ประโยค Present Perfect Continuous: ทำความเข้าใจนิยามและการใช้งาน

ประโยค Present Perfect Continuous ในภาษาไทย

ประโยค Present Perfect Continuous เป็นรูปแบบของประโยคในอดีตที่ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงมีผลต่อปัจจุบันอยู่ โดยมีการใช้กริยาช่วย “have been” ร่วมกับกริยาต่อท้ายด้วย “-ing” เช่น “I have been studying English for three years” (ฉันได้เรียนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลาสามปีแล้ว) หรือ “She has been working all day” (เธอได้ทำงานตลอดทั้งวัน)

โครงสร้างของประโยค Present Perfect Continuous

ประโยค Present Perfect Continuous ประกอบด้วยตัวอักษร “have been” ที่เป็นกริยาช่วยร่วมกับกริยาต่อท้ายด้วย “-ing” เพื่อเวลาเป็นอัตราต่ำกว่าหนึ่ง ตัวอย่างการเอาประโยค Present Perfect Continuous คือ “I have been studying” (ฉันได้กำลังเรียนมา) หรือ “They have been working” (พวกเขาได้ทำงานมา)

ความหมายและการใช้ประโยค Present Perfect Continuous

ประโยค Present Perfect Continuous มักใช้เพื่อจับตามสาเหตุหรือเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและกำลังเป็นจริงในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น “I have been waiting for you” (ฉันได้รอคุณมา) เป็นการแสดงถึงสาเหตุว่าที่เรารออยู่คืออะไร และเหตุผลที่เรารอมีอยู่ในปัจจุบัน อีกตัวอย่างเช่น “She has been practicing piano every day” (เธอได้ฝึกเล่นเปียโนทุกวัน) เป็นการบอกว่าการฝึกเล่นเปียโนเป็นเรื่องปกติที่เธอกำลังทำในปัจจุบัน

การใช้ประโยค Present Perfect Continuous เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงเป็นจริง

ประโยค Present Perfect Continuous สามารถใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงเป็นจริงในปัจจุบัน โดยมีการเน้นความต่อเนื่องของการกระทำหรือเหตุการณ์เหล่านั้น ตัวอย่างเช่น “He has been running marathon races for years” (เขาได้วิ่งแข่งมาราธอนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว) เป็นการบอกว่าเขาได้เริ่มต้นวิ่งมาราธอนในอดีต และเขายังคงไปวิ่งแข่งอยู่ในปัจจุบัน

การใช้ประโยค Present Perfect Continuous เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ได้เริ่มต้นในอดีต และยังคงกำลังดำเนินต่อไปในปัจจุบัน

ประโยค Present Perfect Continuous ยังสามารถใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ได้เริ่มต้นในอดีตและยังคงกำลังดำเนินต่อไปในปัจจุบันได้ ตัวอย่างเช่น “We have been living in this house since we got married” (เราได้มาอยู่บ้านนี้ตั้งแต่เราแต่งงาน) เป็นการแสดงถึงว่าเราได้เริ่มต้นอยู่บ้านนี้ตั้งแต่เราแต่งงาน และเรายังคงต่ออยู่ในบ้านนี้อยู่ในปัจจุบัน

ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Continuous กับ Present Perfect Tense และ Present Continuous Tense

– Present Perfect Continuous เน้นการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เป็นตลอดเวลาในอดีตและยังคงมีผลต่อปัจจุบัน
– Present Perfect Tense เน้นผลลัพธ์หรือสถานะที่เกิดขึ้นจากการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เป็นจริงในอดีต
– Present Continuous Tense เน้นการกระทำหรือเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน

การเปลี่ยนประโยค Present Perfect Continuous เป็นประโยคอื่นๆ เช่น Past Perfect Continuous หรือ Future Perfect Continuous

– Past Perfect Continuous เป็นการเปลี่ยนประโยค Present Perfect Continuous ให้เป็นอดีตกาล โดยใช้ “had been” ร่วมกับกริยาต่อท้ายด้วย “-ing” เช่น “He had been waiting for her for hours before she arrived” (เขาได้รอเธอมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่เธอจะมาถึง)

– Future Perfect Continuous เป็นการเปลี่ยนประโยค Present Perfect Continuous ให้เป็นอนาคตกาล โดยใช้ “will have been” ร่วมกับกริยาต่อท้ายด้วย “-ing” เช่น “They will have been working on this project for three months by next week” (พวกเขาจะทำงานโปรเจ็กต์นี้มาเป็นเวลาสามเดือนภายในสัปดาห์หน้า)

คำกริยาสำคัญที่ใช้ร่วมกับประโยค Present Perfect Continuous เพื่อเน้นความหมายและเป็นเวลาสั้นๆ

คำกริยาที่ใช้ร่วมกับประโยค Present Perfect Continuous เพื่อเน้นความหมายและเป็นเวลาสั้นๆ ได้แก่ “just” (เพิ่ง) เช่น “I have just been cleaning the house” (ฉันเพิ่งทำความสะอาดบ้าน) และ “recently” (เมื่อเร็วนี้) เช่น “She has recently been traveling to Europe” (เธอเร็วๆนี้ได้เดินทางไปยุโรป)

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ประโยค Present Perfect Continuous และวิธีการแก้ไขเพื่อให้ใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

– การใช้เวลาที่ไม่ถูกต้อง: เช่น “I have been waiting her for five hours” หรือ “I have been living here when I was a child” ให้แก้เป็น “I have been waiting for her for five hours” และ “I used to live here when I was a child”

– การใช้คำกริยาในรูปปกติ: เช่น “I have been go to the gym every day” ให้แก้เป็น “I have been going to the gym every day”

– การใช้กรรมวิธีที่ไม่ถูกต้อง: เช่น “She has been singing since she was a child” ให้แก้เป็น “She has been singing since she was a child”

– การใช้ช่องว่างระหว่างกริยาช่วย “have” และกริยาต่อท้าย “-ing” ที่ไม่ถูกต้อง: เช่น “They have been playing football for two hours” ให้แก้เป็น “They have been playing football for two hours”

โดยสรุป ประโยค Present Perfect Continuous เป็นรูปแบบของประโยคในภาษาไทยที่ใช้เพื่อเสริมความหมายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังมีผลต่อปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ในการอธิบายการ

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense 20 ประโยค

Present Perfect Continuous Tense เป็น tense ที่ใช้ในการเน้นเรื่องเวลาหมายถึงการเข้าสังคมหรือเวลาที่เป็นจริงในอดีตจนถึงปัจจุบัน ในภาษาไทยเปรียบเสมือนแปลว่า “กำลังทำอยู่” หรือ “ได้ทำมาตั้งแต่” ซึ่งมักใช้เรื่อง: กิจกรรมหรือการตอบรับสภาพการเปลี่ยนแปลงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense แบ่งเป็นหลายประเภทดังนี้:

1. ระยะเวลาที่เท่าไหร่
เช่น:
– ฉันกำลังทำงานอยู่ได้นานแล้ว (I have been working for a long time.)
– เขาเล่นเกมมาตั้งแต่ตอนเช้า (He has been playing games since this morning.)
– เราเรียนภาษาอังกฤษมาอย่างสนุกสนานเมื่อหลายปีที่แล้ว (We have been studying English for many years.)

2. การอธิบายสภาวะหรือการเปลี่ยนแปลง
เช่น:
– ฉันกำลังบาดเจ็บมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว (I have been injured for several days.)
– เธอกำลังเจ๋งมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ (She has been amazing for a long time, but still couldn’t beat him.)
– พ่อของฉันกำลังกังวลมาหลายสัปดาห์ (My father has been worried for several weeks.)

3. การบอกสิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นเวลานานแล้ว
เช่น:
– ฉันกำลังรอมานานแล้ว (I have been waiting for a long time.)
– เขากำลังนั่งอ่านหนังสือมานานแล้ว (He has been sitting and reading a book for a while.)
– เรากำลังเดินทางไปเที่ยวมานานแล้ว (We have been traveling for a long time.)

4. การแสดงระยะเวลาที่เรียกเกิดขึ้นซ้ำ ๆ
เช่น:
– เขาบอกฉันประโยคนี้มาเป็นเวลาหลายครั้งแล้ว (He has told me this sentence many times.)
– ฉันพบกับเขาบ่อยมากซ้ำ ๆ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา (I have met him many times in the past month.)
– เธอเตือนฉันมาสองครั้งก่อนหน้านี้แล้ว (She has warned me twice before.)

5. การเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบัน
เช่น:
– เคยไหมที่เธอตีบอลมาก่อนหน้านี้ (Have you been playing soccer before?)
– เราได้มีเงินเก็บจากงานนี้มาก่อนหน้านี้ (We have saved money from this job before.)
– เธอเคยเหนื่อยมาก่อนหน้านี้ (She has been tired before.)

เหล่าที่เราได้กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างของประโยค Present Perfect Continuous Tense เท่านั้น แต่ในภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย เรามักจะใช้ประโยคในเรื่องต่าง ๆ อย่างมาก เช่น การใช้ทั้ง 4 ข้อด้านบน ดังนั้นหากได้ปฏิบัติหลักจากแต่ละข้อแล้ว สามารถประยุกต์ใช้ในสถานการณ์เป็นจริงต่าง ๆ

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

คำถาม 1: ระหว่าง Present Perfect Continuous Tense กับ Present Perfect Tense ต่างกันอย่างไร?
คำตอบ: Present Perfect Continuous Tense เน้นเวลาที่เป็นจริงในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงกิจกรรมหรือสภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก่อนหน้าปัจจุบัน ส่วน Present Perfect Tense เน้นการเกิดขึ้นของเหตุการณ์หรือประสบการณ์ในอดีตที่มีผลกระทบในปัจจุบัน

คำถาม 2: ประโยค Present Perfect Continuous Tense สามารถแปลเป็น Present Perfect Tense ได้หรือไม่?
คำตอบ: ในบางกรณีประโยค Present Perfect Continuous Tense สามารถแปลเป็น Present Perfect Tense ได้ แต่ความแตกต่างคือ Present Perfect Continuous Tense เน้นเวลาที่ระยะเวลาเป็นจริงในอดีตและปัจจุบัน ส่วน Present Perfect Tense เน้นผลลัพธ์ที่ได้มาจากเหตุการณ์หรือประสบการณ์ในอดีต

คำถาม 3: สามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense กับกริยาทั่วไปและกริยาหน้าที่เสริมได้หรือไม่?
คำตอบ: ใช้ Present Perfect Continuous Tense กับกริยาทั่วไปหรือกริยาหน้าที่เสริมได้ ตัวอย่างเช่น:
– เคยมัวแต่ใช้ในงานนี้ชั่วพริบตายิ้มและหัวเราะอย่างสดใสตลอดไป (They have been smiling and laughing throughout this whole event.)
– หลังจากที่เขาเรียนเตรียมตัวเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย ต่อมาเขาได้ฝึกการพูดภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง (After he has prepared for the exam, he has been practicing English speaking continuously.)

คำถาม 4: ใช้ Present Perfect Continuous Tense กับอดีตกาลแล้วจะเห็นผลต่อปัจจุบันอย่างไร?
คำตอบ: ใช้ Present Perfect Continuous Tense กับอดีตกาลเพื่อแสดงผลที่มีต่อปัจจุบัน แสดงถึงกิจกรรมหรือสภาวะที่ผลิตทั้งในอดีตและสไตล์การดำเนินชีวิตในปัจจุบัน

แม้ว่า Present Perfect Continuous Tense จะเป็น tense ที่เข้าใจยากในภาษาอังกฤษ แต่ในภาษาไทย เรามักพบประโยคแบบนี้อยู่ตลอดการพูดหรือการเขียนประกอบคำถามหรือการเล่าเรื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเข้าใจและสื่อสารกับผู้คนในสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของเรา

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense ใช้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตโดยเน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ เป็นการนำขณะตอนปัจจุบันมาเชื่อมต่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเน้นเวลา หรือระยะเวลาที่เราเป็นในขณะนั้น
ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense ปฏิเสธและคำถามมีดังนี้

1. ปฏิเสธ (Negative):
– They have not been studying English for two hours.
พวกเขายังไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษมานานสองชั่วโมง

– I haven’t been working on this project since last week.
ฉันยังไม่ได้ทำงานโครงการนี้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

– She hasn’t been playing games all day.
เธอไม่ได้เล่นเกมมาตลอดทั้งวัน

2. คำถาม (Question):
– Have they been traveling to other countries?
พวกเขาเดินทางไปประเทศอื่นๆรึเปล่า?

– Have you been studying French?
คุณกำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสใช่ไหม?

– Has he been playing guitar since this morning?
เขาเล่นกีตาร์ตั้งแต่ตอนเช้าหรือเปล่า?

การใช้ Present Perfect Continuous Tense เพื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นจำเป็นต้องใช้หรือดึงขึ้นมาใช้ต่อจากประโยคใน Present Perfect Tense เลยควรรู้จักกับ Present Perfect Tense ก่อน

Present Perfect Tense เป็นการใช้เนื่องแต่อดีตที่มีผลกระทบต่อปัจจุบันของขณะนั้น เราใช้ Present Perfect Tense เมื่อเสร็จสิ้นการกระทำหรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ความผลกระทบอยู่ในปัจจุบัน

เช่น
– I have studied English for five years.
ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาห้าปี (สิ้นสุดการเรียนบางส่วน)

– They have traveled to other countries before.
พวกเขาเดินทางไปประเทศอื่นๆมาก่อน (การเดินทางสิ้นสุดเมื่อก่อนหน้านี้)

– She has played guitar since she was young.
เธอเล่นกีตาร์ตั้งแต่เธออยู่เด็ก (การเล่นสิ้นสุดอยู่ในอดีต)

ดังนั้น Present Perfect Continuous Tense นั้นมีลักษณะเดียวกันกับ Present Perfect Tense แต่จัดเตรียมขณะปัจจุบันให้สอดคล้องกับขณะอดีต ทำให้ประโยคดูเป็นรูปแบบที่ต่อเนื่อง พร้อมระวังข้อแตกต่างที่ ขณะมีผลกระทบในหมวดของ Continuity (ความต่อเนื่อง) และ Duration (ระยะเวลา)

หนึ่งในประโยคตัวอย่าง Present Perfect Continuous Tense ที่เราได้ใช้การกระทำในอดีต หรือ Duration (ระยะเวลา) ได้ดีคือ กิจกรรมการเดินทาง เช่น:

– He has been traveling to many countries for three years.
เขาได้เดินทางไปหลายประเทศมาสามปี
– She has been backpacking in Europe since last summer.
เธอได้เดินทางเที่ยวยุโรปกับเป้ทริปตั้งแต่ปลายฤดูร้อนที่แล้ว

แต่จะรู้ได้ดีว่าการกระทำใน Present Perfect Continous Tense ยังมักจะถอยกลับมาสนับสนุนในความต่อเนื่อง (Continuity) และกิจกรรมที่ได้รับผลกระทบตลอด Duration (ระยะเวลา) นานๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้น เช่น:

– He has been painting the house all day.
เขาเขียนบ้านอยู่มาตลอดทั้งวัน
– She has been learning to play the piano for six months.
เธอเรียนเล่นเปียโนมาหกเดือนแล้ว
– They have been renovating the office for two weeks.
พวกเขากำลังซ่อมแซมออฟฟิศมาสองสัปดาห์

FAQs:

Q: Present Perfect Continuous Tense และ Present Perfect Tense คืออะไร?
A: Present Perfect Continuous Tense เป็นตัวย่อของการใช้ประโยคในปัจจุบันแต่ดึงเหตุการณ์หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นในอดีตมาสร้างความต่อเนื่อง และทำให้เวลาหรือระยะเวลาที่เกิดในอดีตเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่ Present Perfect Tense เป็นการใช้งานในปัจจุบันที่มีผลกระทบจากเหตุการณ์ในอดีต โดยเน้นในสิ่งที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจบสิ้น (completed action)

Q: สถานการณ์ใดบ้างที่เราควรใช้ Present Perfect Continuous Tense?
A: เราควรใช้ Present Perfect Continuous Tense เมื่อเราต้องการเน้นความต่อเนื่องของกิจกรรมหรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต โดยมีการกระทำสืบเนื่องมาเป็นเวลานานๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นยังคงมีผลกระทบในปัจจุบัน

Q: Present Perfect Continuous Tense และ Present Perfect Tense ต่างกันยังไง?
A: Present Perfect Continuous Tense และ Present Perfect Tense คล้ายคลึงกันอย่างมาก แต่บทว่าด้วยศักยภาพของที่ต่างกัน ความส่วนตัวเกี่ยวกับ Continuity (ความต่อเนื่อง) และ Duration (ระยะเวลา) ที่เดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ Present Perfect Continous ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น”””

Q: วิธีใช้ Present Perfect Continuous Tense ในประโยคต่าง ๆ?
A: Present Perfect Continuous Tense ใช้ในประโยคที่มีโครงสร้างประกอบด้วย Subject + have/has + been + Present Participle (-ing form) โดยมักจะมีคำต่าง ๆ เช่น for, since เพื่อระบุ Duration (ระยะเวลา) ของกิจกรรมหรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต

โครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense

ไวยากรณ์เป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ บทความนี้จะช่วยอธิบายโครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense นอกจากนี้ยังมีส่วนของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้ อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการใช้งานและวิธีสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense

โครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากโครงสร้างประโยคในอื่น ๆ
โดยปกติแล้ว ประโยคใน Present Perfect Continuous Tense จะมีรูปแบบดังนี้:
[Subj] + have/has + been + verb-ing

ตัวอย่างประโยค:
– I have been studying for 3 hours.
(ฉันเรียนมาสามชั่วโมงแล้ว)
– They have been working on this project since last month.
(พวกเขาทำงานกับโครงการนี้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว)

1. ประโยคยาวแบบ Positive
ในประโยคยาว โครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense คือ:
[Subj] + have/has + been + verb-ing

ตัวอย่างประโยค:
– He has been playing the piano for hours.
(เขาเล่นเปียโนมาหลายชั่วโมงแล้ว)

2. ประโยคสั้นแบบ Positive
ในประโยคสั้น โครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense คือ:
[Subj] + have/has + been + verb-ing

ตัวอย่างประโยค:
– She’s been cooking all day.
(เธอต้มตุ๋นมาตลอดทั้งวัน)

3. Negative
ในประโยคปฏิเสธ โครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense คือ:
[Subj] + have/has + not + been + verb-ing

ตัวอย่างประโยค:
– We haven’t been studying Thai.
(เราไม่ได้เรียนภาษาไทย)

4. คำถามแบบ Yes/No
ในคำถามแบบ Yes/No โครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense คือ:
[Have/Has] + [Subj] + been + verb-ing?

ตัวอย่างประโยค:
– Have you been working all day?
(คุณทำงานตลอดทั้งวันหรือเปล่า?)

5. Wh- คำถาม
ใน Wh- คำถาม โครงสร้างประโยคใน Present Perfect Continuous Tense คือ:
[Wh- Word] + [have/has] + [Subj] + been + verb-ing?
หรือ
[Have/Has] + [Subj] + been + [Wh- Word] + verb-ing?

ตัวอย่างประโยค:
– How long have you been studying for the exam?
(คุณเรียนมานานเท่าไหร่สำหรับการสอบ?)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Present Perfect Continuous Tense

Q1: ใช้ Present Perfect Continuous Tense ในกรณีใดบ้าง?
A1: Present Perfect Continuous Tense ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีต แต่มีผลกระทบต่อปัจจุบัน หรือกิจกรรมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น “I have been living in Thailand for 5 years.” (ฉันอาศัยอยู่ในประเทศไทยมา 5 ปีแล้ว)

Q2: ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Continuous Tense และ Present Perfect Tense คืออะไร?
A2: Present Perfect Continuous Tense เน้นการกระทำที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงกำลังเกิดขึ้นอยู่ ในขณะที่ Present Perfect Tense เน้นผลลัพธ์หรือจำนวนครั้งของการกระทำ

Q3: เราจะใช้เวลาใดในการใช้ Present Perfect Continuous Tense?
A3: เราควรใช้ Present Perfect Continuous Tense เมื่อเราต้องการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงมีผลต่อปัจจุบัน หรือแสดงความยาวนานของเวลาในการกระทำ

Q4: หากเราพูดถึงเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ สามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense ได้หรือไม่?
A4: Present Perfect Continuous Tense ใช้สำหรับเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อปัจจุบัน และกระทำไปเรื่อย ๆ ในอดีต ดังนั้น หากเราพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ควรใช้ Present Continuous Tense แทน

ที่สำคัญที่จะจดจำเมื่อใช้ Present Perfect Continuous Tense คือการใช้เวลาที่ถูกต้อง เช่น “I have been waiting for you since 9 am.” (ฉันรอคุณตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้า)

ในสรุป Present Perfect Continuous Tense เป็นโครงสร้างประโยคที่ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีตและยังดำเนินต่อไปอยู่ในปัจจุบัน โดยใช้วลี “have/has + been + verb-ing” คำถามที่พบบ่อยมีคำถามเกี่ยวกับการใช้งานและความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Continuous Tense และ Present Perfect Tense อย่างไร้ข้อกังวล อย่าลืมใช้เวลาอย่างถูกต้องเมื่อใช้ประโยคใน Present Perfect Continuous Tense

มี 18 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ประโยค present perfect continuous.