สรุป Tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด
Tense (วลีกายาง) ในภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญในการสื่อสาร ภาษาอังกฤษมี tense ทั้งหมด 12 รูปแบบที่ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์หรือเวลาที่เกิดขึ้น แต่ละรูปแบบของ tense จะมีความหมายและรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้เราจะมาสรุป tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ในการสื่อสารอย่างถูกต้องและแม่นยำ
1. Present Simple Tense (ปัจจุบันกาลธรรมดา)
– ใช้ในกรณีที่เป็นเรื่องทั่วไป หรือข้อเท็จจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง
– ผู้พูดใช้กริยาช่องที่หนึ่งของกริยาในรูปปกติ
– หลักการใช้: S + V(s/es) + O
ตัวอย่างประโยค: “I go to school every day.” (ฉันไปโรงเรียนทุกวัน)
2. Present Continuous Tense (ปัจจุบันกาลปฏิบัติ)
– ใช้ในกรณีที่กำลังเกิดขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
– ผู้พูดใช้กริยา “be” ตามด้วย V+ing
– หลักการใช้: S + am/is/are + V+ing + O
ตัวอย่างประโยค: “She is reading a book right now.” (เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่ในขณะนี้)
3. Present Perfect Tense (ปัจจุบันกาลเสร็จสมบูรณ์)
– ใช้ในกรณีที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังสัมพันธ์กับปัจจุบัน
– ผู้พูดใช้กริยา “have/has” ตามด้วย V3
– หลักการใช้: S + have/has + V3 + O
ตัวอย่างประโยค: “I have visited Paris.” (ฉันเคยไปเที่ยวปารีส)
4. Present Perfect Continuous Tense (ปัจจุบันกาลเสร็จสมบูรณ์แต่กำลังแทรกต่างหาก)
– ใช้ในกรณีที่เริ่มต้นกิจกรรมในอดีตและยังคงอยู่ในปัจจุบัน
– ผู้พูดใช้กริยา “have/has been” ตามด้วย V+ing
– หลักการใช้: S + have/has been + V+ing + O
ตัวอย่างประโยค: “She has been studying English for 2 hours.” (เธอเรียนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง)
5. Past Simple Tense (อดีตกาลธรรมดา)
– ใช้ในกรณีที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงในอดีต
– ผู้พูดใช้กริยาช่องที่หนึ่งของกริยาในรูปปกติ
– หลักการใช้: S + V2 + O
ตัวอย่างประโยค: “She went to the park yesterday.” (เธอไปสวนเมื่อวานนี้)
6. Past Continuous Tense (อดีตกาลปฏิบัติ)
– ใช้ในกรณีที่กิจกรรมกำลังเกิดขึ้นในอดีต
– ผู้พูดใช้กริยา “be” ในอดีตตามด้วย V+ing
– หลักการใช้: S + was/were + V+ing + O
ตัวอย่างประโยค: “We were playing football at 5 PM last night.” (เรากำลังเล่นฟุตบอลเมื่อเวลา 5 โมงเย็นเมื่อคืน)
7. Past Perfect Tense (อดีตกาลเสร็จสมบูรณ์)
– ใช้ในกรณีที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตก่อนเหตุการณ์อื่น
– ผู้พูดใช้กริยา “had” ตามด้วย V3
– หลักการใช้: S + had + V3 + O
ตัวอย่างประโยค: “He had already eaten dinner before he went to the party.” (เขากินอาหารเย็นไปแล้วก่อนที่จะไปงานเลี้ยง)
8. Past Perfect Continuous Tense (อดีตกาลเสร็จสมบูรณ์แต่กำลังแทรกต่างหาก)
– ใช้ในกรณีที่เริ่มต้นและสิ้นสุดกิจกรรมในอดีตแต่ยังคงมีผลกระทบกระชับกับปัจจุบัน
– ผู้พูดใช้กริยา “had been” ตามด้วย V+ing
– หลักการใช้: S + had been + V+ing + O
ตัวอย่างประโยค: “They had been waiting for the bus for 2 hours when it finally arrived.” (พวกเขารอรถเมล์มาถึงมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเมื่อรถมาถึง)
9. Future Simple Tense (อนาคตกาลธรรมดา)
– ใช้ในกรณีที่เกิดขึ้นในอนาคต
– ผู้พูดใช้ “will/shall” ตามด้วย V1
– หลักการใช้: S + will/shall + V1 + O
ตัวอย่างประโยค: “They will visit their grandparents next week.” (พวกเขาจะไปเยี่ยมช grandparents สัปดาห์หน้า)
10. Future Continuous Tense (อนาคตกาลปฏิบัติ)
– ใช้ในกรณีที่กิจกรรมกำลังเกิดขึ้นหรือจะเกิดในอนาคต
– ผู้พูดใช้ “will/shall be” ตามด้วย V+ing
– หลักการใช้: S + will/shall be + V+ing + O
ตัวอย่างประโยค: “She will be studying English at this time tomorrow.” (เธอจะกำลังเรียนภาษาอังกฤษในเวลานี้พรุ่งนี้)
11. Future Perfect Tense (อนาคตกาลเสร็จสมบูรณ์)
– ใช้ในกรณีที่กิจกรรมเสร็จสิ้นในอนาคตก่อนเหตุการณ์อื่น
– ผู้พูดใช้ “will/shall have” ตามด้วย V3
– หลักการใช้: S + will/shall have + V3 + O
ตัวอย่างประโยค: “By the time they arrive, the movie will have already started.” (เมื่อพวกเขาถึงจะ series เรียนว่ายน้ำก็เริ่มภาพยนตร์อยู่แล้ว)
12. Future Perfect Continuous Tense (อนาคตกาลเสร็จสมบูรณ์แต่กำลังแทรกต่างหาก)
– ใช้ในกรณีที่กิจกรรมเริ่มต้นและสิ้นสุดในอนาคตแต่ยังคงมีผลกระทบกระชับกับอนาคต
– ผู้พูดใช้ “will/shall have been” ตามด้วย V+ing
– หลักการใช้: S + will/shall have been + V+ing + O
ตัวอย่างประโยค: “By the time she returns from her vacation, she will have been living in Canada for 2 months.” (เมื่อเธอกลับจากการกินพัก เธอจะได้อาศัยอยู่ในประเทศแคนาดามาเป็นเวลา 2 เดือน)
FAQs
Q: Tense คืออะไร?
A: Tense เป็นรูปแบบของการใช้คำกริยาในภาษาอังกฤษ เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือเวลาที่เกิดขึ้น
Q: มีทั้งหมดกี่รูปแบบของ Tense?
A: มีทั้งหมด 12 รูปแบบของ Tense ในภาษาอังกฤษ
Q: เราสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารได้อย่างไร?
A: การเลือกใช้รูปแบบ Tense ที่ถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำ เพราะเราจะสามารถอธิบายเหตุการณ์หรือเวลาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
Q: มีวิธีใดที่จะเข้าใจและจดจำ Tense 12 รูปแบบได้ง่าย?
A: คุณสามารถใช้ ppt หรือไฟล์สรุปที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ Tense 12 รูปแบบ เช่น ppt สรุป Tense เข้าใจง่าย, ไฟล์สรุป 12 Tense, หรือตารางสรุป Tense เพื่อช่วยในการเข้าใจและจดจำข้อมูลได้ง่ายขึ้น
Q: การใช้ Tense 12 รูปแบบนี้ยากหรือง่าย?
A: การใช้ Tense 12 รูปแบบอาจจะมีความซับซ้อนสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ แต่เมื่อฝึกฝนและเข้าใจหลักการใช้แล้ว การบอกเล่าเรื่องราวหรือเพื่อสื่อสารจะง่ายขึ้นไปอย่างมาก
12 Tenses ครบในคลิปเดียว! | เรียน Grammar ภาษาอังกฤษฟรี กับครูดิว
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: สรุป tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด สรุป tense เข้าใจง่าย, tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด ppt, ไฟล์ สรุป 12 Tense, ตารางสรุป tense pdf, tense ตัวอย่างประโยค, Tense ทั้ง 12, tense 12 การใช้, Tense คือ
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สรุป tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด
หมวดหมู่: Top 40 สรุป Tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
สรุป Tense เข้าใจง่าย
การเรียนรู้เวลา (tense) ในภาษาไทยอาจเป็นสิ่งที่มีความยากลำบากสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องสองถามว่าวิธีการใช้แต่ละรูปแบบของเวลานั้นแตกต่างกันอย่างไร แต่ในบทความนี้เราจะพาคุณทดลองทำความเข้าใจกับรูปแบบพื้นฐานของเวลา อธิบายลักษณะการใช้เวลาในประโยคเข้าใจง่าย และอธิบายคำถามที่พบบ่อยในการใช้งานเวลาในภาษาไทย
รูปแบบของเวลาในภาษาไทย
1. อดีต (Past Tense)
ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต โดยใช้คำกริยาที่เติม “เ-” ไว้ข้างหน้าคำกริยา หรืออาจไม่รับกับคำกริยาเติม “เ-” บางคำขึ้นอยู่กับความหมาย
ตัวอย่าง:
– เขาเดินไป (He walked)
– เธอกินข้าว (She ate rice)
2. ปัจจุบัน (Present Tense)
ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยใช้คำกริยาที่ไม่มีการเติม “เ-” หรือ “ไป” แล้วนำคำกริยามาต่อท้ายด้วย “อยู่” หรือ “กำลัง” บางครั้งก็ไม่มีคำกริยาอุปกรณ์เพิ่มเติม
ตัวอย่าง:
– เขาเดินอยู่ (He is walking)
– เธอกินอยู่ (She is eating)
3. อนาคต (Future Tense)
ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์หรือการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยใช้คำกริยาเติม “จะ” หรือไม่ได้เติมอะไร แล้วนำคำกริยามาต่อท้ายด้วย “กำลังจะ” หรือ “เตรียมที่จะ” บางครั้งก็ไม่มีคำกริยาอุปกรณ์เพิ่มเติม
ตัวอย่าง:
– เขาจะเดิน (He will walk)
– เธอกำลังจะกิน (She is about to eat)
การใช้งานเวลาในประโยคเข้าใจง่าย
1. เพื่อนเช้า – เวลาเรียนเป็นเรื่องสำคัญ
เพียงแต่เราใช้เพียงคำกริยาเติม “เ-” ด้วย “ตอน” ด้านหน้าของคำกริยา เพื่อบอกเวลาที่เราทำบางสิ่งในขณะนั้น
ตัวอย่าง:
– เขาเข้าไปตอนเที่ยง= (He went in at noon)
– เธอเรียนตอนเช้า= (She studies in the morning)
2. ฉันชอบเส้นทางตั้งแต่เหตุการณ์สัมผัสไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา
ในกรณีที่เราต้องการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อใหม่ไปไม่กี่วินาทีก่อนนี้ เราสามารถใช้คำว่า “เมื่อ” ด้วยคำกริยาเติม “เ-” หรือไม่ก็ดีทั้งคลุมเครือ
ตัวอย่าง:
– เมื่อเขาได้ยินเสียงดังน่าประหลาด เขาหันไปดู= (When he heard a strange noise, he turned to look)
– เมื่อเธอกลับมาจากงานเมื่อคืน เขาอยู่รองเตียงแล้ว= (When she came back from work last night, he was already in bed)
3. คำกริยาหลักเอี่ยม
ในภาษาไทย เมื่อเราใช้คำกริยาหลักที่มีการเติม “เ-” ของอดีตณที่-เขียน ณ ที่ได้เจอ เราสามารถเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับรูปแบบของเวลาที่เราต้องการ โดยการเปลี่ยนเค้าโครงคำในภาคปัจจุบันหรืออนาคต
ตัวอย่าง:
– เขาหนีแมว= (He ran away from the cat)
– เขาใส่กางเกงให้แมว= (He puts on pants for the cat)
คำถามที่พบบ่อยในการใช้งานเวลาในภาษาไทย
Q1: ทำไมเราต้องใส่ “เ-” หรือ “ไป” และ “อยู่” หรือ “กำลัง” ด้วยคำกริยาในบางกรณีและไม่ใส่ในบางกรณี?
A1: เราต้องใส่ “เ-” หรือ “ไป” เพื่อแสดงเวลาที่เกิดขึ้นในอดีต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำกริยาแต่ละคำ ในกรณีของ “อยู่” หรือ “กำลัง” เราใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นอยู่หรือจะเกิดขึ้นในปัจจุบัน
Q2: ทำไมเราต้องเติม “จะ” หรือไม่ต้องเติมอะไรเลยกับคำกริยาในบางกรณี?
A2: เราต้องเติม “จะ” เพื่อแสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ในบางกรณีที่เห็นคำกริยาอยู่ข้างหน้าของประโยค ไม่จำเป็นต้องเติมต่อ
ในสรุป เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบที่เราใช้ในการใช้เวลาในภาษาไทย ซึ่งประกอบไปด้วยอดีต เจ็ด ปัจจุบัน และอนาคต อีกทั้งเรายังได้ดูวิธีใช้งานในแต่ละรูปแบบและพูดถึงคำถามที่พบบ่อยในการใช้ที่น่าสนใจ ดังนั้น หากคุณสามารถทำความเข้าใจรูปแบบพื้นฐานของเวลาในภาษาไทยได้ ก็จะสามารถใช้ภาษาไทยอย่างแม่นยำและหลีกเลี่ยงความสับสนในการใช้เวลาได้เป็นอย่างดีหากได้อ่านและฝึกปฏิบัติตามตัวอย่างที่ให้ไว้
Tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด Ppt
ในบทความนี้ผมจะช่วยอธิบายเกี่ยวกับ Tense ทั้ง 12 อย่างละเอียดตาม PPT ที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งกอบด้วยส่วนถาม-ตอบที่ทุกคนสามารถอ่านเพื่อเข้าใจประเด็นได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ก่อนอื่นมาเริ่มต้นด้วยการอธิบายเกี่ยวกับ Tense ทั้ง 12 อย่าง
1. Simple Present Tense:
Simple Present Tense เป็น Tense ที่ใช้ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือเหตุการณ์ที่เป็นคำให้การหรือเป็นความจริงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ พร้อมกับจุดที่สำคัญอื่น ๆ เพิ่มเติม
2. Present Continuous Tense:
Present Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อคุณกำลังทำบางอย่างในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นกิจกรรมที่มีระยะเวลาหรือกำลังพูดอยู่
3. Present Perfect Tense:
Present Perfect Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อกิจกรรมเกิดขึ้นในอดีต แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ก็แสดงถึงประสบการณ์ในอดีตที่มีผลกระทบต่อปัจจุบัน
4. Present Perfect Continuous Tense:
Present Perfect Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้บอกเกณฑ์กิจกรรมที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ยังคงทำต่อมาจนถึงปัจจุบัน คล้ายกับ Present Perfect Tense แต่เน้นไปที่การดำเนินการจนถึงปัจจุบัน
5. Simple Past Tense:
Simple Past Tense เป็น Tense ที่ใช้แสดงกิจกรรมหรือเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งมักจะใช้กับเหตุการณ์ที่เสร็จสิ้นแล้ว
6. Past Continuous Tense:
Past Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้เรื่องกิจกรรมที่เกิดขึ้นในอดีตแบบต่อเนื่อง
7. Past Perfect Tense:
Past Perfect Tense เป็น Tense ที่ใช้บอกเกณฑ์กิจกรรมที่เป็นอดีตสำคัญ เช่น อดีตก่อนอดีตกว่า
8. Past Perfect Continuous Tense:
Past Perfect Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้ในกรณีอดีตที่มีการดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลานาน
9. Simple Future Tense:
Simple Future Tense เป็น Tense ที่ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือเหตุการณ์ที่เราให้คำสั่ง เค้าโครง หรือดีกรีหรือแลกเปลี่ยนวงเงิน
10. Future Continuous Tense:
Future Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้เมื่อแสดงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
11. Future Perfect Tense:
Future Perfect Tense เป็น Tense ที่ใช้บอกเกณฑ์กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก่อนเกิดการกระทำอื่น
12. Future Perfect Continuous Tense:
Future Perfect Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้กับกรณีที่เราต้องการจะกล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเป็นกิจกรรมต่อเนื่องเป็นเวลานาน
นี่คือ Tense ทั้ง 12 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษโดยละเอียด ด้านล่างนี้คือส่วนถาม-ตอบที่เกี่ยวข้องกับ Tense:
คำถามภาษาอังกฤษที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Tense
Q1: Tense คืออะไร?
A1: Tense คือ รูปแบบหรือการตั้งนามหรือคำเติมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เรื่องจริง หรือในอดีต ด้วยเหตุผลที่ต้องการจะพูดถึงขณะใดของเวลา
Q2: Tense ทั้ง 12 คืออะไร?
A2: Tense ทั้ง 12 คือ Simple Present, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous, Simple Past, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous, Simple Future, Future Continuous, Future Perfect, และ Future Perfect Continuous
Q3: ทำไม Tense ถึงสำคัญ?
A3: Tense เป็นส่วนสำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เนื่องจากการใช้ Tense อย่างถูกต้องจะทำให้คุณสามารถแสดงความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างถูกต้อง
Q4: วิธีที่จะเรียนรู้ Tense ได้ดีขึ้นคืออะไร?
A4: เรียนรู้ Tense ได้ดีขึ้นโดยการทบทวนบทเรียนเก่า ฝึกฝนการใช้ Tense ในประโยค ศึกษาตัวอย่างประโยคที่สะกดผิด Tense แก้ไขและปรับปรุงตัวเองจากผิดพลาด
Q5: นอกจากการใช้ Tense ในการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ยังมีประโยคในภาษาอังกฤษที่ใช้ Tense อย่างไร?
A5: บางครั้ง Tense สามารถใช้ในการสร้างคำถาม ในประโยคเงื่อนไข สร้างคำแนะนำ ขออนุญาต และหลาย ๆ ประเด็นได้
มี 35 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สรุป tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด.
ลิงค์บทความ: สรุป tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ สรุป tense ทั้ง 12 อย่าง ละเอียด.
- สรุป Tense ทั้ง 12 ใช้ยังไง โครงสร้างประโยคของแต่ละ … – Sanook
- สรุปการใช้ tense ทั้ง 12 tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย
- รวมหลักการใช้ 12 Tense แบบละเอียด ครบ จบ ในที่เดียว – Globish
- 12 tense มีอะไรบ้าง และโครงสร้างประโยคเป็นอย่างไร – Twinkl
- สรุป ! ทั้ง 12 Tense อย่างละเอียด มาดูกัน – TUENONG
- สรุป 12 Tense ภาษาอังกฤษ จำง่าย ใช้ได้ตลอดชีวิต! – OpenDurian
- สรุป Tense ภาษาอังกฤษทั้ง 12 Tenses | by Chaiyapat | PIX7.ME
- Grammar: สรุปรวมหลักการใช้ 12 Tense แบบละเอียด
ดูเพิ่มเติม: https://lasbeautyvn.com/category/digital-studios