การใช้ Perfect Tense
การสร้าง Perfect Tense
Perfect Tense สร้างจากกริยาช่องที่ 1 หรือกริยาที่สามารถแปลงเป็นช่องที่ 1 ได้ เราสามารถสร้าง Perfect Tense โดยใช้ช่องที่ 1 ของกริยา “ไป” ร่วมกับคำกริยาเติม “ได้” และกริยาใหญ่ที่เป็นกริยาช่องที่ 2 หรือคำกริยาที่มีการเติมคำให้เป็น “แล้ว” เช่น ไปเที่ยว, ไปกินข้าว, ไปอ่านหนังสือ เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเราใช้ Perfect Tense เราจะได้ประโยคเช่น “ผมไปเที่ยวแล้ว” หรือ “เขาไปกินข้าวแล้ว”
การใช้ Perfect Tense ในประโยคกริยา
1. การใช้ Perfect Tense กับกริยาที่มีเนื้อความเข้มแข็ง
เมื่อเราใช้ Perfect Tense กับกริยาที่เนื้อความเข้มแข็ง เราจะใช้กริยาช่องที่ 1 ของ “ไป” ร่วมกับคำกริยาเติม “ได้” และกริยาใหญ่ที่เป็นกริยาช่องที่ 2 รูปหน้าตัวอย่างกริยา “เขียน” ใน Perfect Tense จะเป็น “เขียนแล้ว” เช่น “ฉันเขียนแล้ว” หรือ “มา” ใน Perfect Tense จะเป็น “มาแล้ว” เช่น “เขามาแล้ว”
2. การใช้ Perfect Tense กับกริยาที่มีเนื้อความอ่อนแอ
เมื่อเราใช้ Perfect Tense กับกริยาที่เนื้อความอ่อนแอ เราจะใช้กริยาช่องที่ 1 ของ “ได้” ร่วมกับกริยาใหญ่ที่เป็นกริยาช่องที่ 2 เช่น “เก่ง” ใน Perfect Tense จะเป็น “เก่งแล้ว” เช่น “เธอเก่งแล้ว” หรือ “เตรียม” จะเป็น “เตรียมแล้ว” เช่น “พ่อเตรียมแล้ว”
3. การใช้ Perfect Tense ในกรณีที่ไม่เกี่ยวข้องกับเวลา
Perfect Tense สามารถใช้เมื่อเราต้องการเล่าเหตุการณ์ที่สำเร็จขึ้นแล้วโดยไม่เป็นที่สำคัญว่าเกิดขึ้นเมื่อไร เช่น “ผมเคยไปต่างประเทศ” หรือ “ฉันเคยทำงานอดิเรก” ในกรณีนี้เราใช้คำบอกเวลาเพื่อเป็นเพียงคำอธิบายเพิ่มเติมเท่านั้น
ความแตกต่างระหว่าง Perfect Tense กับ Past Tense
เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างระหว่าง Perfect Tense กับ Past Tense เราจะมาดูตัวอย่างประโยคด้านล่าง
1. Present Perfect Tense:
– ผมได้แล้วดำเนินอยู่ในตำรวจตั้งแต่ปี 1980 (I have been a police officer since 1980).
– เราได้แล้วพบกันถูกเป็นเพื่อนมานานมาก (We have been good friends for a long time).
– เขาได้ทำงานสร้างสรรค์มาตั้งแต่เด็ก (He has been creative since he was a child).
2. Past Tense:
– ผมทำงานกับบริษัทนี้สองปีที่แล้ว (I worked for this company two years ago).
– เราเข้าใจกันมานานนัก (We understood each other for a long time).
– เขาประทับใจผลงานของคุณมาก (He was impressed by your work).
โดยทั่วไปแล้ว Present Perfect Tense ใช้เพื่อเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังสัมพันธ์กับปัจจุบันอยู่ ในขณะที่ Past Tense ใช้เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและจบลงแล้ว
Present Perfect Tense: ตัวอย่างประโยค
– เธอเคยไปเที่ยวที่ปารีสมาก่อน (She has been to Paris before).
– ฉันไม่เคยเห็นหนังเรื่องนี้มาก่อน (I have never seen this movie before).
– เขาเคยทำงานกับบริษัทใหญ่มาก่อน (He has worked for a big company before).
Present Perfect Tense: ใช้ยังไง
ใน Present Perfect Tense การวางประโยคเริ่มต้นที่มีกริยาช่องที่ 1 ของ “ได้” ร่วมกับคำกริยาเติม “แล้ว” จะเป็นรูปแบบที่ถูกต้อง เช่น “ฉันได้เรียนแล้ว” หรือ “เราได้ปกติแล้ว”
ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense 20 ประโยค
1. ผมได้ซื้อจักรยานใหม่แล้ว (I have bought a new bicycle).
2. เธอได้ทำงานหลายที่แล้ว (She has worked at many places).
3. เขาได้พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก (He has spoken English very well).
4. ฉันเคยมีโอกาสทำงานในต่างประเทศ (I have had the opportunity to work abroad).
5. เรารู้สึกดีใจที่ได้พบกับคุณ (We are glad to have met you).
6. เหตุการณ์ในอดีตได้สร้างกระแสความคิดสร้างสรรค์ (The events in the past have created a creative flow).
7. คนอื่นได้ทำทางให้เขาเดิน (Other people have made a way for him to walk).
8. เธอได้มีโอกาสชมช้อปปิ้งในต่างประเทศ (She has had the chance to go shopping abroad).
9. การแข่งขันที่ผ่านมาสร้างความเขินใจ (The past competition has created excitement).
10. เขาได้ชนะเหรียญทองในการแข่งขันนี้ (He has won a gold medal in this competition).
11. เราพบกันด้วยความสนุกสนาน (We met with enjoyment).
12. ผลงานของเขาได้รับรางวัลมากมาย (His works have received many awards).
13. เราได้ขยายธุรกิจในต่างประเทศ (We have expanded the business abroad).
14. ฉันได้เข้าร่วมงานเปิดใหม่นี้ (I have attended this new opening event).
15. ความสวยงามของงดงามนี้ได้เกิดขึ้นในอดีต (The beauty of this magnificent view has been created in the past).
16. เหตุการณ์ที่ผ่านมาได้สร้างวัฒนธรรมเป็นรากฐาน (The past events have created a cultural foundation).
17. เขาได้ริเริ่มแบรนด์สินค้าใหม่นี้ (He has started this new brand).
18. เราได้พบตัวเองในสถานการณ์ที่ซับซ้อน (We have found ourselves in complex situations).
19. ผลงานที่สร้างขึ้นในอดีตได้สร้างความหลากหลาย (The works created in the past have created diversity).
20. เรื่องนี้เป็นกำลังอยู่ในขบวนการสร้างสรรค์ (This matter is still in the process of being created).
Present Perfect Continuous Tense: ตัวอย่างประโยค
– เธอกำลังได้นอนอยู่ (She has been sleeping).
– พระพุทธเจ้ากำลังนำประชาชนออกจากทุ่งสงคราม (The Buddha has been leading people out of the battlefield).
– เขากำลังทำงานอยู่ (He has been working).
Present Perfect Tense: สรุป
Perfect Tense เป็นทักษะที่สำคัญในการใช้ภาษาไทย เพื่อให้เสียงเสริมความหมายที่ถูกต้องและน่าเข้าใจในการสื่อสาร โดยใช้ Perfect Tense จะทำให้การใช้คำกริยาให้ถูกต้องและน่าเข้าใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้คำบอกเวลาเพิ่มเติมเพื่อเป็นช่องทางในการให้ความคิดเห็นและให้ข้อมูลเพิ่มเติมให้กับผู้ฟังหรือผู้อ่านได้อีกด้วย
โครงสร้างของ Present Perfect:
– กริยาช่องที่ 1 ของ “ได้” ร่วมกับคำกริยาเติม “แล้ว”
– Subject + have/has + Past Participle Verb
Present Perfect Tense: คืออะไรและการใช้ Perfect Tense
Present Perfect Tense เป็นรูปของกริยาที่ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่มีความสัมพันธ์กับปัจจุบัน โดย Present Perfect Tense สร้างขึ้นโดยใช้กริยาช่องที่ 1 ของคำวา “ได้” ร่วมกับคำกริยาเติม “แล้ว” ซึ่งจะมีรูปเป็น have/has + Past Participle Verb
การใช้ Present Perfect Tense ในประโยค จะช่วยให
เผยทริค \”Present Perfect\” ใช้ยังไง? ให้ไม่งง!! | Eng ลั่น [By We Mahidol]
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: การใช้ perfect tense present perfect tense ตัวอย่างประโยค, present perfect tense ใช้ยังไง, ตัวอย่างประโยค present perfect tense 20 ประโยค, present perfect continuous tense ตัวอย่างประโยค, Present perfect สรุป, โครงสร้าง Present Perfect, Present Perfect Tense, present perfect tense คืออะไร
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การใช้ perfect tense
หมวดหมู่: Top 38 การใช้ Perfect Tense
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
Present Perfect Tense ตัวอย่างประโยค
โครงสร้าง Present Perfect Tense ประกอบด้วยกริยา “have/has” ร่วมกับกริยาที่เป็น Past Participle ของคำกริยาหลัก เช่น gone, been, seen ฯลฯ. หากเป็นกริยาที่ลงท้ายด้วย “e” จะเพิ่ม “d” หรือหากไม่เป็น “e” จะต้องเพิ่ม “ed” เข้าไป. ตัวอย่างของโครงสร้าง Present Perfect Tense คือ:
I have + กริยาที่เป็น Past Participle
He/She/It has + กริยาที่เป็น Past Participle
We/You/They have + กริยาที่เป็น Past Participle
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างประโยคที่แสดงการใช้ Present Perfect Tense ในภาษาไทย:
1. เขาเคยไปเที่ยวภูเขามาแล้ว (He has been to the mountains before.)
2. ตั้งแต่จากได้ออกจากบ้านเมื่อวานนี้ (We haven’t left the house since yesterday.)
3. ฉันได้พูดกับเขามาแล้ว (I have talked to him already.)
4. เธอไม่เคยรับทุเรียนมาก่อนหน้านี้ (She has never received durian before.)
5. เราเป็นคู่กันมานานเป็นเวลา 10 ปีแล้ว (We have been together for 10 years.)
6. มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ (It hasn’t been completed yet.)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Present Perfect Tense:
คำถาม 1: ใช้ Present Perfect Tense เมื่อไหร่?
การใช้ Present Perfect Tense นั้นมักใช้เมื่อเราต้องการพูดถึงประสบการณ์ในอดีตที่มีผลต่อปัจจุบันหรือเกี่ยวข้องกับปัจจุบันในบางประการ ยกตัวอย่างเช่น เราใช้ Present Perfect Tense เมื่อเราพูดถึงประสบการณ์และเหตุการณ์ในอดีตที่ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
คำถาม 2: สามารถใช้ Present Perfect Tense กับระยะเวลาที่ไม่กำหนดได้หรือไม่?
ใช่ สามารถใช้ Present Perfect Tense กับระยะเวลาที่ไม่กำหนดได้ หากไม่ได้กำหนดระยะเวลาเอาไว้ อาจแปลได้ว่าเหตุการณ์กำเนิดขึ้นในอดีตและยังคงมีผลกระทบหรือความสัมพันธ์กับปัจจุบัน
คำถาม 3: เราสามารถใช้ Present Perfect Tense เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่เสร็จสมบูรณ์แล้วได้หรือไม่?
ใช่ สามารถใช้ Present Perfect Tense เพื่อพูดถึงเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วในอดีตได้ ตัวอย่างเช่น “I have finished my homework” (ฉันได้ทำการบ้านเสร็จแล้ว)
คำถาม 4: Present Perfect Tense และ Past Simple Tense ต่างกันอย่างไร?
Present Perfect Tense ใช้เมื่อต้องการฉากกั้นเหตุการณ์ในอดีตที่เสร็จสมบูรณ์แล้วกับปัจจุบันในขณะที่ Past Simple Tense ใช้เมื่อเราต้องการแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงในอดีต
ในสรุป Present Perfect Tense เป็นหนึ่งในรูปแบบหนึ่งของการใช้เวลาที่ใช้ในภาษาอังกฤษเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน ภาษาไทยไม่มี Present Perfect Tense สำหรับการแปล เราสามารถใช้คำว่า “เคย” หรือ “ได้” ในการแปลแทนได้. การสร้างประโยคด้วย Present Perfect Tense ควรปฏิบัติตามโครงสร้างที่กำหนดและทดสอบและฝึกปฏิบัติเพื่อที่จะเข้าใจและจดจำได้ดีขึ้น.
Present Perfect Tense ใช้ยังไง
Present Perfect Tense (ปัจจุบันกำลังทำอยู่) เป็นหนึ่งในกาลเวลาที่ใช้ในภาษาอังกฤษเพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและมีผลกระทบหรือความสัมพันธ์กับปัจจุบันโดยตรง คำว่า “Present Perfect” มาจากคำว่า “Present” หมายถึง ปัจจุบันและคำว่า “Perfect” หมายถึง เราจำเป็นต้องเข้าใจเกี่ยวกับกขส ก่อนที่เราจะเข้าสู่ประโยคที่แน่นอน
การสร้าง Present Perfect Tense:
Present Perfect Tense ถูกสร้างขึ้นโดยใช้รูปแบบ Present Perfect Tense สำหรับประโยคบวก คือ “Subject + have/has + past participle” (ได้แก่ Verb ที่ระงับ -ed)
เช่น:
– I have eaten lunch. (ฉันกินอาหารเที่ยงแล้ว)
– He has finished his work. (เขาทำงานจบแล้ว)
– They have watched the movie. (พวกเขาได้ดูหนังแล้ว)
ในประโยคลบ คือ “Subject + have/has + not + past participle” เช่น “They have not studied for the exam.” (พวกเขายังไม่ได้เรียนสำหรับการสอบ)
Present Perfect Tense สำหรับประโยคถาม คือ “Have/has + Subject + past participle”
เช่น:
– Have you finished your homework? (คุณทำการบ้านเสร็จแล้วหรือยัง)
– Has she traveled to Europe before? (เธอเดินทางไปยุโรปก่อนหรือยัง)
การใช้งาน Present Perfect Tense ในภาษาไทย:
เมื่อแปลเนื้อหาจากภาษาอังกฤษไปยังภาษาไทย คำว่า “Present Perfect” จะถูกแปลว่า “ปัจจุบันกำลังทำอยู่” ซึ่งในภาษาไทย จะถูกใช้แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่กำลังมีผลกระทบหรือความสัมพันธ์กับปัจจุบันอยู่ ดังนั้น Present Perfect Tense มักถูกใช้เมื่อเราต้องการพูดถึงประสบการณ์ในอดีตที่ส่งผลต่อปัจจุบัน หรือจากเหตุการณ์ในอดีตที่ยังคงเกิดขึ้นเป็นประจำในปัจจุบัน
ตัวอย่าง:
– เขาเคยได้เรียนจบมหาวิทยาลัยไหม่ล่าสุด? (Has he graduated from the university?)
– เราเคยได้ยินเสียงเพลงนี้ก่อนหรือเปล่า? (Have we heard this song before?)
เมื่อเทียบกับ Present Perfect Tense ในภาษาอังกฤษ การใช้ Present Perfect Tense ในภาษาไทยอาจจะเป็นเรื่องที่ลำบากน้อยกว่า ซึ่งอาจเป็นเพราะการแปลความหมายในภาษาอังกฤษที่ไม่เจาะจงเท่าที่ควร แต่เมื่อคุณเข้าใจแนวทางและความหมายของ Present Perfect Tense อย่างถ่องแท้ มันจะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยคใน Present Perfect Tense ในภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้ Present Perfect Tense:
นี่คือบางประโยคที่ส่วนใหญ่มีคนผิดในการใช้ Present Perfect Tense:
1. ผู้คนบางคนใช้ Present Perfect Tense เมื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและมีเวลาที่ไม่กำหนดเสร็จสิ้น
ตัวอย่าง: “I have been in Korea last month.” ในกรณีนี้เราควรใช้ Past Simple Tense แทน (I was in Korea last month.)
2. แพทเทิร์นบางคนใส่คำนามหลังจากเครื่องหมายคำถามเพื่อให้เกิดคำถามใน Present Perfect Tense
ตัวอย่าง: “Have you eaten your breakfast what?” ในกรณีนี้ควรใช้คำถามของ Past Simple Tense (Did you eat your breakfast?)
3. อีกความผิดพลาดหนึ่งคือการใช้ไม่ถูกต้องของ Past Simple Tense กับ Present Perfect Tense
ตัวอย่าง: “I visited Paris this year.” ในกรณีนี้ควรใช้ Present Perfect Tense (I have visited Paris this year.)
ประโยคดังกล่าวควรเป็น “I have visited Paris this year.” เนื่องจากเราไปเยือนเมืองปารีสในปีนั้นและการท่องเที่ยวยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบัน
โดยสรุป Present Perfect Tense เป็นกลไกการใช้ที่สำคัญในภาษาอังกฤษที่ช่วยให้คุณสามารถอธิบายเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบกับปัจจุบัน โปรดใช้งานให้ถูกต้องเพื่อเพิ่มความเข้าใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณ!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Present Perfect Tense:
1. Present Perfect Tense แตกต่างและคล้ายกับ Past Simple Tense อย่างไร?
– Present Perfect Tense ใช้เวลาที่ไม่ระบุให้เสร็จสมบูรณ์ เช่น “I have traveled to Paris.” ในขณะที่ Past Simple Tense ใช้เวลาที่ระบุเสร็จสมบูรณ์ เช่น “I traveled to Paris last year.”
2. เราควรใช้ Present Perfect Tense หรือไม่?
– Present Perfect Tense จะใช้เมื่อเราต้องการเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตเข้ากับปัจจุบัน หรือเมื่อเราต้องการเน้นถึงความสัมพันธ์ของเหตุการณ์นั้นๆ กับเวลาปัจจุบัน
3. การใช้กริยายังไม่ได้รับรู้ในภาษาไทย เป็นปัญหาหรือไม่?
– ในบางครั้ง การใช้กริยายังไม่ได้รับรู้ในภาษาไทยอาจทำให้การแปลและการเรียนรู้ใน Present Perfect Tense เกิดความสับสน อย่างไรก็ตาม มันยังคงเป็นเรื่องที่สามารถศึกษาและ 이해 ได้ดีเมื่อคุณมีความพร้อมและปฏิสัมพันธ์กับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense 20 ประโยค
ประโยค Present Perfect Tense เป็นหนึ่งในรูปอดีตในอนาคต ซึ่งใช้ในการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่มีผลกระทบต่อปัจจุบัน สำหรับภาษาไทย เราอาจจะพบเห็นประโยค Present Perfect Tense ในบทสนทนาทุกวันนี้ ในบทความนี้ เราจะทบทวนตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense 20 ประโยคที่น่าสนใจมากที่สุดในภาษาไทย
ตัวอย่างประโยค Present Perfect Tense:
1. ผมได้ทำงานที่บริษัทนี้มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว (I have been working at this company for 5 years).
2. เขาเขียนหนังสือเล่มใหม่ไปแล้ว (He has written a new book).
3. ฉันไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศมาก่อน (I have never traveled abroad before).
4. เราได้พูดคุยและแบ่งปันความรู้กันมากมาย (We have talked and shared knowledge a lot).
5. แอลิซันเป็นครูมวยมืออาชีพตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว (Ali has been a professional boxer for 10 years).
6. ครูพี่แก้ไขหนังสือเรียนเพิ่มขึ้นให้กับนักเรียน (Teacher corrected the textbook further for the students).
7. เธอมีสัตว์เลี้ยงทั้งหมด 4 ตัว (She has four pets).
8. เราอ่านหนังสือมากมายและเรียนรู้อะไรใหม่ๆ (We have read many books and learned something new).
9. สุภาพบุรุษช่วยเหลือเด็กที่เจอปัญหา (The gentleman has helped the child who encountered the problem).
10. พ่อฉันสร้างบ้านให้ครอบครัวเรามาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (My father built a house for our family 5 years ago).
11. เรากินอาหารทอดมาก่อนแล้วนี่เอง (We have eaten fried food before already).
12. ฉันได้เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก (I have studied English since I was a child).
13. เธอเสียใจอย่างมากอย่างมาก (She has been very very sad).
14. แม่ของเขาเคยทำอาหารชุดเลี้ยงเด็กน้อยมาก่อน (Her mother has cooked a set of baby food before).
15. มีหลายครั้งที่มีคนมาเยี่ยมเรา (There have been many times that people have come to visit us).
16. เราไม่เคยได้ยินเรื่องราวที่ท่านเล่ามาก่อน (We have never heard the story you told before).
17. พ่อของเขาเคยทำงานที่ออสเตรเลียมา (His father has worked in Australia).
18. ฉันได้เห็นคู่รักแบบนั้นที่แล้ว (I have seen that couple before).
19. เมื่อวานนี้ผมเรียนผ่านอินเตอร์เน็ตมาก่อนแล้ว (I have studied through the internet yesterday).
20. เขาไม่เคยได้แก่ชุดนั้นก่อน (He hasn’t grown into that suit before).
คำถามที่พบบ่อย:
1. ฉันจะเรียน Present Perfect Tense ได้ยังไง?
ถือเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่การใช้กริยาช่วย “have” และ “has” ตามด้วยรูปเติมกำหนดหลังจากนั้น เช่น “I have studied”, “He has worked” และ “We have eaten”.
2. ประโยค Present Perfect Tense ใช้เมื่อไร?
ใช้บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่มีผลกระทบในปัจจุบัน เช่น “I have seen that movie before” (ผมเคยดูหนังเรื่องนี้มาก่อน) หรือ “She has studied English for 2 years” (เธอเรียนภาษาอังกฤษมาเป็นเวลา 2 ปี).
3. มีคำใดบ้างที่ใช้ร่วมกับ Present Perfect Tense บ้าง?
บางครั้งเราใช้คำว่า “already” (แล้ว) เพื่อเน้นว่าสิ่งที่กล่าวถึงเกิดขึ้นก่อน อย่างเช่น “I have already eaten” (ฉันได้กินแล้ว) หรือ “They have already arrived” (พวกเขาได้มาถึงแล้ว).
มี 45 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การใช้ perfect tense.
ลิงค์บทความ: การใช้ perfect tense.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ การใช้ perfect tense.
- Present Perfect Tense | EF | ประเทศไทย
- สรุปวิธีการใช้ Present Perfect ฉบับรวบรัด – Globish
- Present perfect tense คืออะไร สรุปวิธีการใช้และโครงสร้างประโยค
- Present Perfect Tense คืออะไร ดูโครงสร้างประโยค และ วิธีการสร้าง …
- Present Perfect Tense คืออะไร โครงสร้างประโยค วิธีการใช้
- Present perfect tense คืออะไร มีหลักการใช้อย่างไร – Meowdemy
- หลักการใช้ Present perfect tense ฉบับเข้าใจง่าย – GrammarLearn
- สรุป Tense ทั้ง 12 ใช้ยังไง โครงสร้างประโยคของแต่ละ … – Sanook
- หลักการใช้ Present Perfect Tense ใช้ใน 2 เหตุการณ์จงจำให้แม่น
ดูเพิ่มเติม: lasbeautyvn.com/category/digital-studios