปลี่ยนกริยาหลักว่างี้ “go” เป็น “goes” เมื่อประธานเป็นบุคคลที่ 3 ใน Present Simple Tense
4. Q: มีอะไรที่ต้องระวังเมื่อใช้ Tense ในประโยค?
A: เราควรระมัดระวังเรื่องเวลา พยายามใช้ Tense ที่เหมาะสมกับเหตุการณ์และประเภทประโยคที่ต้องการ
5. Q: มีวิธีใดในการฝึกใช้ Tense ได้ดีขึ้น?
A: ควรศึกษาเกี่ยวกับการใช้และความหมายของแต่ละ Tense จากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ แห่ง และทำโจทย์ประกอบเพื่อฝึกใช้ในประโยคจริง
6. Q: สามารถใช้ Tense หลายรูปในประโยคเดียวกันได้หรือไม่?
A: ใช่ เราสามารถใช้ Tense หลายรูปเพื่ออธิบายความเป็นตามความจริงของเหตุการณ์หรือสภาพที่ต้องการ
การใช้ Tense ให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยการรู้จัก Tense ทั้ง 12 รูปจะช่วยให้สามารถสื่อสารและเข้าใจประโยคในภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Tense ด้วยกันยังช่วยให้สามารถแก้ไขข้อสงสัยและใช้ Tense ได้ถูกต้องได้อีกด้วย
สรุป Tense เข้าใจง่าย
การเรียนรู้ภาษาต่างๆ เราจะพบว่ามีหลายองค์ประกอบที่ต้องพิจารณา เพื่อให้สามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับบทบาทของการพูดหรือเขียน เนื่องจากภาษาไม่เพียงแค่เรียนรู้คำศัพท์แต่อย่างเดียว แต่ต้องรู้จักใช้คำศัพท์เหล่านั้นในเนื้อหาที่ถูกต้องตามกระบวนการเวลาด้วย
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีกริยา (Verbs) เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ และการเปลี่ยนแปลงของเขาเป็นที่น่าสนใจ โดยปกติแล้วศัพท์กริยาแต่ละคำจะใช้กับกำกับ (Tense) หรือเวลาที่แตกต่างกันไป ซึ่ง Tense ที่ใช้ในภาษาไทยได้แก่ Tense อดีต (Past Tense) ปัจจุบัน (Present Tense) และอนาคต (Future Tense) ซึ่งเราจะสรุปรูปแบบและการใช้งานของ Tense เหล่านี้ให้เข้าใจได้อย่างง่ายดายต่อไป
1. Tense อดีต (Past Tense):
– รูปปัจจุบัน: ใช้กริยาในรูปธรรมดา เช่น “เขาเดิน” หรือใช้กับคำติดกัน เช่น “ไป”, “มา” เป็นต้น
– การเปลี่ยนรูป: เพิ่มคำว่า “ได้” หน้ากริยา เช่น “เขาเดินได้”, “เขาเคยไป”
2. Tense ปัจจุบัน (Present Tense):
– รูปปัจจุบัน: ใช้กริยาในรูปธรรมดา เช่น “เขาเดิน” หรือใช้กับคำติดกัน เช่น “ไป”, “มา” เป็นต้น
– การเปลี่ยนรูป: ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำศัพท์
3. Tense อนาคต (Future Tense):
– รูปปัจจุบัน: ใช้กริยาในรูปธรรมดาเช่นเดียวกับ Tense ปัจจุบัน เช่น “เขาเดิน”, “เขาไป”
– การเปลี่ยนรูป: เพิ่มคำว่า “กำลัง” หรือ “จะ” หน้ากริยา เช่น “เขากำลังเดิน”, “เขาจะไป”
การเลือกใช้ Tense ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ Tense บ่งบอกความหมายของเนื้อหาได้อย่างชัดเจน ดังนั้นในกรณีที่ต้องการเล่าเรื่องในอดีตจะใช้ Tense อดีต และการเล่าเรื่องในอนาคตสามารถใช้ Tense อนาคตได้ แต่ในบางกรณีก็สามารถใช้ Tense ปัจจุบันแทนบ้างได้ อย่างไรก็ดีควรให้ความสนใจเนื่องจากบางคำศัพท์มีเวลาที่เหมือนกันอยู่ในหลาย Tense และท่านควรทราบว่าการใช้ Tense อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเมื่อพูดหรือเขียน
คำถามที่พบบ่อย:
Q1: เมื่อใช้กริยาใน Tense อดีต คำว่า “ได้” คืออะไร?
A1: คำว่า “ได้” ใน Tense อดีตเป็นตัวช่วยรูปศัพท์เพื่อแสดงถึงการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต ยกตัวอย่างเช่น “เขาเดินได้” หมายความว่าเขาทราบและทำการเดินจริงๆ ในอดีต
Q2: เมื่อใช้กริยาใน Tense อนาคต คำว่า “กำลัง” หรือ “จะ” คืออะไร?
A2: คำว่า “กำลัง” หรือ “จะ” ใน Tense อนาคตเป็นตัวช่วยรูปศัพท์เพื่อแสดงถึงการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น “เขากำลังเดิน” หรือ “เขาจะไป” หมายความว่าเขากำลังเดินหรือจะไปในอนาคต
Q3: การใช้ Tense อนาคตหรือ Tense อดีตสามารถแทนที่กันได้ไหม?
A3: ในบางกรณีที่เนื้อหาเป็นเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นในอดีตหรือในอนาคตสามารถใช้ Tense อดีตหรือ Tense อนาคตทั้งคู่ได้ อย่างไรก็ดีควรให้ความสนใจที่จะเลือกใช้ Tense ให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการสื่อสาร
Q4: ไหนคือ Tense ที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาไทย?
A4: Tense ที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาไทยคือ Tense ปัจจุบัน เนื่องจากมีการใช้เช่น “เขาเดิน”, “เขากิน” ซึ่งเป็นแทบทุกวันในการสื่อสาร
ในที่สุดเราได้สรุปและอธิบาย Tense เข้าใจง่ายในภาษาไทย นี่เป็นสิ่งที่สำคัญในการศึกษาภาษา อย่างไรก็ตาม การใช้งาน Tense อย่างถูกต้องนอกจากจะช่วยให้สื่อสารเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการสื่อสารในภาษาไทยเช่นกัน
มี 25 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สรุป tense ทั้ง 12.
ลิงค์บทความ: สรุป tense ทั้ง 12.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ สรุป tense ทั้ง 12.
- สรุป Tense ทั้ง 12 ใช้ยังไง โครงสร้างประโยคของแต่ละ … – Sanook
- สรุปการใช้ tense ทั้ง 12 tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย
- 12 tense มีอะไรบ้าง และโครงสร้างประโยคเป็นอย่างไร – Twinkl
- รวมหลักการใช้ 12 Tense แบบละเอียด ครบ จบ ในที่เดียว – Globish
- สรุป 12 Tense ภาษาอังกฤษ จำง่าย ใช้ได้ตลอดชีวิต! – OpenDurian
- สรุป Tense ภาษาอังกฤษทั้ง 12 Tenses | by Chaiyapat | PIX7.ME
- Grammar: สรุปรวมหลักการใช้ 12 Tense แบบละเอียด
- เรียนภาษาอังกฤษฟรี สรุป 12 Tenses แบบสั้นและเข้าใจง่าย
- Tenses ทั้ง 12 สรุปเข้าใจง่าย – English Down-under
ดูเพิ่มเติม: lasbeautyvn.com/category/digital-studios