ประโยค Present Perfect Tense: ความรู้เบื้องต้นที่คุณต้องรู้

The present perfect tense is an important aspect of grammar in the Thai language. It is used to describe past experiences or events that have a connection to the present. In this article, we will explore the various uses of the present perfect tense and provide examples to help you understand how to use it correctly in your own conversations and writing. We will also compare it to the past simple tense and provide examples of present perfect continuous tense and past perfect tense.

รูปแบบการสร้างประโยค present perfect tense (Present Perfect Sentence Structure)

ในภาษาไทย ประโยค present perfect tense สร้างขึ้นโดยใช้ตัวชี้แสดงการใช้ “ได้ (dâi)” และกริยาที่อยู่ในชื่อกริยา “มี (mii)” กริยา “มี (mii)” จะอยู่หลังตัวชี้แสดงการใช้ “ได้ (dâi)”

รูปแบบทั่วไปของประโยค present perfect tense ในภาษาไทยคือ “subject + ได้ + กริยาที่อยู่ในชื่อกริยา (เติม -ไว้อยู่ /-ไว้แล้ว)”

ตัวอย่าง:
– เขาไปอเมริกาไปแล้ว (kăo bpai Amerika bpai láew) – He/She has gone to America.
– ฉันเคยได้อ่านหนังสือนี้แล้ว (chăn koei dâi àan năng-sĕu née láew) – I have read this book before.

การใช้ประโยค present perfect tense เพื่ออธิบายประสบการณ์ในอดีตที่ยังคงมีผลต่อปัจจุบัน (Describing Past Experiences That Have an Impact on the Present)

ประโยค present perfect tense ใช้เพื่ออธิบายประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและมีผลกระทบต่อปัจจุบัน

ตัวอย่าง:
– เขาเคยได้ทำงานกับบริษัทเล็กในอดีต (kăo koei dâi tam-ngaan gàp bà-rí-sàt lék nai-à-dtì) – He/She has worked for a small company in the past.
– ฉันเคยได้เรียนภาษาอังกฤษ (chăn koei dâi riian phaa-săa ang-grìt) – I have studied English.

การใช้ประโยค present perfect tense เพื่ออธิบายประสบการณ์ในอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม (Describing Past Experiences That Did Not Happen at a Specific Time)

ประโยค present perfect tense ใช้เพื่ออธิบายประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อใดก็ตาม

ตัวอย่าง:
– เขาเคยได้มีรถ (kăo koei dâi mii rót) – He/She has owned a car.
– ฉันเคยได้เห็นแมวของเขา (chăn koei dâi hĕn maeu kŏng kăo) – I have seen his/her cat.

การใช้ประโยค present perfect tense กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กำหนด (Describing Events That Happen in an Unspecified Time Frame)

ประโยค present perfect tense ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่ได้กำหนด

ตัวอย่าง:
– ฉันได้ไปภูเขาบ่อยมาก (chăn dâi bpai phuu-khăo bòi maa-ɡ )
– ตั้งแต่หนึ่งเดือนที่แล้ว (tâng dtàe nèung-deuuan tîi láew) – I have been going to the mountains frequently since a month ago.

การใช้ประโยค present perfect tense กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด (Describing Events That Happen in a Specific Time Frame)

ประโยค present perfect tense ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด

ตัวอย่าง:
– เขาเคยทำงานในโครงการนี้มาแล้วหลายปี (kăo koei tam-ngaan nai-khrong-gaan née maa láew lăai bpii) – He/She has been working on this project for several years.
– ฉันรู้สึกกระตือรือร้นมาตั้งแต่เมื่อวาน (chăn rúu-sèuk-grà-dtuue-reuan maa dtâng-dtàe mêuua-waan) – I have been feeling anxious since yesterday.

คำกริยาเพื่อตัวชี้แสดงการใช้ประโยค present perfect tense (Verbs Used as Indicators for the Present Perfect Tense)

ในประโยค present perfect tense คำกริยาเป็นตัวชี้แสดงการใช้เนื่องจากเป็นกริยาที่อยู่หลังตัวชี้แสดงการใช้ “ได้”

ตัวอย่าง:
– เคย (koei) – has ever/experienced
– ทำ (tam) – has done
– เรียน (riian) – has studied

คำกริยาที่ไม่สามารถใช้กับประโยค present perfect tense ได้ (Verbs That Cannot Be Used With the Present Perfect Tense)

ไม่ทุกคำกริยาสามารถใช้กับประโยค present perfect tense ได้ บางครั้งคำกริยาบางคำจะใช้ได้เฉพาะในประโยคที่มีรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง

ตัวอย่าง:
– ได้ (dâi) – can
– จำเป็นต้อง (jam bpen dtông) – have to/must
– ต้อง (dtông) – have to/must
– ชอบ (chôp) – like
– เก่ง (gèng) – good at

ความแตกต่างระหว่าง present perfect tense กับ past simple tense (Difference Between Present Perfect Tense and Past Simple Tense)

ระหว่าง present perfect tense กับ past simple tense มีความแตกต่างอย่างสำคัญในลักษณะการใช้และการเน้นเหตุการณ์

กริยาช่องแรกของประโยค present perfect tense เป็น “ได้ (dâi)”

แต่ในกริยาช่องแรกของประโยค past simple tense เป็น “ไป ( bpai)”

ดังนั้นการใช้ประโยค present perfect tense เน้นความสำคัญของผล (result) หรือสถานะปัจจุบัน (current state) ที่เกิดจากประสบการณ์ในอดีต

ในขณะที่ประโยค past simple tense เน้นเหตุการณ์เกิดขึ้น (occurrence) ในอดีต

ตัวอย่างประโยค present perfect tense (Present Perfect Tense Sentence Examples)

คำอธิบาย: เหตุการณ์ในอดีตที่กำหนด + “ได้” + กริยาที่อยู่ในชื่อกริยา

1. เขาเคยไปเที่ยวปารีส (kăo koei bpai thîao baa-rĕe) – He/She has visited Paris.
2. ฉันได้เรียนภาษาอังกฤษมา 10 ปี (chăn dâi riian phaa-săa ang-grìt maa sĭp bpii) – I have studied English for 10 years.
3. เคยนอนแล้วหลับไม่หลับ (koei nawn léaw làp mâi làp) – I have slept but couldn’t sleep.
4. เขาเคยมีงานประจำในบริษัทใหญ่ (kăo koei mii ngaan bprà-jam nai bà-rí-sàt yài) – He/She has had a permanent job in a big company.
5. เขาได้ทำงานช่วงเวลาอันยาวนาน (kăo dâi tam-ngaan chûuang-welaa an-yao-naan) – He/She has been working for a long period of time.

ตัวอย่างประโยค present perfect continuous tense (Present Perfect Continuous Tense Sentence Examples)

คำอธิบาย: เหตุการณ์ในอดีตที่กำหนด + “อยู่ทั้งเวลานี้” + รูปกริยาแสดงการทำอยู่ในระยะเวลาที่สม่ำเสมอ
กริยาช่องแรกของประโยค present perfect continuous tense เป็น “เคยอยู่ที่ (koei yùu thîi)”

1. เขาเคยอยู่ที่ต่างประเทศมา 3 ปี (kăo koei yùu thîi dtàang bprà-thêet maa săam bpii) – He/She has been living abroad for 3 years.
2. ฉันเคยอยู่ที่ซิดนีย์มานาน (chăn koei yùu thîi sìt-níi maa naan) – I have been living in Sydney for a long time.
3. เขาเคยอยู่ที่บ้านเขามานานแล้ว (kăo koei yùu thîi bâan kăo maa naan láew) – He/She has been living at his/her house for a long time.

present perfect tense ตัวอย่างประโยคคำถาม (Present Perfect Tense Question Examples)

คำอธิบาย: subject + “เคย” + กริยาที่อยู่ในชื่อกริยา + ?

1. เคยไปเที่ยวปารีสไหม (koei bpai thîao baa-rĕe mãi) – Have you ever been to Paris?
2. เคยทำงานช่วงเวลายาวนานแล้วไหม (koei tam-ngaan chûuang-welaa yao-naan láew mãi

Present Perfect Tense คืออะไร

Present Perfect Tense เป็นกริยาในภาษาอังกฤษที่มีความซับซ้อนในการใช้งาน โดยมักนำมาใช้เมื่อพูดถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่สามารถมีผลกระทบกับปัจจุบันได้ ซึ่งการใช้ Present Perfect Tense จึงเป็นที่นิยมในการใช้แสดงถึงประสบการณ์หรือเหตุการณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมา

ในประโยค Present Perfect Tense ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยกริยาช่องที่ 3 รวมกับ “have” หรือ “has” ตามด้วยกริยาช่องที่ 3 เป็นอิสระ เช่น “I have played”, “He has eaten” เป็นต้น การใช้ “have” หรือ “has” ขึ้นอยู่กับคำบุพบทที่มากับกริยา เช่น “I”, “you”, “we”, “they” ใช้ “have” แต่ “he”, “she”, “it” ใช้ “has”

Present Perfect Tense ใช้ในหลายกรณี ดังนี้

1. เหตุการณ์ที่เกิดจนถึงปัจจุบัน
Present Perfect Tense สามารถใช้แสดงถึงเหตุการณ์ที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงเกิดขึ้นถึงปัจจุบันได้ เช่น
– I have lived in Bangkok for two years. (ฉันอาศัยอยู่กรุงเทพมาสองปีแล้ว)
– She has worked at this company since 2010. (เธอทำงานที่บริษัทนี้ตั้งแต่ปี 2010)

2. เหตุการณ์ที่เกิดในอดีตไม่แน่นอน
Present Perfect Tense สามารถใช้ในกรณีที่ไม่มั่นใจเรื่องการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ในอดีต เช่น
– They have visited Thailand before. (พวกเขาเคยมาเยือนประเทศไทย)
– Have you ever watched that movie? (คุณเคยดูหนังเรื่องนั้นไหม)

3. การเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ
Present Perfect Tense สามารถใช้แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำๆ กันตลอดเวลา หรือเคยเกิดขึ้นหลายครั้ง หรือไม่เกิดเลย เช่น
– I have visited Japan five times. (ฉันไปเยี่ยมประเทศญี่ปุ่นห้าครั้ง)
– She has never tried sushi. (เธอไม่เคยลองสูชิเลย)

4. เหตุการณ์ที่ส่งผลต่อปัจจุบัน
Present Perfect Tense สามารถใช้แสดงถึงเหตุการณ์ในอดีตที่มีผลต่อปัจจุบัน เช่น
– I have lost my keys. (ฉันสูญหายกุญแจของฉัน)
– She has broken her leg. (เธอหักขา)

การใช้ Present Perfect Tense ก็เชื่อมโยงกับประโยคอื่นๆ ให้เกิดความหมายที่ชัดเจน เช่น
– I have finished my homework, so I can go out now. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว ดังนั้นฉันสามารถออกไปได้แล้ว)

FAQs

Q: Present Perfect Tense แตกต่างจาก Past Simple Tense อย่างไร?
A: Present Perfect Tense ใช้ในกรณีที่เราต้องการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ในขณะที่ Past Simple Tense ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นเสร็จสิ้นแล้ว

Q: ทำไมใช้ Present Perfect Tense ต้องบอกจำนวนครั้งของเหตุการณ์บางครั้ง?
A: การบอกจำนวนครั้งใน Present Perfect Tense ช่วยให้เราเห็นดีขึ้นว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมากแค่ไหน นอกจากนี้ยังสร้างความเกี่ยวข้องกับภาวะปัจจุบันของเรา

Q: Present Perfect Tense ใช้ได้กับกริยาทั้งหมดหรือไม่?
A: ใช้กับกริยาบางตระกูลเท่านั้น เช่น กริยาที่เป็นรูปเสมอ (regular verbs) หรือกริยาบางตระกูลที่เปลี่ยนรูปได้ตามกฎ (irregular verbs)

Q: นอกเหนือจาก Present Perfect Tense ยังมี Tense อื่นๆ ในภาษาอังกฤษอีกไหม?
A: ใช่ ภาษาอังกฤษมี Tense อื่นๆ เช่น Past Simple Tense, Future Tense, Present Continuous Tense ฯลฯ แต่ Present Perfect Tense เป็น tense ที่มีความซับซ้อนและถูกใช้อย่างแพร่หลายในการสื่อสารทั่วไป

Q: การศึกษา Present Perfect Tense จำเป็นหรือไม่?
A: การศึกษา Present Perfect Tense เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาทักษะการใช้งานภาษาอังกฤษ ซึ่งมีประโยชน์ในการเขียนและสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ

เราใช้ present perfect tense ในกรณีใด

Present perfect tense (Present perfect) เป็นอีกหนึ่งเวลาที่ใช้ในภาษาอังกฤษเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่สร้างผลกระทบหรือมีส่วนเชื่อมโยงกับปัจจุบันได้อีกด้วย ในภาษาไทยพวกเราสามารถใช้ “เสร็จแล้ว” หรือ “ได้แล้ว” เป็นคำนำหน้าคำกริยาตามจนได้ความหมายเช่นเดียวกัน แต่งับตรงกันข้อห้าม อย่างไรก็ตามในประโยคภาษาอังกฤษ present perfect มีลักษณะเฉพาะที่เราควรจะรู้จักและใช้มันได้อย่างถูกต้อง

เราใช้ present perfect เมื่อมีความเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน เค้าใช้บ่อยๆ เมื่อเราต้องการพูดถึงเหตุการณ์หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่สามารถมีผลกระทบหรือมีส่วนเชื่อมโยงกับปัจจุบัน

นอกจากนี้เรายังใช้ present perfect เมื่อเราขอหรือต้องการรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเพื่อเป็นการแนะนำ ถามหรือให้คำแนะนำ เช่น “คุณเคยไปเที่ยวฝรั่งเศสไหม” หรือ “คุณเคยจับปลาในแม่น้ำมหาสมุทรเค้ายังงามไฟไหม”

นอกจากนี้ ยังมีกรณีอื่นที่เราใช้ present perfect อีกบ้าง เช่น

1. เพื่ออธิบายประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ไม่ได้ระบุเวลาที่ตรงๆ และมากขึ้นเป็นปัจจุบัน เช่น “ผมเคยได้พบเจ้าหน้าที่ที่เรามีความร่วมมือมาแล้ว” แสดงถึงความหวังว่าเรายังคงมีความร่วมมือกันอยู่ในปัจจุบัน

2. เมื่อสรุปผลลัพธ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตลงใจ เราอาจใช้ present perfect เพื่อเน้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและมีอิทธิพลอย่างน่าสนใจต่อปัจจุบัน เช่น “เขาได้ทำงานหนักตลอดปีที่ผ่านมา และทำให้บริษัทเจริญเติบโตอย่างสูง”

3. เมื่อใช้ในประโยคเงื่อนไข เราสามารถใช้ present perfect เพื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เป็นเงื่อนไขตามที่คิดสร้างขึ้น เช่น “ถ้าคุณได้รับการฝึกระหว่างวันพุธและวันพฤหัสบดี คุณสามารถทำงานได้ในวันอธิการบดี”

FAQs:
1. ทำไมเราถึงใช้ present perfect แทน simple past tense บ้าง?
เราใช้ present perfect เพื่อเน้นผลลัพธ์หรือสรุปผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีความเชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน แต่ simple past tense ใช้เมื่อเราต้องการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตโดยไม่มีการเชื่อมโยงกับปัจจุบัน

2. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรใช้ present perfect หรือ past simple tense?
เราควรใช้ present perfect เมื่อเราต้องการเน้นความสัมพันธ์ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน หรือเมื่อเราต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่มีผลกระทบหรือมีส่วนเชื่อมโยงกับปัจจุบัน เนื่องจาก past simple tense นั้นใช้ในการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตเท่านั้น

3. ทำไมในภาษาไทยเราใช้ “เสร็จแล้ว” หรือ “ได้แล้ว” เป็นคำนำหน้าคำกริยาตาม present perfect แต่ภาษาอังกฤษใช้ “have” หรือ “has”?
การใช้คำนำหน้าคำเหล่านี้เพื่อระบุ present perfect tense นั้นเกิดจากลักษณะภาษาของแต่ละภาษา ภาษาไทยใช้คำนำหน้าเหล่านี้เพื่อแสดงความหมายเหมือนกับ “have” หรือ “has” ในภาษาอังกฤษ แต่ในภาษาอังกฤษจะใช้ “have” หรือ “has” เพื่อแสดงเวลา เค้าเลือกใช้ “have” หรือ “has” ก็เพราะภาษาอังกฤษมีรูปของกริยาที่หลากหลายกว่าภาษาไทย

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense 20 ประโยคในภาษาไทย

Present Perfect Tense (ตัวประกอบอดีตที่สมบูรณ์) คือ เวลาในอดีตที่ใช้เพื่อเชื่อมโยงสถานการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน ลักษณะพิเศษของแบบประโยคนี้ คือ ต้องมีกริยาช่วย “have” หรือ “has” ตามด้วยกริยาช่องสองที่เป็นรูปซึ่งกริยาช่องสองนี้จะใช้รูปช่องสามตัวอักษรหลักของกริยา

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense:

1. เราได้ทำงานรับราชการและเกษียณอย่างไม่ปกติเนื่องจากสถานการณ์สุขภาพของเขา.
2. เดือนที่แล้วฉันเพิ่งได้เลือกที่จะปิดอ่างเท้าของฉันเพราะมันฉัตรงความร้อน.
3. พ่อของฉันเคยไปประเทศญี่ปุ่นการท่องเที่ยวในที่สุดและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาชอบชิงช้าง.
4. แม้ว่าเราจะพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นเช้านี้ แต่ฝ่ายตรงข้ามที่ดูแลงานนี้ก็เข้ามาและออกของเขาเพื่อให้เห็นว่ามันจะเสร็จสมบูรณ์.
5. ฉันเพิ่งรู้เพียงเมื่อตอนนี้ว่าคุณใช้บัตรเครดิตของฉันไปตรวจสอบ.
6. กำลังมองพวกเขาทั้งหมดหลังจากการแข็งตัวของหิมะที่เกิดขึ้นมีความสวยงามในช่วงเช้า.
7. เราได้ลืมเล่นตัวจริงไม่นานมานี้เพราะมักจะเล่นเกมออนไลน์มากกว่า.
8. ฉันนั้นเคยอดใจได้เพราะมีเรื่องราวหลายอย่างที่ฉันจำไม่ได้.
9. เพราะมีอุปสรรคบ้างเกี่ยวกับเธอมาก่อนฉันจึงยังไม่สามารถตัดสินใจได้.
10. หลังจากที่ฉันได้กลับมาสักพัก ฉันเห็นกระเพาะปัสสาวะและสงสัยว่ามันเกิดจากอะไร.
11. ฉันคิดว่าเพื่อนของฉันได้ย้ายไปอยู่ต่างประเทศในตอนที่ฉันอยู่เมื่อคืน.
12. เราได้ทำงานอย่างหนักตลอดเวลาแต่ดูเหมือนว่ามันเป็นการเสียเวลา.
13. อาจารย์ไมค์ได้ทำงานให้ทันด่วนก่อนเราจะมาถึง.
14. เราได้เดินไปมาบนลานบ้านเขามาก่อนที่เขาจะมาพบเราและใช้เวลานับนาทีท้างนาที.
15. บึงกระจับน้ำตีมีความลึกเพียงพอที่จะลงทุเรียน.
16. เราเคยใช้งบประมาณไม่กี่ร้อยล้านบาทเ็ดตกคณนาในแผนการนี้.
17. จากที่พบกันครั้งสุดท้าย เราไม่มองพวกเขาอีกเท่าไหร่แล้ว.
18. ฉันได้ยินเสียงกรายดาวที่กระสบอันตรายครั้งหนึ่งเมื่อคืน.
19. เราได้พบอะควาบราขนาดใหญ่ในช่วงเช้าขณะที่เรากำลังเดินเล่นทางทะเล.
20. เธอโดนกระเด็นญี่ปุ่นไปเมื่อวานซึ่งทำให้เธอโกรธมาก.

FAQs

1. สำหรับคนที่ไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับ Present Perfect Tense มาก่อน คืออะไร?
Present Perfect Tense คือเวลาในอดีตที่ใช้เพื่อเชื่อมโยงสถานการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน

2. กลุ่มการใช้ Present Perfect Tense คืออะไร?
มักใช้ Present Perfect Tense เมื่อกล่าวถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีผลต่อปัจจุบันหรือเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

3. ข้อแตกต่างระหว่าง Present Perfect Tense กับ Past Simple Tense คืออะไร?
Present Perfect Tense เชื่อมโยงสถานการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน ในขณะที่ Past Simple Tense เน้นสถานการณ์ที่สิ้นสุดลงในอดีต

4. ส่วนประกอบของ Present Perfect Tense คืออะไร?
Present Perfect Tense มีส่วนประกอบหลักคือ “have” หรือ “has” ตามด้วยกริยาช่องสองที่เป็นรูปซึ่งกริยาช่องสองนี้จะใช้รูปช่องสามตัวอักษรหลักของกริยา

5. บทที่สำคัญในการใช้ Present Perfect Tense คืออะไร?
Present Perfect Tense มักใช้ในบทที่สำคัญ ได้แก่: เมื่อพูดถึงประสบการณ์ในอดีตที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบัน, เวลาที่ไม่ระบุ, การเริ่มของเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตแต่ยังไม่สิ้นสุดลง

ประโยค Present Perfect Tense เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารในภาษาไทย เพราะสามารถเชื่อมโยงสถานการณ์ในอดีตกับปัจจุบันได้อย่างชัดเจน หวังว่าประโยคตัวอย่างเหล่านี้จะสามารถช่วยให้คุณเข้าใจและใช้ Present Perfect Tense ได้อย่างถูกต้องและถูกสำนวน

ตัวอย่างประโยค present perfect continuous tense 20 ประโยค

Present Perfect Continuous Tense (ประโยคเฉพาะเวลาช่วงปัจจุบันแต่ก่อนที่เกิดขึ้นพร้อมกับเนื้อหามานานแล้ว) เป็นรูปประโยคที่ใช้เมื่อต้องการอธิบายกระบวนการหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมักใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตมานานแล้วขณะที่มีผลกระทบกับปัจจุบัน ในบทความนี้เราจะนำเสนอตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense ภาษาไทย 20 ประโยคต่างๆ

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense:
1. เขาได้กำลังศึกษาภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (He has been studying English since last year).
2. เรากำลังเล่นเกมนี้มาตั้งแต่เช้า (We have been playing this game since morning).
3. พวกเขาได้ก็เรียนเป็นเวลา 3 ชั่วโมงแล้วเมื่อที่ผมมาเห็นเขายังคงเรียนอยู่ (They have been studying for 3 hours when I came to see them).
4. ฉันกำลังทำอาหารตั้งแต่เมื่อเช้า (I have been cooking since morning).
5. เขาได้ทำงานอย่างหมดจดมาตั้งแต่ปีมีค่าย้อนหลัง (He has been working non-stop since the beginning of the year).
6. อะไรคือเหตุผลที่เธอกำลังร้องไห้ (What has been the reason she’s been crying)?
7. ฉันกำลังรอเขาตามเขามาตั้งแต่ครั้งที่เขาได้บ้านไป (I have been waiting for him since he left home).
8. พวกเขากำลังขึ้นบินเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว (They have been flying for several hours).
9. ฉันได้พบเพื่อนเก่าของฉันพูดโลกอยู่เมื่อครั้งที่ผมเยี่ยมเขา (I have found my old friend talking on the phone when I visited him).
10. เขามีอาการปวดหัวมานานแล้ว (He has been having a headache for a while now).
11. ฉันคิดว่าฟิลิปส์ร้องเพลงนี้มานานแล้ว (I think Filip has been singing this song for a while now).
12. พวกเขาดูหนังตลอดคืน (They have been watching movies all night).
13. ขณะนี้ฉันช่วยเขาทำงานอยู่ (I am helping him with his work at the moment).
14. พวกเขาตั้งแต่วางลูกไก่เรี่ยวขึ้นมานอกจากนั่นไม่ได้ทำอะไรอื่นมา (They have been just lying down since they laid the eggs without doing anything else).
15. ผมกำลังรอและหวังว่าจะได้รับข่าวของเธอในไม่ช้า (I have been waiting and hoping to hear from her soon).
16. ช่วงนี้เขากำลังอ่านหนังสือเรื่องอะไร (What has he been reading recently)?
17. พวกเขากำลังวิ่งตามกันในเวลาตอนเที่ยงคืน (They have been running after each other at midnight).
18. เธอทำอะไรมาตั้งแต่ออกจากร้านนี้ (What has she been doing since she left this shop)?
19. เขาได้เรียนเป็นเวลามากกว่าสองชั่วโมงแล้วเมื่อฉันเห็นเขาก็ยังคงเรียนอยู่ (He has been studying for more than two hours when I saw him still studying).
20. ฉันกำลังตกแต่งบ้านตั้งแต่เดือนที่แล้ว (I have been decorating the house since last month).

FAQs (คำถามที่พบบ่อย):

Q: ประโยคนี้ใช้กับเหตุการณ์ใดสามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense ได้หรือไม่?
A: ประโยค Present Perfect Continuous Tense สามารถใช้กับเหตุการณ์ที่มีเวลาช่วงหนึ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

Q: จะเคลื่อนที่ในรูปประโยคนี้ได้อย่างไร?
A: รูปประโยค Present Perfect Continuous Tense เป็นกริยาเชิงกรรมาธิการ การเคลื่อนที่ในประโยคย่อยจะขึ้นอยู่กับคำกริยาหลักที่ใช้ ภาษาไทยไม่มีการเปลี่ยนรูปการเคลื่อนที่ตามประโยค

Q: อดีตกับปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประโยคในภาษาไทยใช้รูปของกริยาที่ต่างกันไหม?
A: ในภาษาไทยเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรูปกริยาในแต่ละตำแหน่งของประโยค เพียงแต่ใช้กลุ่มคำโดยใช้คำว่า “เล่น”, “กำลัง” หรือ “ได้”

Q: มีวิธีอื่นใดที่เราสามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense ในภาษาไทยได้หรือไม่?
A: ในภาษาไทยสามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense โดยเติมคำว่า “แล้ว” หรือ “มานานแล้ว” หรือ “ได้” ที่หลังกริยาหลักเพื่อเน้นเวลาที่กระทำไป

ในบทความนี้เราได้ทำความรู้จักกับตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense ในภาษาไทย 20 ประโยคที่แสดงถึงเหตุการณ์หรือกระบวนการที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านยังควรทราบว่าใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยการเคลื่อนที่หรือกริยาหลักที่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปในภาษาไทยได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจ Present Perfect Continuous Tense ได้มากยิ่งขึ้น

พบ 18 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ประโยค present perfect tense.