Skip to content
Trang chủ » กริยา ที่ ต้องการ กรรม: สำคัญอย่างไรในภาษาไทย

กริยา ที่ ต้องการ กรรม: สำคัญอย่างไรในภาษาไทย

กริยาสกรรมและกริยาอกรรม ป.6

กริยา ที่ ต้องการ กรรม

กริยาที่ต้องการกรรมเป็นกริยาที่ต้องการมีสิ่งหรือผู้รับกระทำในประโยคเพื่อให้ประโยคเป็นครบถ้วนและมีความหมายชัดเจน เรียกตรงนี้ให้โครงสร้างของประโยคเป็น “คำกริยา – ผู้กระทำ – กรรม” และ “กรรม” ในกริยาที่ต้องการกรรมจะเป็นสิ่งหรือผู้รับกระทำที่ถูกกระทำการ ในบทความนี้เราจะศึกษาและอธิบายเกี่ยวกับกริยาที่ต้องการกรรมในภาษาไทยอย่างละเอียดเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและใช้งานได้อย่างถูกต้อง

1. แนวคิดพื้นฐานของกริยาที่ต้องการกรรม
แนวคิดพื้นฐานของกริยาที่ต้องการกรรมเกี่ยวกับการระบุสิ่งหรือผู้ที่ถูกกระทำและสร้างความสมบูรณ์ให้กับประโยค เช่น “ฉันชอบกินไอศกรีม” เป็นต้น กรรมในกริยาที่ต้องการกรรมจะเป็นคำหรือคำว่าที่สร้างความสมบูรณ์ให้กับกริยา เพื่อระบุว่าสิ่งหรือผู้ที่ถูกกระทำโดยผู้กระทำคืออะไร

2. การใช้กริยาที่ต้องการกรรมในประโยค
เพื่อให้ประโยคมีความแน่นอนและชัดเจนมากขึ้น กริยาที่ต้องการกรรมถูกใช้เพื่อกำหนดสิ่งหรือผู้ถูกกระทำในประโยค ดังนั้น เราจำเป็นต้องใช้งานกริยาที่ต้องการกรรมให้ถูกต้องเพื่อให้ประโยคเป็นสมบูรณ์และเข้าใจได้ง่ายๆ

3. วิธีการหากรรมในประโยค
เมื่อพูดถึงกริยาที่ต้องการกรรม การหากรรมในประโยคเป็นสิ่งสำคัญ เราสามารถหากรรมโดยการตอบคำถาม “อะไร” (what) หลังกริยา เช่น ในประโยค “ฉันชอบกินไอศกรีม” เราสามารถถามว่า “ฉันชอบกินอะไร” และตอบว่า “ไอศกรีม” เพื่อหากรรมของประโยค

4. การแสดงผู้กระทำและกรรมในกริยาที่ต้องการกรรม
เพื่อให้ประโยคมีความสมบูรณ์และเข้าใจได้ง่าย เราควรแสดงผู้กระทำและกรรมในกริยาที่ต้องการกรรมอย่างชัดเจน โดยใช้ตำแหน่งที่เหมาะสมในประโยค เช่น “ฉันชอบกินไอศกรีม” กรรม “ไอศกรีม” อยู่หลังกริยา “ชอบกิน”

5. ความหมายและเชิงไวยากรณ์ของกรรมในกริยาที่ต้องการกรรม
ในกริยาที่ต้องการกรรม กรรมเป็นสิ่งหรือผู้รับกระทำ และเป็นส่วนที่สำคัญในการเข้าใจความหมายของประโยค เช่น ในประโยค “ฉันชอบกินไอศกรีม” กรรม “ไอศกรีม” ใช้เพื่อบ่งบอกว่าเราชอบกินอะไร

6. กรรมในกริยาที่ต้องการกรรมและคำสันธานที่เกี่ยวข้อง
ในกรรมที่ปรากฏในกริยาที่ต้องการกรรม มักมีคำสันธานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคำหรือคำว่าที่อยู่หน้ากรรมและสร้างความชัดเจนให้กับประโยค เช่น ในประโยค “เขาเอาคุณไปเดินเล่น” คำสันธาน “เขา” เป็นตัวบ่งบอกว่าเอาใครไปเดินเล่น

7. การพัฒนาทักษะในการใช้กริยาที่ต้องการกรรมให้เป็นมืออาชีพ
การใช้กริยาที่ต้องการกรรมให้ถูกต้องและเก่งกับนักศึกษาและผู้ใช้ภาษาไทยเป็นที่สำคัญ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการสื่อสารและเขียนในภาษาไทย การฝึกฝนและพัฒนาทักษะในการใช้กริยาที่ต้องการกรรมให้เป็นมืออาชีพสามารถทำได้โดยการอ่านและฟังข้อความในภาษาไทย หรือเขียนประโยคตัวอย่างโดยใช้กริยาที่ต้องการกรรม อีกทั้งการฝึกฝนความสามารถในการเข้าใจและวิเคราะห์ประโยคที่มีการใช้กริยาที่ต้องการกรรมในบริบทต่างๆ

คำสุดท้าย
การใช้งานกริยาที่ต้องการกรรมเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าใจและใช้งานภาษาไทยอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ เพื่อให้สื่อสารและเขียนในภาษาไทยได้อย่างมืออาชีพ ผู้ใช้งานควรเรียนรู้แนวคิดพื้นฐานของกริยาที่ต้องการกรรม การหากรรมในประโยค และการแสดงผู้กระทำและกรรมในประโยคอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและการเขียนต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

FAQs

Q: กริยาที่ต้องการกรรมคืออะไร?
A: กริยาที่ต้องการกรรมคือกริยาที่ต้องการมีสิ่งหรือผู้รับกระทำในประโยคเพื่อให้ประโยคเป็นครบถ้วนและมีความหมายชัดเจน

Q: คํากริยาไม่ต้องการกรรม เช่นอะไรบ้าง?
A: คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมเป็นคำกริยาที่ไม่จำเป็นต้องระบุสิ่งหรือผู้ที่ถูกกระทำในประโยค เช่น “วิ่ง” หรือ “นอน”

Q: กริยาต้องการกรรมในภาษาอังกฤษเป็นอย่างไร?
A: กริยาที่ต้องการกรรมในภาษาอังกฤษเกี่ยวข้องกับกริยาที่ต้องระบุสิ่งหรือผู้รับกระทำ ภาษาอังกฤษมักใช้ตำแหน่งที่เหมาะสมในประโยคเพื่อแสดงผู้กระทำและกรรมอย่างชัดเจน เช่น “I like watching movies” (ฉันชอบดูหนัง)

Q: กริยาไม่ต้องการกรรมในภาษาอังกฤษเป็นอย่างไร?
A: กริยาที่ไม่ต้องการกรรมในภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องระบุสิ่งหรือผู้ที่ถูกกระทำในประโยค เช่น “She runs every morning” (เธอวิ่งทุกเช้า)

Q: Ditransitive verb คืออะไร?
A: Ditransitive verb เป็นกริยาที่สามารถกระทำการกับสิ่งหรือผู้ที่ถูกกระทำตั้งแต่ 2 ส่วนขึ้นไป เช่น “He gave me a book” (เขาให้ผมหนังสือ)

Q: ต้องการกรรมคืออะไร?
A: ต้องการกรรมเป็นกริยาที่ต้องการมีสิ่งหรือผู้รับกระทำ ในประโยคเพื่อให้ประโยคเป็นครบถ้วนและมีความหมายชัดเจน

Q: ไม่ต้องการกรรมคืออะไร?
A: ไม่ต้องการกรรมเป็นกริยาที่ไม่จำเป็นต้องระบุสิ่งหรือผู้ที่ถูกกระทำในประโยค และสามารถใช้เพื่อแสดงกริยาโดยไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมกับกรรม

กริยาสกรรมและกริยาอกรรม ป.6

คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: กริยา ที่ ต้องการ กรรม กริยาที่ต้องการกรรม ภาษาไทย, คํากริยาไม่ต้องการกรรม เช่น, กริยาต้องการกรรม ภาษาอังกฤษ, กริยาไม่ต้องการกรรม ภาษาอังกฤษ, Ditransitive verb คือ, ต้องการกรรมคือ, ไม่ต้องการกรรมคือ, Transitive Verb คือ

รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ กริยา ที่ ต้องการ กรรม

กริยาสกรรมและกริยาอกรรม ป.6
กริยาสกรรมและกริยาอกรรม ป.6

หมวดหมู่: Top 16 กริยา ที่ ต้องการ กรรม

ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com

กริยาที่ต้องการกรรม ภาษาไทย

กริยาที่ต้องการกรรม คือ กริยาภาษาไทยที่ต้องการหรือต้องการกระทำอะไรกับประเภทของคน สิ่งของ หรือสถานการณ์ใด ๆ ภายใต้คำอธิบายของกรรม เช่น เขาชอบทำอาหาร, ผมซื้อหนังสือให้เธอ เป็นต้น

ในภาษาไทย จะมีกรรมเป็นส่วนหนึ่งของประโยค โดยจะอยู่หลังกริยาหลักที่บอกเรื่องของประธาน แล้วถูกพูดถึง กรรมเป็นสิ่งที่กริยาจะกระทำ หรือหน่วยประสาทที่ได้รับคำสั่งจากกริยา เพื่อให้มีความรู้สึกหรือสัมผัสกับสิ่งนั้น ๆ

ยกตัวอย่างของกรรมที่ใช้ในประโยค เช่น กรมพระที่นั่ง ในประโยค “เขาสั่งกรมพระที่นั่งให้ทำพิธีเปิดพระบรมมหาราชวัง” ในที่นี้ กริยาคือ “สั่ง” และกรรมคือ “กรมพระที่นั่ง” ที่ถูกสั่งให้ทำพิธีเปิดพระบรมมหาราชวัง

การเลือกใช้กรรมในภาษาไทย เนี่ยแค่เพียงการเลือกคำที่ถูกต้องเพื่อเสริมความหมายให้ครบถ้วน ลึกซึ้ง และเข้าใจได้ง่ายต่อผู้พูดหรือผู้ฟัง เช่น ผมเล่าเส้นทางให้เขาฟัง ชื่อของคนที่มีกรรมคือ “เขา” และกริยาคือ “เล่า” กริยานี้ถูกใช้เพื่อให้เขาได้ฟังเรื่องเส้นทาง

อีกตัวอย่างหนึ่งของกรรมที่ต้องการคือ กรรมสรรพนาม ซึ่งในกรณีนี้ กริยาจะมีกรรมที่เป็นสรรพนามอัตราภาษาไทย เช่น ภาษาญี่ปุ่นสวยมาก, ฉันชอบไข่ดาวเหนือ, เขาจะถามคำถามเรา เป็นต้น

การใช้กรรมที่ต้องการนี้มีประโยชน์มากต่อผู้ฟังหรือผู้อ่าน เพราะช่วยให้เราเข้าใจถึงความต้องการหรือความรู้สึกของคนที่บอกถึงในประโยค ทำให้การสื่อสารกลายเป็นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คำถามที่พบบ่อยในกริยาที่ต้องการกรรม:

1. วิธีใช้กรรมที่ต้องการในประโยคเป็นอย่างไร?
การใช้กรรมที่ต้องการในประโยคทำได้ง่ายโดยวางกรรมที่ต้องการหน้ากริยา โดยทั่วไปประโยคมักจะมีรูปแบบดังนี้: ประธาน + กริยา + กรรม เช่น ฉันส่งของให้เขา

2. มีกรรมที่ต้องการในประโยคที่ไม่สามารถนับจำนวนได้หรือไม่?
ใช่, มีกรรมที่ต้องการในประโยคที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ เช่น ความรัก, กำลังมันส์, ความไร้สาระ เป็นต้น

3. การใช้กรรมที่ต้องการในประโยคโดยไม่ใช้สรรพนามอัตราทำได้หรือไม่?
ใช่, สามารถใช้กรรมที่ต้องการในประโยคโดยไม่ใช้สรรพนามอัตราได้ โดยตัวอย่างที่ชัดเจนอาจมีประโยคดังนี้: ฉันรักเขา, เราหวังว่าเขาได้รับข่าวดี

4. มีกรรมที่ต้องการในประโยคที่มีหลายตัวในคราวเดียวกันได้หรือไม่?
ใช่, มีกรรมที่ต้องการในประโยคที่มีหลายตัวในคราวเดียวกันได้ แต่ในบางกรณี จะต้องมีคำในประโยคนั้นเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นความชัดเจน ตัวอย่างเช่น ฉันชอบให้เขาและเธอ, เขาตามฉันและเราไปห้องฉายา

5. มีกรรมที่ต้องการในประโยคแต่ไม่ขึ้นกับกริยาหรือเป็นกรรมที่หลงเหลือได้หรือไม่?
มีกรรมที่ต้องการในประโยคแต่ไม่ขึ้นกับกริยาหรือเป็นกรรมที่หลงเหลือได้ โดยบางทีผู้พูดหรือผู้เขียนอาจละพูดถึงกรรมอย่างนั้น โดยเรียกนิพจน์ในประโยคนั้น ตัวอย่างเช่น ฉันกินข้าว

การใช้กรรมที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นการใช้สรรพนามอัตราหรือนิพจน์ จะช่วยให้ความหมายของประโยคมีความลึกซึ้งและเพิ่มความกระชับให้กับการสื่อสารในภาษาไทย ดังนั้นการใช้กรรมที่ต้องการนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เรียนภาษาไทยควรใส่ใจและฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะในการใช้ภาษาไทยอย่างเหมาะสม และคล่องตัว

คํากริยาไม่ต้องการกรรม เช่น

คํากริยาไม่ต้องการกรรม เช่น (Kam gria mai dtong gaan kam, chen)

คำกริยาหรือเรียกว่ากริยาในภาษาไทยเป็นส่วนที่สำคัญของประโยคเพราะมีหน้าที่แสดงถึงการกระทำของประธาน จากนั้นอาจมีคำกริยาเติมที่เป็นกรรมเนื่องจากเกิดจากการกระทำงานเรื่องต่างๆ อย่างไรก็ตามแล้ว ไม่ใช้ในทุกกรณีที่มีการกระทำงานจากประธาน บางสถานการณ์นั้น คำกริยาอาจไม่ต้องการกรรม หมายความว่าการกระทำนั้นไม่จำเป็นต้องมีวัตถุ หรือโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นกับกริยาที่มีลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่ง

ตัวอย่างของคำกริยาไม่ต้องการกรรม เช่น
1. นอน (non) – เมื่อเราว่า “ฉันนอน” โดยไม่ระบุว่านอนอะไร คำว่า “นอน” ในที่นี้ไม่มีกรรมเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำเพียงอย่างเดียว ฉากที่แท้จริงเกิดขึ้นคือเราห้ามตัวเองที่จะย้ายกายตัวระหว่างเท้าของเรา กล่าวคือกริยา “นอน” ให้เป็นช่วงเวลาที่เราเฝ้ารอรับการนอนหลับ คำกริยานี้จึงไม่ต้องการกรรมใดๆ
2. รับ (rap) – คำว่า “รับ” ใช้เมื่อเรารับของจากคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น “ฉันไปรับเสื้อผ้าที่ร้านค้า” โดยทั่วไปแล้ว “รับ” เหมาะสมกับกริยาที่ต้องการกรรม แต่ในบางกรณีแทนที่จะระบุว่าเราไปรับของ อาจใช้คำกริยา “รับ” เพื่อระบุถึงการพลิกผันหรือการตอบรับแนวความคิดหรือสถานการณ์
3. เดิน (dern) – เมื่อเราพูดถึงการเคลื่อนที่บนเท้า เช่น “ฉันเดินไปร้านสะดวกซื้อ” คำว่า “เดิน” ในที่นี้ไม่ต้องการกรรมเพราะไม่ได้ย้ายของตัว”เอง ระหว่างภายนอก (ไม่มีการกระทำที่เกิดขึ้นกับวัตถุ)
4. อ่าน (arn) – เมื่อเราพูดถึงการอ่านหนังสือหรือบทความ เช่น “ฉันอ่านหนังสือด้วยความสนใจ” คำว่า “อ่าน” เป็นกริยาที่ไม่ต้องการกรรม เพราะการกระทำเกิดขึ้นตรงไปตรงมากับผู้กระทำ ไม่ได้กระทำต่อการเปลี่ยนแปลงหรือการกระทำใดๆ กับหนังสือหรือบทความเอง

คำกริยาไม่ต้องการกรรมเป็นที่รู้จักในภาษาไทยแต่ละคำ้ เนื่องจากกลุ่มคำกริยาเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการกล่าวถึงกระทำของประธาน โดยไม่ทำต่อหลักการที่กำหนดว่าคำกริยาจะต้องมีกรรมเสมอกัน โดยปกติแล้วคำกริยาไม่ต้องการกรรมจะเกิดขึ้นกับกริยาที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากกริยาทั่วไปที่จำเป็นต้องมีการกระทำกับวัตถุในทุกกรณี

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. พวกคำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมเป็นประเภทไหน?
คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมเป็นคำกริยาเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะที่ไม่จำเป็นต้องมีวัตถุที่กับอยู่เสมอ เช่น นอน, เดิน, วิ่ง, ขึ้น, ลง, กิน, อ่าน เป็นต้น

2. คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมมีวิธีการใช้พิเศษอย่างไร?
คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมสามารถใช้ในรูป ‘กริยา + ส่วนสร้างคำ (affix)’ เพื่อเสริมความหมายหรือเปลี่ยนแปลงความหมายของคำ ยกตัวอย่างเช่น รับประทาน (รับ + ประทาน), อ่านละคร (อ่าน + ละคร)

3. การใช้คำกริยาไม่ต้องการกรรมมีผลต่อความหมายของประโยคอย่างไร?
คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมมักใช้ในกรณีที่ต้องการให้ความสำคัญกับการกระทำของประธานเอง โดยไม่ได้เน้นถึงวัตถุที่กับเกิดกับการกระทำ ผู้พูดสามารถเพิ่มประโยคเติมที่เสริมความหมายของคำกริยาได้เสมือนเพิ่มภาพหรือคำอธิบายเพิ่มเติม

4. นอนและส่วนสร้างคำเรียกว่าอะไรในภาษาไทย?
‘นอน’ เป็นคำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม ส่วนสร้างคำของ ‘นอน’ คือ ‘นอนหลับ’ (นอน + หลับ) ซึ่งแสดงถึงการหลับและประกอบไปด้วยคำว่า ‘นอน’ ซึ่งไม่ต้องการกรรมเช่นเดียวกัน

การใช้คำกริยาไม่ต้องการกรรมเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและเฉพาะเจาะจงของภาษาไทย คำกริยาแบบนี้ช่วยเสริมความหมายและความคลาดเคลื่อนของประโยค โดยไม่จำเป็นต้องใช้กรรม จึงเป็นส่วนสำคัญของภาษาไทยที่ควรถูกสำรวจและเรียนรู้ให้เข้าใจในลักษณะเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือผู้ที่สนใจในการศึกษาภาษาไทย

มี 33 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ กริยา ที่ ต้องการ กรรม.

Intransitive Verbs และ Transitive Verbs ต่างกันอย่างไร
Intransitive Verbs และ Transitive Verbs ต่างกันอย่างไร
กริยาที่ไม่ต้องการกรรม หรือ Intransitive Verbs | Learning 4 Live
กริยาที่ไม่ต้องการกรรม หรือ Intransitive Verbs | Learning 4 Live
วิชาภาษาไทยชั้น ป.3 เรื่อง คำกริยา - Youtube
วิชาภาษาไทยชั้น ป.3 เรื่อง คำกริยา – Youtube
กริยาสกรรมและกริยาอกรรม ป.6 - Youtube
กริยาสกรรมและกริยาอกรรม ป.6 – Youtube
กริยาที่ต้องการกรรม หรือ Transitive Verbs | Learning 4 Live
กริยาที่ต้องการกรรม หรือ Transitive Verbs | Learning 4 Live
คำกริยาไม่ต้องการกรรม(อกรรมกริยา) วิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 |  โครงการ - Youtube
คำกริยาไม่ต้องการกรรม(อกรรมกริยา) วิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 | โครงการ – Youtube
คำกริยา
คำกริยา

ลิงค์บทความ: กริยา ที่ ต้องการ กรรม.

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ กริยา ที่ ต้องการ กรรม.

ดูเพิ่มเติม: lasbeautyvn.com/category/digital-studios

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *