การใช้ Past Perfect: ทำความเข้าใจและการใช้งาน

การใช้ Past Perfect ในภาษาไทยเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนและลึกซึ้ง ซึ่งในบทความนี้เราจะศึกษาและเข้าใจถึงวิธีการใช้ Past Perfect ในบทสนทนาด้วยกัน

รายละเอียดเกี่ยวกับ Past Perfect ในกระบวนการสื่อสาร
Past Perfect เป็น Tense ในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่งบอกถึงเหตุการณ์หรือกระบวนการที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์หนึ่ง หรือก่อนเวลาที่กำหนดในอดีต โดยมักใช้ในการรายงานเหตุการณ์เชิงเสียงหรือแสดงลำดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

การใช้ Past Perfect เพื่อแสดงลำดับของเหตุการณ์ในอดีต
เราสามารถใช้ Past Perfect เพื่อแสดงลำดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตในบทสนทนาได้ ยกตัวอย่างเช่น

นักเรียน: I had finished my homework before I went to bed. (ฉันได้ทำการบ้านเสร็จก่อนที่ฉันจะไปนอนค่ะ)

ในประโยคข้างต้น การทำการบ้านเสร็จเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์การไปนอน ซึ่ง Past Perfect ถูกใช้เพื่อแสดงลำดับการเกิดเหตุการณ์

การใช้ Past Perfect เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่น
เราสามารถใช้ Past Perfect เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในบทสนทนาได้ ยกตัวอย่างเช่น

แม่: He had already left when I arrived at the party. (เขาได้ออกไปแล้วเมื่อฉันมาถึงงานเลี้ยง)

การใช้ Past Perfect เพื่อเล่าเรื่องราวหรือเสนอข้อมูลที่กระจ่างแจ้ง
Past Perfect นั้นเป็น Tense ที่ใช้ในการเล่าเรื่องราวหรือเสนอข้อมูลที่ต้องการให้กระจ่างแจ้งถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ยกตัวอย่างเช่น

คุณ A: I couldn’t find my keys this morning.
คุณ B: Did you look in your bag? You had put them there last night. (คุณเช็คในกระเป๋ายังไม่ได้รึป่าวคะ? คุณวางกุญแจไว้ในกระเป๋าเมื่อคืน)

ในการสนทนาข้างต้น คำว่า “had put” ถูกใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์การวางกุญแจลงในกระเป๋าก่อนหน้านั้น

การใช้ Past Perfect เพื่อแสดงเงื่อนไขที่ไม่เป็นความจริงในอดีต
Past Perfect ยังสามารถใช้เพื่อแสดงเงื่อนไขที่ไม่เป็นความจริงในอดีตได้ ว่ากันว่าเป็นการเสริมความของเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้หรือไม่เป็นความจริง ยกตัวอย่างเช่น

เพื่อน: If I had studied harder, I would have passed the exam. (ถ้าฉันเรียนหนักกว่านี้ ฉันก็จะสอบผ่าน)

ในประโยคข้างต้น การใช้ Past Perfect อยู่ในเงื่อนไขแสดงถึงการเรียนไม่หนักพอฉบับในอดีต

การใช้ Past Perfect ในคำถามและคำตอบ
เราสามารถใช้ Past Perfect ในการตั้งคำถามและให้คำตอบในบทสนทนาได้ ยกตัวอย่างเช่น

A: Had she already left when you called her?
B: No, she had not left yet. (เธอได้ออกไปแล้วหรือเปล่าเมื่อคุณโทรหาเธอคะ? ยังไม่ได้ออกไปนะคะ)

ในที่นี้ Past Perfect ใช้ในการตั้งคำถามเพื่อสอบถามเหตุการณ์การออกไปของเธอ และในคำตอบ Past Perfect ถูกใช้ในรูปของปฏิเสธ “had not left” เพื่อแสดงว่าเธอยังไม่ได้ออกไปในเวลานั้น

ตัวอย่างประโยคที่ใช้ Past Perfect

1. I had already eaten dinner when he arrived.
(ฉันได้ทานอาหารเย็นไปแล้วเมื่อเขามาถึง)

2. They had lived in that house for ten years before they moved.
(พวกเขาได้อาศัยอยู่ในบ้านนั้นมาเป็นเวลาสิบปีก่อนที่พวกเขาจะย้ายออกไป)

3. By the time she arrived, I had already left the party.
(ในเวลาที่เธอมาถึงฉันได้ออกจากงานเลี้ยงไปแล้ว)

4. The movie had already started when we got to the cinema.
(ภาพยนตร์ถูกเริ่มฉายไปแล้วเมื่อเราไปถึงโรงหนัง)

Past Perfect Continuous Tense ตัวอย่างประโยค

1. She had been waiting for two hours when the car finally arrived.
(เธอได้รอมาสองชั่วโมงแล้วเมื่อรถมาถึงสุดท้าย)

2. They had been studying English all day before they took the test.
(พวกเขาได้เรียนภาษาอังกฤษตลอดทั้งวันก่อนที่พวกเขาจะสอบ)

Past Perfect Tense โครงสร้างการใช้ Past Perfect

โครงสร้างการใช้ Past Perfect นั้นประกอบด้วย “had” เป็นกริยาช่วยซึ่งใช้เพื่อกำหนดเวลาในอดีต + รูปของกริยาช่วยปรากฏในรูปของกริยาช่วย “had” และรูปฐานของกริยาที่แสดงเหตุการณ์หรือกระบวนการที่เกิดขึ้นในอดีต

ตัวอย่างประโยคที่ใช้ Past Perfect Tense

1. I had never seen a giraffe before I went to the zoo.
(ฉันไม่เคยเห็นยีราฟก่อนที่ฉันจะไปที่สวนสัตว์)

2. They had already finished the project when the boss inspected it.
(พวกเขาได้ทำโครงการเสร็จแล้วเมื่อเจ้านายตรวจสอบ)

3. He had lost his passport, so he couldn’t travel.
(เขาสูญหายหนังสือเดินทางของเขาอยู่ระหว่างนั้นเขาจึงไม่สามารถเดินทางได้)

Past Perfect Simple ตัวอย่าง past perfect tense พร้อมเฉลย

1. She had already visited Paris three times before she got married.
(เธอเคยไปที่ปารีสสามครั้งก่อนที่เธอจะแต่งงาน)

2. I had never eaten sushi before I went to Japan.
(ฉันไม่เคยทานซูชิก่อนที่ฉันจะไปประเทศญี่ปุ่น)

Past Perfect Simple More Examples

1. We had already started eating when the power went out.
(เราได้เริ่มทานอาหารไปก่อนที่ไฟจะดับ)

2. They had seen the movie before, so they didn’t want to watch it again.
(พวกเขาเคยดูภาพยนตร์นี้ไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้อีก)

In conclusion, the Past Perfect tense in Thai can be a complex and challenging aspect of language learning. However, by understanding and practicing its various uses, learners can effectively communicate past events and sequences in conversations. Whether it is used to indicate the order of events, describe events that occurred before others, present clear narratives or information, express unreal conditions in the past, or question and answer situations, the Past Perfect tense plays an important role in Thai language communication. It is important for learners to study and practice the various forms and structures of the Past Perfect tense, including the Past Perfect continuous, to enhance their language proficiency and fluency.

ความกำลังใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้นทุกวัน และการที่คุณกำลังเริ่มต้นสำรวจหยิบยกเรื่อง Past Perfect Tense จะช่วยให้คุณเข้าใจและใช้งาน Tense นี้ได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การศึกษา Tense ต่างๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่งานนี้จะช่วยเพิ่มเติมความรู้พื้นฐานให้กับคุณสำหรับการใช้งาน Past Perfect Tense ให้มากขึ้น

Past Perfect Tense เป็นประโยคที่ถูกสร้างขึ้นจากการใช้คำกริยา “had” ตามด้วยคำกริยาช่อง 3 (V3) ซึ่งใช้สำหรับอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและเสร็จสิ้นไปแล้วก่อนเหตุการณ์ในอดีตอีกด้วย

ตัวอย่างประโยคที่ใช้ Past Perfect Tense:

1. She had already eaten dinner when I arrived. (เธอรับประทานอาหารก่อนที่ฉันจะมาถึง)
2. They had finished their homework before their parents had returned. (พวกเขาตกลงในการบ้านก่อนที่พ่อแม่ของพวกเขาจะกลับมา)
3. By the time he came, we had already left. (เมื่อเขามาถึงเราได้ลาออกไปแล้ว)
4. The play had already started when we entered the theater. (ละครเรื่องนั้นเริ่มแล้วเมื่อเราเข้าโรงละคร)
5. She had never seen such a beautiful sunset before. (เธอไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามแบบนี้มาก่อน)

Past Perfect Tense สร้างประโยคที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงลำดับเหตุการณ์ให้เป็นไปตามลำดับเวลาที่ถูกต้อง หากใช้งาน Tense นี้อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มความชัดเจนในการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต และเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้นในการเรียนรู้ Tense ที่ยากขึ้น เช่น Past Perfect Continuous Tense

FAQs เกี่ยวกับ Past Perfect Tense:

1. ข้อไหนคือความแตกต่างระหว่าง Past Perfect Tense กับ Past Simple Tense?

Past Perfect Tense ใช้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ในอดีต แต่ Past Simple Tense ใช้ในกรณีที่เรื่องราวเกิดขึ้นและเสร็จสิ้นในอดีตอย่างเดียว

2. สาระสำคัญที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ Past Perfect Tense?

สาระสำคัญที่จะต้องรู้คือเมื่อใช้ Past Perfect Tense ควรต้องมีการอ้างถึงอีเวนต์ที่เกิดในอดีตที่สมบูรณ์และเสร็จสิ้นแล้ว และเหตุการณ์ที่เกิดต่อจากนั้นในอดีตที่แตกต่างกัน

3. ข้อควรระวังในการใช้งาน Past Perfect Tense?

ต้องระวังปกติว่าการใช้วันที่หรือเวลาที่เป็นเฉพาะ ต้องระวังอย่างเดียวในกรณีเครื่องหมายคำถาม เพราะเมื่อใช้ Past Perfect Tense ในคำถาม เราต้องใช้กริยาช่อง 2 และไม่ใช้กริยาช่อง 3

4. มีกระบวนการการฆ่าชีวิตหลังการเกิดขึ้นหรือไม่?

Past Perfect Tense ไม่มีกระบวนการการฆ่าชีวิตหลังการเกิดขึ้น ว่าแต่การกำหนดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นคือสิ่งที่จำเป็นในการใช้นี้

Past Perfect Continuous Tense (ตัวอย่างประโยคการใช้ Past Perfect Continuous Tense)

Past Perfect Continuous Tense ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เริ่มขึ้นในอดีตและยังคงเกิดอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงจุดใดจุดหนึ่งในอดีต ซึ่งช่วงเวลาและเหตุการณ์นั้นจะถูกเน้นและจะมีช่วงของเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ค้นหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างสองจุดในอดีตเมื่อคุณต้องการพูดถึงเหตุการณ์หรือข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ต้องการเน้นเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น คุณสามารถใช้ Past Perfect Continuous Tense ได้

กริยาหลักจะมีรูปแบบดังนี้: had + been + V-ing

ตัวอย่างประโยค:

1. I had been waiting for her for two hours before she finally arrived.
(ฉันรอเธอมาเป็นเวลาสองชั่วโมงก่อนที่เธอจะมาถึง)

2. They had been working on the project for several months when it was suddenly canceled.
(พวกเขาได้ทำงานในโครงการนี้มาเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่โครงการจะถูกยกเลิกอย่างไม่คาดฝัน)

3. He had been studying Thai for three years before he moved to Thailand.
(เขาเคยศึกษาภาษาไทยมาเป็นเวลาสามปีก่อนที่เขาจะย้ายมาที่ประเทศไทย)

4. We had been traveling around Europe for two months before we decided to settle down in Italy.
(เราได้ท่องเที่ยวทั่วยุโรปมาเป็นเวลาสองเดือนก่อนที่จะตัดสินใจเข้าพักในประเทศอิตาลี)

5. The children had been playing in the park all afternoon before it started raining.
(เด็กๆได้เล่นในสวนนี้ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงที่ผ่านมาก่อนที่จะเริ่มฝนตก)

นอกจากนั้น Past Perfect Continuous Tense ยังมีการบอกเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังนั้นความหมายของประโยคมักจะออกทางแสดงความเสียใจ หรือผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้น

ตัวอย่างประโยค:

1. She was so tired because she had been gardening all morning.
(เธอรู้สึกเหนื่อยเพราะเธอได้ทำสวนตั้งแต่เช้า)

2. He couldn’t walk properly because he had been running for hours.
(เขาไม่สามารถเดินเป็นปกติได้เพราะเขาทำการวิ่งมาหลายชั่วโมง)

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. ทำไมต้องใช้ Past Perfect Continuous Tense แทนที่จะใช้ Past Perfect Tense?
Past Perfect Continuous Tense ใช้เน้นช่วงเวลาที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในอดีต และยังเน้นการต่อเนื่องของเหตุการณ์ดังกล่าว ในขณะที่ Past Perfect Tense ใช้เพื่อเน้นข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดในอดีต

2. เราจีบคนที่เรียนภาษาไทยมา 4 ปี ตั้งแต่ฉันติดตามเธอไปถึงวันนี้ เราจะใช้ประโยค Past Perfect Continuous Tense ได้ไหม?
ใช่ โดยปกติแล้ว เราใช้ Past Perfect Continuous Tense เมื่อมีเหตุการณ์หรือข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในอดีต ซึ่งในกรณีนี้คุณช่วงเวลาที่ใช้ในการเรียนภาษาไทยถือว่าเป็นเรื่องราวหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้ เพราะฉะนั้นคุณสามารถใช้ Past Perfect Continuous Tense ได้

3. อยากทานอาหารญี่ปุ่นมาต่างหากตั้งแต่วันก่อนเมื่อวาน ต้องใช้ประโยคอย่างไร?
เราสามารถใช้ Past Perfect Continuous Tense ในประโยคดังนี้ได้: “I had been craving for Japanese food since yesterday.”

4. ฉันไปเที่ยวปารีสมาเกือบสิบปี ก่อนที่ฉันจะกลับมาประเทศไทย ใช้ Past Perfect Continuous Tense อย่างไร?
เราสามารถใช้ Past Perfect Continuous Tense ในประโยคดังนี้ได้: “I had been exploring Paris for nearly ten years before I returned to Thailand.”

ในสรุป Past Perfect Continuous Tense เป็นกริยาช่วยที่ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงเกิดอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงจุดใดจุดหนึ่งในอดีต โดยมีรูปแบบ had + been + V-ing และมักใช้ในกรณีที่ต้องการเน้นเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนหน้าตลอดจนเหตุการณ์ผลลัพธ์ของเหตุการณ์นั้น

มี 33 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การใช้ past perfect.