ประโยค Present Perfect Continuous Tense: ตัวช่วยในการเสริมสร้างความแม่นยำในการใช้งาน

ประโยคปัจจุบันกาลซึ่งเป็นกาลต่อเนื่องแบบกริยาช่วยเป็นหนึ่งในประโยคย่อยในภาษาไทยที่มีความต่อเนื่องระหว่างเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน ประโยคนี้ใช้เพื่อเรียกขึ้นความรู้สึกที่แตกต่างหรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน การใช้ประโยคปัจจุบันกาลซึ่งเป็นกาลต่อเนื่องแบบนี้มีลักษณะและคุณลักษณะที่เฉพาะเจาะจง ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับประโยคปัจจุบันกาลซึ่งเป็นกาลต่อเนื่องแบบกริยาช่วยในภาษาไทย:

1. ลักษณะและคุณลักษณะของประโยคปัจจุบันกาลซึ่งเป็นกาลต่อเนื่องแบบกริยาช่วย:
ประโยคปัจจุบันกาลซึ่งเป็นกาลต่อเนื่องแบบกริยาช่วยในภาษาไทยประกอบด้วยกริยาช่วย (กำลัง, ได้, ยัง, เมื่อ) + กริยาหลักที่ใช้เป็น present participle (กำลังเรียน, กำลังทำงาน, กำลังอ่าน) โดยประโยคนี้ใช้เพื่อเรียกขึ้นความรู้สึกหรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเรียกขึ้นความต้องการหรือความทำงานที่มีการดำเนินเป็นเวลานาน

ลักษณะของประโยคปัจจุบันกาลซึ่งเป็นกาลต่อเนื่องแบบกริยาช่วยเป็นการใช้คำกริยาช่วยซึ่งทำให้เรารู้ว่าเหตุการณ์หรือการกระทำกำลังเกิดขึ้นหรือกำลังดำเนินการในปัจจุบัน ทำให้เราเน้นในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือเริ่มขึ้นในอดีตและยังคงมีผลต่อปัจจุบันอยู่ ตัวอย่างประโยคปัจจุบันกาลซึ่งเป็นกาล

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense 20 ประโยค

Tenses เป็นส่วนสำคัญของภาษาอังกฤษที่ช่วยให้เราสามารถสื่อสารได้อย่างถูกต้องและราบรื่นกับผู้อื่นได้ ภาษาไทยใช้รูปแบบในการแสดงเวลาไม่เหมือนกับภาษาอังกฤษ ซึ่งจึงทำให้ผู้เรียนส่วนใหญ่มีความยากลำบากในการเรียนรู้ Tenses อันเป็นหัวใจที่สำคัญของการพูดและเขียนภาษาอังกฤษ เนื่องจากภาษาอังกฤษใช้การติด “เวลา” ให้เป็นระบบของตัวภาษา เพื่อให้ประโยคมีความสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีการใช้ Tenses บอกจนถึงย้อนหลังอย่างเจาะจง ซึ่งอย่างที่เราจะเรียนรู้ในบทความนี้คือ “Present Perfect Continuous Tense” Present Perfect Continuous คือ Tense ที่ใช้แสดงออกถึงกระบวนการที่เริ่มขึ้นในอดีต และยังคงต่อเนื่องในปัจจุบันอยู่

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense ในภาษาอังกฤษมีดังนี้

1. I have been studying English for 2 hours. (ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง)
2. They have been playing soccer since morning. (พวกเขาเล่นฟุตบอลตั้งแต่เช้า)
3. She has been practicing piano for a month. (เธอฝึกเล่นเปียโนมาเป็นเวลาหนึ่งเดือน)
4. We have been waiting for the bus for an hour. (เรารอรถเมล์มาหนึ่งชั่วโมงแล้ว)
5. He has been working in this company since 2010. (เขาทำงานในบริษัทนี้ตั้งแต่ปี 2010)
6. They have been living in Bangkok for 5 years. (พวกเขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครมา 5 ปีแล้ว)
7. She has been running for the last 30 minutes. (เธอวิ่งมาเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว)
8. I have been waiting for your call all day. (ฉันรอสายโทรศัพท์จากคุณตลอดทั้งวัน)
9. They have been cooking dinner since the afternoon. (พวกเขาทำอาหารเย็นตั้งแต่บ่ายโมง)
10. He has been reading this book for a week. (เขาอ่านหนังสือเรื่องนี้มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว)
11. We have been watching TV since 8 o’clock. (เราดูทีวีตั้งแต่เวลา 8 โมง)
12. She has been talking on the phone for hours. (เธอคุยโทรศัพท์มาหลายชั่วโมงแล้ว)
13. They have been waiting for the results all day. (พวกเขารอผลมาตลอดวัน)
14. He has been playing computer games all night. (เขาเล่นเกมคอมพิวเตอร์มาตลอดคืน)
15. I have been studying for the exam since morning. (ฉันเรียนแบบจัดเตรียมตัวสำหรับการสอบตั้งแต่เช้า)
16. They have been learning Thai for 3 months. (พวกเขาเรียนภาษาไทยมาเป็นเวลา 3 เดือน)
17. She has been driving for 2 hours. (เธอขับรถมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง)
18. We have been running late for the meeting. (เราสายต่อการประชุม)
19. He has been swimming in the pool since morning. (เขาว่ายน้ำในสระว่ายน้ำตั้งแต่เช้า)
20. They have been working on this project for a long time. (พวกเขาทำงานกับโครงการนี้มานาน)

FAQs เกี่ยวกับ Present Perfect Continuous Tense

1. บทความนี้สอนเกี่ยวกับอะไร?
บทความนี้สอนเกี่ยวกับ Tense ที่เรียกว่า Present Perfect Continuous Tense ในภาษาอังกฤษ และมีตัวอย่างประโยคเพื่อให้เห็นภาพของการใช้ Tense นี้ในชีวิตประจำวัน

2. Present Perfect Continuous Tense ใช้สำหรับอะไร?
Present Perfect Continuous Tense ใช้ในการอธิบายกระบวนการที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน โดยมักใช้เวลา ถามหรือกำหนดระยะเวลาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนั้นๆ

3. Present Perfect Continuous Tense ใช้รูปอย่างไร?
ในการใช้ Present Perfect Continuous Tense จำเป็นต้องใช้กริยาช่วย “have been” หรือ “has been” ตามด้วยกริยาหลักแบบ “be” ที่เปลี่ยนรูปไปเป็น “-ing” เช่น I have been studying, She has been practicing, They have been playing

4. ควรใช้ Present Perfect Continuous ในกรณีใด?
ควรใช้ Present Perfect Continuous เมื่อต้องการกล่าวถึงกระบวนการที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงต่อเนื่องในปัจจุบันอยู่ เช่นเมื่ออธิบายกิจกรรมที่เป็นเวลานาน, แสดงเวลาที่กระบวนการเริ่มขึ้น, หรือสัญญาณบอกเวลาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ

5. สามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense ได้หลังและก่อนสัญลักษณ์เวลาเหรอ?
ใช่ได้ สามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense ก่อนหรือหลังจากสัญลักษณ์เวลา เพื่อระบุจำนวนเวลาที่เกี่ยวข้องได้ ตัวอย่างเช่น “I have been studying for 2 hours” หรือ “She has been practicing piano since 8 o’clock”

6. จะใช้ Present Perfect Continuous Tense ในประโยคปฏิเสธหรือไม่?
ใช่ สามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense ในประโยคปฏิเสธได้ โดยเพิ่ม “not” หรือ “haven’t” หรือ “hasn’t” ระหว่าง “have been” หรือ “has been” และกริยาหลักแบบ “be” ที่เปลี่ยนรูปไปเป็น “-ing” เช่น “I haven’t been studying”, “They haven’t been playing”

7. จะใช้ Present Perfect Continuous Tense ในประโยคคำถามหรือไม่?
ใช่ สามารถใช้ Present Perfect Continuous Tense ในประโยคคำถามได้ โดยใช้ลำดับ “have/has + ประธาน + been + กริยาหลักแบบ ‘be’ + -ing” เช่น “Have you been studying?”, “Has she been practicing?”

สรุป

การเรียนรู้ Tenses เป็นสิ่งสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ เนื่องจากช่วยให้เราสามารถใช้ภาษาอย่างถูกต้องและราบรื่นได้ อย่างเช่น Present Perfect Continuous Tense ที่ใช้ในการแสดงกระบวนการที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงต่อเนื่องในปัจจุบันอยู่ ในชีวิตประจำวัน การใช้ Present Perfect Continuous Tense ช่วยให้เราสามารถสื่อสารว่ากิจกรรมไหนที่กำลังเกิดขึ้นหรือยังคงเกิดอยู่จริงๆ โดยรวมแล้ว การใช้งาน Tense นี้อาจจะไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เรามีการฝึกทำประโยคและใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง จะสามารถปฏิบัติได้ชัดเจน และพัฒนาทักษะการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่าง ประโยค Present Perfect Continuous Tense บอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม

Present Perfect Continuous Tense (ประโยคปัจจุบันกาลเคยปฏิเสธในอดีต) เป็นหนึ่งในรูปเวลาในภาษาอังกฤษที่ใช้เสนอเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีต แต่ยังคงสัมพันธ์มีผลกับปัจจุบัน รูปแบบภาษาอังกฤษนี้มักมาใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ยาวนานและยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ในบทความนี้ เราจะพูดถึงตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense ที่ใช้ในการเล่าหรือเสนอคำถาม พร้อมกับการปฏิเสธคำถามที่เกี่ยวข้อง และมีส่วนถามคำถามที่ถูกตอบอื่นๆมากมาย แนะนำให้ผู้อ่านสนใจดังนี้

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense บอกเล่า

1. She has been playing tennis since this morning. (เธอกำลังเล่นเทนนิสตั้งแต่เช้าวันนี้)
2. They have been studying English for six years. (พวกเขาได้เรียนภาษาอังกฤษมาถึงสกุลที่หก)
3. We have not been working together for a long time. (เราไม่ได้ทำงานร่วมกันมานานแล้ว)
4. He has been waiting for the bus for over an hour. (เขากำลังรอรถเมล์มาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว)
5. I have been living in Bangkok since 2010. (ฉันอาศัยอยู่กรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553)

ปฏิเสธประโยคปัจจุบันกาลเคย

ใน Present Perfect Continuous Tense เมื่อต้องการปฏิเสธคำที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือกิจกรรมที่ใช้รูปปัจจุบันกาลเคยในอดีต เราสามารถใช้การปฏิเสธได้โดยเติม “not” ระหว่าง “have” และ “been” เหมือนกับ Present Perfect Tense ซึ่งกำหนดจากรูปประโยคตัวอย่างดังต่อไปนี้

1. She has not been playing tennis since this morning. (เธอไม่ได้เล่นเทนนิสตั้งแต่เช้าวันนี้)
2. They have not been studying English for six years. (พวกเขาไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษมาถึงสกุลที่หกปี)
3. We have not been working together for a long time. (เราไม่ได้ทำงานร่วมกันมานานแล้ว)
4. He has not been waiting for the bus for over an hour. (เขาไม่ได้รอรถเมล์มาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว)
5. I have not been living in Bangkok since 2010. (ฉันไม่ได้อาศัยอยู่กรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553)

ตัวอย่างประโยค Present Perfect Continuous Tense บอกเล่า

1. Has she been playing tennis since this morning? (เธอเล่นเทนนิสตั้งแต่เช้าวันนี้หรือไม่)
2. Have they been studying English for six years? (พวกเขาเรียนภาษาอังกฤษมาถึงสกุลที่หกปีหรือไม่)
3. Have we been working together for a long time? (เราทำงานร่วมกันนานแล้วหรือไม่)
4. Has he been waiting for the bus for over an hour? (เขารอรถเมล์มาเกือบหนึ่งชั่วโมงหรือไม่)
5. Have I been living in Bangkok since 2010? (ฉันอาศัยอยู่กรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 หรือไม่)

FAQs (Frequently Asked Questions – คำถามที่ถามบ่อย)

Q1: What is the difference between Present Perfect Tense and Present Perfect Continuous Tense?
A1: Present Perfect Tense เน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและมีผลกระทบที่กำหนดให้กับปัจจุบัน ในขณะที่ Present Perfect Continuous Tense เน้นเหตุการณ์หรือกิจกรรมที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงดำเนินการหรือเกิดขึ้นในปัจจุบัน

Q2: How can I form a negative sentence in Present Perfect Continuous Tense?
A2: ใช้รูปประโยคปัจจุบันกาลเคย (Present Perfect Tense) โดยเติม “not” ระหว่าง “have” และ “been” กับคำกริยา (verb) ที่มี “-ing” ต่อท้าย

Q3: What adverbs can I use with Present Perfect Continuous Tense?
A3: Adverbs ที่สามารถใช้กับ Present Perfect Continuous Tense ได้ เช่น: “since,” “for,” “recently,” “lately,” “all day,” “all week/month/year,” เป็นต้น

Q4: Can I use Present Perfect Continuous Tense with stative verbs?
A4: ใช่, แต่ต้องใช้กับ stative verbs ที่มี “ing” ต่อท้ายในรูปที่หลากหลาย เช่น “I have been loving you” (ฉันได้รักเธอ)

Q5: How long can Present Perfect Continuous Tense be used for?
A5: รูปปัจจุบันกาลเคย (Present Perfect Continuous Tense) สามารถใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือการกระทำที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงยาวนานการดำเนินการหรือเกิดขึ้นในปัจจุบันได้ยาวนานเท่าที่เห็นสอดคล้องกัน

นอกจากตัวอย่างประโยคและการบอกเล่า/ปฏิเสธคำถามแล้ว ประโยคปัจจุบันกาลเคย (Present Perfect Continuous Tense) ยังสามารถใช้เพื่อเรียบเรียงเหตุการณ์หรือกิจกรรมที่มีผลกับปัจจุบัน โดยใช้พวก adverbs หรือ time expressions เช่น “for,” “since,” “recently,” “lately,” “all day,” “all week/month/year,” เป็นต้น การใช้ Present Perfect Continuous Tense จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเล่าเรื่องราวที่มีความยาวนานหรือมีผลกระทบต่อปัจจุบันในภาษาอังกฤษ

คำถามที่ถามบ่อย (FAQs) นี้อาจมีบางข้อที่ยังคงคำถามอยู่ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม แนะนำให้ผู้อ่านศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับ Present Perfect Continuous Tense เพื่อเรียนรู้และเข้าใจในรูปร่างและการใช้งานของรูปประโยคนี้อย่างถูกต้อง

พบ 37 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ ประโยค present perfect continuous tense.