คน สัตว์ สิ่งของ: การเข้าใจและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในชีวิตประจำวัน

คน สัตว์ สิ่งของ: ความสำคัญและเสียงกิจกรรมในสังคม

คน สัตว์ สิ่งของ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของชีวิตที่ปรากฏในสังคมของเรา คน สัตว์ สิ่งของมีลักษณะแตกต่างกันอย่างมากมาย แต่ล้วนแล้วมีบทบาทการดูแลตัวเองของแต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ ซึ่งเทคนิคการดูแลตัวเองของแต่ละกลุ่มนั้นก็ต่างกันไป

ลักษณะการดูแลตัวเองของคนได้รวมถึงการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจ การสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม การทำความสะอาดร่างกาย เป็นต้น นอกจากนี้ คนยังมีการดูแลความรู้สึกของตนเอง การหาอาหารที่เหมาะสมและการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อความพร้อมในการทำงานและสังคม

วัฒนธรรมและค่านิยมของคนมีบทบาทมากมายในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ในสังคม คนมีวิธีการพูดคุย การสื่อสาร และคำนึงถึงอารมณ์ของผู้อื่น นอกจากนี้ คนยังมีค่านิยมในเรื่องการชนะเลิศ ความสำเร็จซึ่งหลายครั้งก็ถูกภาพให้เป็นเป้าหมายในชีวิตของคน นอกจากนี้ ระดับสังคมและบทบาทที่คนเล่นหน้าที่ในสังคมยังสำคัญอย่างมาก ซึ่งคนในสังคมแต่ละกลุ่มและสถานะในสังคมก็มีบทบาทที่แตกต่างกัน

สัตว์ มีความหลากหลายที่สามารถปรับตัวในสภาพแวดล้อมต่างๆได้อย่างดี ทั้งนี้เนื่องจากความสามารถในการดำรงชีวิตของแต่ละสัตว์มีความหลากหลายขึ้นกับลักษณะต่างๆ อาทิเช่น ลักษณะทางกายภาพ วิถีชีวิต และพฤติกรรม ทั้งนี้ นับตั้งแต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไปจนถึงสัตว์ที่มีเปลือกแข็ง เช่น สัตว์สะเทือน เต่า นกพิราบ เป็นต้น

สัตว์มีบทบาทสำคัญในชีวิตของคน ซึ่งสามารถใช้ในการทำงาน เช่น การใช้งานความสามารถของสัตว์เช่นสุนัขในการเพิ่มความปลอดภัย เพื่อช่วยการตรวจหาสิ่งแปลกปลอมในสถานที่สร้าง ในบางกรณีสัตว์ต่างๆ ยังถูกนำมาเพื่อการบำบัดทางจิตใจ เช่น ฝูงช้างที่ถูกนำไปใช้ในการบำบัดผู้ป่วยโรคจิต อีกทั้งยังนำเข้ามาเป็นอาหารและเพื่อเคลื่อนไหวภูมิสัมพันธ์ในสังคมของคน

สิ่งของเป็นสิ่งที่สำคัญและมีบทบาทต่อชีวิตคน ซึ่งเราใช้สิ่งของเพื่อรองรับความต้องการและสร้างความคุ้มค่าในชีวิตประจำวัน สิ่งของที่จำเป็นสำหรับเราทั่วไปได้แก่ เครื่องใช้ในการทำงาน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ดิจิตัล เป็นต้น นอกจากนี้ เรายังมีความต้องการในสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย เช่น เครื่องเล่นกีฬา รองเท้าวิ่ง เสื้อผ้ากีฬา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การใช้สิ่งของทั้งในปริมาณและการสร้างสิ่งของก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้งานสิ่งของอย่างมากมายส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานและการเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ นิยามเรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องยุ่งยาก เนื่องจากการใช้ทรัพยากรอาจเกิดขึ้นระยะยาวที่ไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งของที่เสียหายภายในสังคม ดังนั้นความรับผิดชอบในการใช้สิ่งของต้องได้รับความสำคัญเป็นพิเศษ

สรุปทั้งสิ้น คน สัตว์ สิ่งของ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและบทบาทการดำเนินชีวิตในสังคมของเรา การดูแลตัวเองและพัฒนาตนเองของคนมีความสำคัญเพื่อให้เกิดความมั่นคงและสุขภาพที่ดี สัตว์มีบทบาทต่อชีวิตของคนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การบำบัดทางจิตใจ หรือให้เป็นอาหาร สิ่งของมีความสำคัญต่อชีวิตคน และการใช้งานสิ่งของนั้นก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งความรับผิดชอบในการใช้สิ่งของจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรมีในสังคมของเรา

คำถามที่พบบ่อย (FAQs):

1. คน คืออะไร?
คนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่าสัตว์เนื่องจากมีความสามารถในการมองเห็น คิด รู้ความรู้สึกและมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินชีวิต

2. สัตว์ในชีวิตประจำวันของเราคืออะไรบ้าง?
สัตว์ในชีวิตประจำวันของเราได้แก่ สุนัข แมว นก ปลา กระต่าย เป็นต้น

3. สิ่งของคืออะไร?
สิ่งของคือวัตถุหรือสิ่งของที่มีค่าต่อหน่วยเงินหรือมูลค่าอื่น ๆ ที่ถูกจัดการและใช้งานโดยคน

4. สิ่งของที่นับได้มีอะไรบ้าง?
สิ่งของที่นับได้แบ่งออกเป็น สิ่งของแบบไม่จำกัด (uncountable noun) เช่น น้ำ นม และสิ่งของแบบจำกัด (countable noun) เช่น หนังสือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

5. คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับคน สัตว์ สิ่งของ มีอะไรบ้าง?
คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับคน สัตว์ สิ่งของมีหลายคำ เช่น person (คน), animal (สัตว์), object (สิ่งของ), human (มนุษย์), pet (สัตว์เลี้ยง), possession (ทรัพย์สมบัติ), และที่มาจากราชาศัพท์ในภาษาไทย เช่น elephant (ช้าง), tiger (เสือ), computer (คอมพิวเตอร์), car (รถยนต์), และอื่น ๆ

6. Proper nouns คืออะไร?
Proper nouns คือคำนามที่ใช้เรียกชื่อเฉพาะบุคคล สถานที่ หรือองค์กรแบบเฉพาะ เช่น Thailand (ประเทศไทย), Bangkok (กรุงเทพฯ), Apple Inc. (บริษัท Apple อินคอร์ปอเรชั่น) เป็นต้น

ในสรุป คน สัตว์ สิ่งของ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในสังคมของเรา ซึ่งมีบทบาทการดำ

คําศัพท์: The Building Blocks of Thai Language

The Thai language, known for its rich tonal system and complex sentence structures, comprises various elements that make it unique and beautiful. Among these essential components, nouns, or “คําศัพท์” (pronounced “kam-sap”) in Thai, play a crucial role. In this article, we will explore the significance of nouns in the Thai language, their characteristics, and how they are used in everyday communication. We will also address some frequently asked questions to provide a comprehensive insight into this fundamental aspect of Thai linguistic expression.

Understanding Noun คําศัพท์:
Nouns in Thai refer to people, places, things, and concepts. They serve as the building blocks that allow individuals to express themselves and communicate ideas. Similar to many other languages, Thai nouns categorize into different classes, often referred to as “noun classifiers.” These classifiers help specify the nature of the noun being referred to, such as its shape, size, or type. For instance, when mentioning a cup of coffee, the noun classifier, “แก้ว” (kaew), would be used before the noun “กาแฟ” (ka-fe).

Characteristics of Thai Nouns:
1. Gender Neutrality: Unlike some languages that assign gender to nouns, Thai nouns do not have explicit gender categories. This aspect simplifies sentence construction and reduces any potential confusion that may arise from gender-specific language.

2. Definiteness: In Thai, there are no articles equivalent to “a” or “the” in English. This lack of definite or indefinite articles requires context and sentence structure to convey the intended meaning. For example, the noun “เครื่อง” (khrueang) alone could refer to either “a machine” or “the machine,” depending on the context of the sentence.

Usage of Nouns in Thai Language:
Thai nouns are used in a variety of ways, including naming people, locations, objects, and abstract concepts. They can function as subjects, objects, or modifiers in sentences, depending on their role in the given context. It is crucial to understand that Thai nouns do not change forms based on their grammatical role, making them distinct from languages with inflections. Instead, sentence structure and particle usage convey the appropriate meaning.

FAQs about Thai Nouns:

Q1. How do I know which noun classifier to use?
A1. Learning the appropriate noun classifiers can be challenging, as there are many to remember. One way to determine the correct noun classifier is to observe how Thai speakers naturally use them during conversations. Over time, through exposure and practice, you will acquire a better sense of which noun classifiers to use for different types of nouns.

Q2. Are there any irregular nouns in Thai?
A2. Yes, while Thai nouns mostly follow regular rules, there are several exceptions. These exceptions include loanwords, such as “ริกเตอร์” (ricker) for a computer, which does not require a noun classifier. Learning irregular nouns may require additional effort, but they are generally less common than regular ones.

Q3. Can nouns be pluralized in Thai?
A3. Unlike many Western languages, Thai nouns do not have explicit plural forms. Plurality is typically indicated by context, quantifiers, or classifier words. For example, the noun “คน” (khon), meaning “person,” can be made plural by adding a quantifier like “หลาย” (lai), meaning “several,” resulting in “หลายคน” (lai khon) or “several people.”

Q4. Are there gender-specific pronouns associated with nouns in Thai?
A4. No, unlike some languages that have gender-specific pronouns, Thai uses the same pronouns, regardless of the noun’s gender. The pronouns “เขา” (khao) and “เขา” (kao) are used for both “he” and “she,” respectively.

In conclusion, Thai nouns, or “คําศัพท์,” are the essential building blocks of Thai language. Through their usage, Thai speakers can express their thoughts, identify objects and concepts, and communicate effectively. Understanding the various characteristics and proper usage of Thai nouns is vital for mastering the language. By familiarizing oneself with noun classifiers, practicing in different contexts, and learning from native speakers, learners can unlock the beauty and depth of the Thai language.

คํานาม ภาษาอังกฤษ: การเรียนรู้เกี่ยวกับตัวอย่างและการใช้งานให้ถูกต้อง

คำนามหรือชื่อนามสามัญเป็นหนึ่งในประเภทของคำในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษามหาของระบบการสื่อสารทั่วโลก คำนามมีความสำคัญอย่างมากในการสื่อสารเพราะช่วยให้เราสามารถเขียนและพูดถึงสิ่งต่างๆ ในโลกที่เราดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างถูกต้องและชัดเจน ในบทความนี้เราจะได้รู้จักกับคำนามในภาษาอังกฤษและเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งานให้ถูกต้องที่สุด

โครงสร้างของคำนามในภาษาอังกฤษมีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากภาษาไทย ภาษาอังกฤษมีกฎหนึ่งเสียงที่แน่นหนาในการเลือกใช้ชื่อนามภาษาอังกฤษซึ่งคุณสมบัติเด่นคือมีตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ต้นคำหรือ Initial Letter ที่แสดงถึงคำนามเป็นคลาสว่างานใดในเป้าหมายผู้ใช้ชื่อนามสามรัฐรัฐวิสาหกิจ (names of institutions) ต่างๆ หรือชื่อคนแต่งประโยคหรือชื่อสมาคมองค์กรผู้ใช้อธรรมจริยธรรมประชาชนของหน่วยเชื้อชาติ แต่ของภาษาไทยไม่มีกฏทางวิชาการที่ชัดเจนมากนัก

คำนามในภาษาอังกฤษมีลักษณะสามเช่นเดิมคือคำนามที่เป็นสถานะหรือกิติมายิกาที่ว่าเป็นสมาชิกแต่อย่างใด คำนามที่ทำการของเครื่องมือหรือเครื่องเก่าที่สร้างขึ้นมาแบบจุลทรรศน์เป็นเนื้อคุณขอบเขตที่ยอมรับที่สุดเสมือนโลกของคุณค่าข้อมูลภาษาเดียวกัน

กฎการใช้ชื่อนามในภาษาอังกฤษมีความซับซ้อนมากกว่าภาษาไทยในกรณีที่จำเป็นต้องศึกษากฎอ่านและการเลือกชื่อนามเป็นบทสำหรับหาคำนามในภาษาอังกฤษไม่ว่าจะอยู่ในโฆษณา หรือบรรยายวิจารณ์ความคืบหน้าในตรวจสอบเชิงคุณภาพ (editing / proofreading) สำหรับเกริ่นนำเป็นตัวอย่างภาษาอังกฤษที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว

การใช้งานคำนามในภาษาอังกฤษนั้นมีลักษณะเฉพาะที่ต้องใช้คำนามแบบเอกพจน์ รวมถึงนามธรรมเพื่อให้คำนามในภาษาอังกฤษสามารถเป็นลักษณะการกระทำได้สามารถ และต้องตกลงว่าในทั่วไปคำนามในภาษาอังกฤษถูกแบ่งเป็นหลายชนิดที่ไม่เกี่ยวข้องกันเช่น มีคำนามที่นับจากหนึ่งไปถึงสาม คำนามที่ไม่ระบุได้ที่นับ (uncountable nouns) หรือคำนามที่นับด้วยเลขคี่ถึงสามครั้งแก่ความโจมตีตัว แต่ขอให้เข้าใจว่านิยมเป็นเหตุผลที่คำนามจะมีความซับซ้อนในภาษาอังกฤษต่อไปหลายพันบริวัตร

นอกจากนี้ เรายังสามารถแบ่งคำนามในภาษาอังกฤษออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการเลือกชื่อตามความสัมพันธ์ที่มีกับประชากรหรือไม่ โดยปกติแล้วคำนามในภาษาอังกฤษชนิดนี้จะกล่าวถึงสิ่งที่เป็นองค์กรหรือประชากร

ผู้เรียนอาจพบว่ามีข้อจำกัดการใช้งานคำนามในภาษาอังกฤษที่ต้องใช้คำนามอย่างถูกต้องสมบูรณ์เมื่อต้องอธิบายในตำแหน่งอย่างละเอียดเรื่องที่เป็นจริงที่สุดของตนในฐานะการแสดงถึงสิ่งแวดล้อมและความเกี่ยวข้อง

บทไบยกล่าวถึงเหตุผลที่คำนามที่พบในภาษาอังกฤษจะมีความพิเศษขึ้นนั่นเป็นเพราะมีความเสี่ยงที่จะถูกใช้โดยผิดมากที่แต่ละประเภทของชื่อนามภาษาอังกฤษเพราะทางสำนักที่อยู่เข้าเกรียนใจของผู้พิจารณารูปแบบตัวที่มีผลเสียให้ความหมายสิ่งของหรือการกระทำนั้นๆ ซึ่งการแปลงเข้าการเลือกจุดมุ่งหมายดังกล่าวจะลดความน่าเชื่อถือและประสบความสำเร็จที่สูงขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคำนามในภาษาอังกฤษ

1. คำว่า “คำนาม” หมายความว่าอย่างไรในภาษาอังกฤษ?
คำว่า “คำนาม” ในภาษาอังกฤษหมายถึง “noun” ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของคำในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ระบุหรือชี้แจงสิ่งต่างๆ ในโลกที่เราดำเนินชีวิต ตัวอย่างของคำนามเช่น “book” (หนังสือ), “car” (รถยนต์), หรือ “dog” (สุนัข) ที่ใช้เพื่อพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในโลกให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจน

2. คำนามในภาษาอังกฤษมีลักษณะเฉพาะอย่างไร?
คำนามในภาษาอังกฤษมีลักษณะเด่นหลายประการเมื่อเปรียบเทียบกับคำในภาษาไทย ตัวอย่างเช่น มีการใช้ชื่อตามความสัมพันธ์ระหว่างประชากรหรือหน่วยงาน เช่น ชื่อสถานที่และสิ่งของ เพศ และอินเทอร์เฟซพื้นฐาน และการสื่อสารกันเกี่ยวกับความหมายของสิ่งต่างๆ ในโลกและวางข้อความที่ชัดเจนด้วย

3. การใช้งานคำนามในภาษาอังกฤษมีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
การใช้งานคำนามในภาษาอังกฤษอาจมีข้อจำกัดด้านศัพท์สำหรับคำแทนที่ทำภาระการพิจารณาให้ระตุตระหนักรู้หรือ ทางสเปนเอเชีย และโลกเพื่อให้เข้าใจความหมายแจกแจงเท่าที่จำเป็นเพื่อหาประโยชน์ของการเรียบเรียงว่าประโยชน์ (relevance) บางอย่างที่มีของชนเชิงใต้หล้ามีทั้งในกรณีที่ได้พิจารณาแล้ว

การใช้งานคำนามในภาษาอังกฤษสำหรับท่านที่สนใจเรื่องดังกล่าว และต้องการการเขียนพูดเกี่ยวกับหนูชื่อนามในภาษาอังกฤษให้ถูกต้องและมีความสำคัญอย่างสิ่งนึง ควรศึกษาความรู้เกี่ยวกับเนื้อความของคำนามในภาษาอังกฤษอย่างถ่องแท้ ข้อเสนอของการใช้งานคำนามในภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและเหมาะสมคือสิ่งสำคัญสำหรับการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ ในแง่ของการใช้คำนามในภาษาอังกฤษให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

คํานาม มีอะไรบ้าง

คํานามเป็นหนึ่งในส่วนผูกกับประโยคในภาษาไทย ซึ่งมีสาระหรือหมายถึงชื่อหรือนามสัญญาเฉพาะสำหรับวัตถุ กิจการ หรือที่ทำให้ให้เราสามารถระบุคนหรือสิ่งของต่างๆ ได้ คำนามสามารถอำนวยความสะดวกในการพูดหรือเขียน เพราะทุกคนสามารถเรียนรู้และใช้อย่างเป็นธรรมชาติได้ การใช้คำนามถูกต้องและเหมาะสมในบทความหรือประโยคต่างๆ จะช่วยให้การสื่อสารที่ทันสมัย ถูกต้อง และมีความหมายชัดเจน

คำนามที่ใช้ในภาษาไทยนับว่ามีหลายประเภทและลักษณะ ตั้งแต่คำนามที่ใช้ช่วยตัดสินใจหรืออธิบายถึงสิ่งต่างๆ และคำนามที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ สัตว์ ของใช้ อาคาร รถ เครื่องจักร ความรู้ แรงงาน และอีกมากมาย

หลายคนมักสับสนในการแยกประเภทของคำนาม เนื่องจากมีคำสามารถเกี่ยวข้องกับหลายประเภทได้พร้อมกัน แต่ในทางปฏิบัติคำนามจะถูกแบ่งออกเป็น 5 หมวดหลัก ได้แก่

1. คำนามวัตถุ (Noun of Object)
ใช้เรียกชื่อให้กับวัตถุต่างๆ เช่น ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ หนังสือ เตียง และอื่นๆ

2. คำนามความเป็นมา (Noun of Being)
ใช้เรียกชื่อความมีชีวิต ที่มีการเคลื่อนไหว เช่น คน สุนัข เรือ เด็ก และอื่นๆ

3. คำนามที่อยู่ในลักษณะของคุณลักษณะ (Noun of Quality)
ใช้เรียกชื่อให้กับคุณลักษณะเฉพาะ เช่น ความสุข ความงาม ความหลากหลาย ความเศร้า และอื่นๆ

4. คำนามกริยา (Noun from Verb)
ใช้เรียกชื่อให้กับกริยา เมื่อกริยาถูกเพิ่มคุณลักษณะหรือคำนามเพื่อเป็นการแสดงสิ่งที่กริยาทำ เช่น การเดิน การอ่าน การเขียน การร้องเพลง เป็นต้น

5. คำนามใหม่ (New Nouns)
ใช้เรียกชื่อสารหลายอย่าง เช่น เทคโนโลยี การสื่อสาร โลกออนไลน์ พลังงานพลังงานทดแทน เป็นต้น เนื่องจากคำสามารถสร้างขึ้นมาใหม่เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสิ่งต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน

คำนามมีบทบาทสำคัญต่อการสื่อสารภาษาไทย โดยที่ช่วยให้คนสื่อสารว่างรู้ และสามารถเข้าใจความหมายของวัตถุต่างๆ ได้โดยง่าย เมื่อนำคำนามมาใช้ร่วมกับคำอื่นๆ ก็จะทำให้ประโยคสมบูรณ์และมีความหมายชัดเจนมากยิ่งขึ้น

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. คำนามใช้ทำอะไรได้บ้างในภาษาไทย?
คำนามใช้ในภาษาไทยเพื่อช่วยให้เราสามารถระบุหรือเรียกชื่อสิ่งต่างๆ ได้ เช่น เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องดื่ม กิจการ คน สัตว์ และอื่นๆ

2. การใช้คำนามถูกต้องในประโยคเป็นอย่างไร?
การใช้คำนามถูกต้องต้องเลือกใช้คำที่สอดคล้องกับบทบาทหรือลักษณะของวัตถุหรือสิ่งต่างๆ ที่ต้องการกล่าวถึง เพื่อให้ประโยคมีความหมายที่ชัดเจนและถูกต้อง เช่น การพูดถึง “สวนสัตว์” คำนามที่ถูกต้องควรเป็น “สวนสัตว์” ไม่ใช่ “สวนนก”

3. คำนามประเภทใดบ้างที่ใช้ในภาษาไทย?
คำนามที่ใช้ในภาษาไทยมีหลายประเภท เช่น คำนามวัตถุ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ คอมพิวเตอร์ และรถ เป็นต้น คำนามความเป็นมา เช่น คน สัตว์ ลมหายใจ เด็ก และบ้าน เป็นต้น คำนามที่อยู่ในลักษณะของคุณลักษณะ เช่น ความสวย ความสุข ความเต็มใจ เป็นต้น คำนามกริยา เช่น การวิ่ง การเดิน การอ่าน เป็นต้น และคำนามใหม่ เช่น เทคโนโลยี การสื่อสาร และดาราศาสตร์ เป็นต้น

คำนามเป็นส่วนสำคัญของภาษาไทยที่ช่วยให้การสื่อสารเป็นมิตรและเข้าใจได้ง่าย เราสามารถใช้คำนามในภาษาไทยได้อย่างหลากหลาย และบทบาทที่คำนามทำให้เกิดความหมายถูกต้องในประโยคอย่างยิ่ง

มี 45 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คน สัตว์ สิ่งของ.