หลักการใช้ Present Simple Tense
Present Simple Tense เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษ หรือในกรณีที่เราต้องการเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยสามารถเกิดซ้ำ ๆ ไปได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ในภาษาไทยน้อยคนรู้ว่าในภาษาอังกฤษนี้มีหลักการใช้ Present Simple Tense อย่างไรบ้าง ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการใช้ Present Simple Tense ในภาษาอังกฤษด้วยภาษาไทย
1. รูปแบบของ Present Simple Tense
ใน Present Simple Tense กริยาหลักจะมีรูปแบบดังนี้
– กริยาช่องที่ 1 (Verb Base Form): เช่น play, work, eat
– กริยาช่องที่ 3 (Verb S + es/ies): เช่น plays, works, eats
– กริยาช่องที่ 3 (Verb S + es): เช่น watches, teaches, washes
รูปแบบของ Present Simple Tense นี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามบุคคลหรือเวลา นักเรียนสามารถใช้ได้ทั้งบุคคลเอกซ์บุคคลแปรปรวนและบุคคลชุด ดังนั้นไม่ว่าคนใด หรือกลุ่มใด สามารถใช้ Present Simple Tense ได้เช่นกัน
2. การใช้ Present Simple Tense ในประโยคบอกเหตุการณ์ทั่วไป (General Truth)
การใช้ Present Simple Tense ในประโยคบอกเหตุการณ์ทั่วไปหมายความว่าสิ่งที่เรากล่าวถึงเป็นความจริงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น “The sun rises in the east” (ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก) หรือ “Water boils at 100 degrees Celsius” (น้ำเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส) เป็นต้น
3. การใช้ Present Simple Tense ในประโยคระยะเวลาที่กำหนด (Scheduled Events)
ในกรณีที่ต้องการสื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดตารางเวลา หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตที่มีการกำหนดเอาไว้ล่วงหน้า ก็สามารถใช้ Present Simple Tense ได้ เช่น “The train arrives at 9 o’clock every morning” (รถไฟมาถึงเวลา 9 โมงทุกเช้า) หรือ “The concert starts at 7 PM tomorrow” (คอนเสิร์ตเริ่มเวลา 7 โมงเย็นพรุ่งนี้) เป็นต้น
4. การใช้ Present Simple Tense ในประโยคแสดงความรู้สึกหรือเทียบเคียง (Opinions and Comparisons)
ในบางครั้ง Present Simple Tense ยังสามารถใช้ในการแสดงความรู้สึกหรือการเทียบเคียงได้ โดยใช้คำวิเศษณ์ เช่น “I love chocolate” (ฉันรักช็อกโกแลต) หรือ “She is more beautiful than her sister” (เธอสวยกว่าน้องสาวของเธอ) เป็นต้น
5. การใช้ Present Simple Tense ในประโยคพฤติกรรมหรือนิสัยที่เป็นประจำ (Habits and Routines)
Present Simple Tense ยังสามารถใช้ในการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือนิสัยที่เป็นประจำได้ เช่น “He always goes to the gym in the morning” (เขาเดินทางไปยังห้องยิมเสมอในตอนเช้า) หรือ “She drinks a cup of coffee every afternoon” (เธอดื่มกาแฟแก้วเล็ก ๆ ทุกวันเย็น) เป็นต้น
6. การใช้ Present Simple Tense ในประโยคแสดงกระแสหรือสภาวะที่ไม่เปลี่ยนแปลง (Permanent Situations)
เมื่อต้องการกล่าวถึงสภาวะหรือกระแสที่เกิดขึ้นแบบไม่เปลี่ยนแปลง เราสามารถใช้ Present Simple Tense ได้ เช่น “Yoga is good for your health” (โยคะดีต่อสุขภาพของคุณ) หรือ “The Earth revolves around the sun” (โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์) เป็นต้น
7. การใช้ Present Simple Tense ในประโยคเงื่อนไข (Conditionals)
Present Simple Tense ยังสามารถใช้ในประโยคเงื่อนไขได้ ซึ่งเป็นการกล่าวถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ไป โดยมักจะมาพร้อมกับคำเชื่อมโยงเงื่อนไข เช่น “If it rains, I stay at home” (ถ้าฝนตกฉันจะอยู่บ้าน) หรือ “She always helps me when I need it” (เธอช่วยฉันเสมอเวลาที่ฉันต้องการ) เป็นต้น
FAQs
1. สามารถใช้กริยาช่องที่ 1 หรือ กริยาช่องที่ 3 ได้หรือไม่?
ใช่ได้ค่ะ ในภาษาอังกฤษมีบางกริยาที่มีกฎการเปลี่ยนรูป เช่น do, have, go เป็นต้น จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎการเปลี่ยนรูปของกริยานั้น โดยเปลี่ยนเฉพาะคำกริยาเท่านั้น ส่วนคำกริยาอื่น ๆ จะใช้รูปแบบของกริยาช่องที่ 1 หรือกริยาช่องที่ 3 ตามปกติ
2. ธรรมชาติในการใช้ Present Simple Tense เป็นอย่างไร?
การใช้ Present Simple Tense มีลักษณะเป็นที่สุดเมื่อเทียบกับอื่น ๆ ในภาษาอังกฤษ เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเวลาแต่เพียงเพื่อหมายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหรือสถานการณ์ที่เกิดซ้ำและไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้ Present Simple Tense เป็นเวลาในการสื่อสารที่สอดคล้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
3. ว่าด้วยหลักของ Present Simple Tense อย่างไร?
หลักการใช้ Present Simple Tense ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบต่าง ๆ ของประโยค เช่น กริยาหลัก, ตัวช่วย, เทมเพิล ฯลฯ เพื่อให้แสดงความหมายให้ชัดเจน การตรวจสอบตำแหน่งที่แน่นอนในประโยคและวัฒนธรรมการใช้ภาษาของคนที่พูดหรือเข้าใจภาษาเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ Present Simple Tense ให้ถูกต้อง
4. มีกริยาใดบ้างที่ไม่ตรงกับหลัก Present Simple Tense?
มีบางกริยาที่เป็นกริยาผันผ่านมาหลายครั้ง เช่น be (is, am, are), have (has, have), go (goes) ซึ่งจำเป็นต้องใช้รูปแบบที่ถูกต้องของกริยานั้น ๆ ตามลักษณะของประโยค
5. การใช้ Present Simple Tense ในประโยคโซเชียลมีเดียมีความสำคัญอย่างไร?
ในปัจจุบัน การเล่าเรื่องราวหรือสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่แพร่หลาย การใช้ Present Simple Tense ในการเล่าเรื่องราวเกิดขึ้นแบบซ้ำ ๆ กัน เช่น การอัปเดตสถานะของคน ๆ หนึ่งในระบบโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจกิจกรรมหรือการเคลื่อนไหวได้ในช่วงเวลาปัจจุบัน
หลักการใช้ Present Simple Tense ฉบับเข้าใจง่ายสุดๆ
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: หลักการใช้ present simple tense
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หลักการใช้ present simple tense
หมวดหมู่: Top 66 หลักการใช้ Present Simple Tense
Present Tense ทั้ง 4 มีอะไรบ้าง
1. Simple Present Tense (Present Simple)
Present Simple เป็น present tense ที่ใช้สำหรับแสดงเหตุการณ์ที่เป็นความจริงหรือเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ หรือผิดความจริงทั่วไป และใช้กับอนุสาวรีย์ที่เป็นหลัก รูปแบบของ Simple Present Tense คือ verb ธรรมดาๆ หรือ กริยาช่องที่ 3 ในรูปของประธานผู้กระทำ + verb ในรูปของประธาน + ‘s’, ‘es’, หรือ ‘ies’ (เช่น He works, She catches)
กฎการใช้ Present Simple Tense
– ใช้ verb ในรูปของประธานในทางเดียวกันทุกเพศและบุคคล
– เพิ่ม ‘s’, ‘es’, หรือ ‘ies’ ในกริยาเมื่อประธานเป็น he, she, it หรือ nonspecific noun (กรณี noun ที่ไม่ระบุเพศ)
– ใช้ do เป็นกริยาช่วยในรูปประธานบุรุษหนึ่งหรือกริยาช่องที่สามเป็นประธานที่ระบุเพศหรือหลายบุคคล เพื่อ Negation (ปฏิเสธ) และจะไม่เพิ่ม ‘s’, ‘es’ หรือ ‘ies’
Examples:
– I eat lunch at 12 o’clock. (ฉันกินข้าวเที่ยง 12 โมง)
– She often goes shopping on the weekends. (เธอชอปปิ้งบ่อยในวันเสาร์และวันอาทิตย์)
– They do not speak English fluently. (พวกเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เป็น ๆ)
2. Present Continuous Tense (Present Progressive)
Present Continuous เป็น present tense ที่ใช้สำหรับแสดงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอยู่ หรือเวลาใกล้ชิด รูปแบบที่ใช้ของ Present Continuous Tense คือ am/is/are + verb + ing (เช่น I am eating, They are playing)
กฎการใช้ Present Continuous Tense
– เพิ่ม am/is/are นำหน้า verb ในรูปของประธาน
– เพิ่ม ing ไปด้านหลัง verb ในกรณีที่ verb ไม่ลงเสียง ‘e’ หรือ กรณี verb ที่ลงเสียง ‘ie’ จะเปลี่ยนเป็น ‘y’ เป็น ‘ie’
– เพื่อเรียกประธานอย่างอัตโนมัติ ใช้กริยาช่องที่หนึ่งเป็นประธาน
Examples:
– She is studying for her test. (เธอกำลังเรียนสำหรับการสอบของเธอ)
– They are not working today. (พวกเขาไม่ได้ทำงานวันนี้)
– Are you watching TV right now? (คุณกำลังดูทีวีอยู่ใช่ไหม)
3. Present Perfect Tense
Present Perfect เป็น present tense ที่ใช้เน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังสัมพันธ์ไปถึงปัจจุบัน รูปแบบที่ใช้ของ Present Perfect Tense คือ have/has + verb ช่องที่ 3 (เช่น They have eaten, She has finished)
กฎการใช้ Present Perfect Tense
– เพิ่ม have/has นำหน้า verb ในรูปของประธาน
– เพิ่ม ‘ed’ หรือ ‘d’ ในกริยาเมื่อประธานเป็นบุคคลธรรมดา
– เพิ่ม ‘en’, ‘n’, ‘ne’ หรือ ‘t’ ในกระทำของกริยาตามรูปฐานที่แตกต่างกัน
– ใช้ jamais (ไม่เคย), déjà (เคยแล้ว), และร่วมกับคำที่เกี่ยวข้องเพื่อเน้นการเกิดขึ้นแล้ว
– ใช้หลังที่กริยาช่องที่ 3 นำหน้า phrasal verb
Examples:
– He has lived in this city for five years. (เขาอาศัยอยู่ในเมืองนี้มาห้าปีแล้ว)
– I have never been to Japan. (ฉันไม่เคยไปประเทศญี่ปุ่น)
– Have you ever tried sushi? (คุณเคยลองสุชิหรือยัง)
4. Present Perfect Continuous Tense (Present Perfect Progressive)
Present Perfect Continuous เป็น present tense ที่ใช้เน้นอดีตและปัจจุบันของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลายาวนาน ส่วนใหญ่ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาหรือไปแล้วกี่ครั้ง (เช่น We have been waiting for hours, He has been working since morning)
กฎการใช้ Present Perfect Continuous Tense
– เพิ่ม have/has been นำหน้า verb ในรูปของประธาน
– เพิ่ม ing ไปด้านหลัง verb ในกรณีที่ verb ไม่ลงเสียง ‘e’ หรือ กรณี verb ที่ลงเสียง ‘ie’ จะเปลี่ยนเป็น ‘y’ เป็น ‘ie’
– เพื่อเน้นเวลาหรือกระทำนานเป็นเวลานาน สามารถใช้วรรณยุกต์เมื่อแสดงเป็นช่วงเวลาในอดีต
Examples:
– We have been studying all night. (พวกเราได้เรียนเป็นเวลาทั้งคืน)
– She has been living abroad for two years. (เธอได้อาศัยอยู่ต่างประเทศมาสองปีแล้ว)
– How long have you been working here? (คุณทำงานที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว)
สรุปแล้ว Present Tense ทั้ง 4 ประเภทนั้นสามารถใช้ในบริบทและประโยคที่แตกต่างกันได้ โดยใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือประโยคที่มีอดีตหรือปัจจุบันที่ยึดมั่นอยู่ คุณสามารถฝึกพูดและเขียนใช้ present tense ในชีวิตประจำวันได้ และทำให้คุณเก่งกว่าในการสื่อสารในภาษาอังกฤษ
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
1. มีความแตกต่างระหว่าง Present Simple กับ Present Continuous อย่างไร?
– Present Simple ใช้เน้นเหตุการณ์ที่เป็นความจริงหรือเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในขณะที่ Present Continuous ใช้เน้นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน
2. ในกรณีที่ต้องการอธิบายคำจำกัดความในאשרสอบถามในภาษาอังกฤษ ควรใช้ Present Simple หรือ Present Perfect Tense?
– ในการอธิบายคำจำกัดความในภาษาอังกฤษ เราควรใช้ Present Simple เพื่อแสดงความหมายที่เป็นจริงตลอดเวลา
3. Present Perfect และ Past Simple ใช้อย่างไรในการแสดงเหตุการณ์ในอดีต?
– Present Perfect ใช้ในกรณีที่เหตุการณ์ในอดีตมีผลกระทบหรือต่อเนื่องมาสู่ปัจจุบัน และผู้พูดยังสนใจเรื่องนั้นในปัจจุบัน ในขณะที่ Past Simple ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์ในอดีตที่สิ้นสุดลงแล้ว หรือไม่มีผลกระทบในปัจจุบัน
4. การใช้ Present Perfect เมื่อเทียบกับ Present Perfect Continuous ผ่านไปไม่นาน และทั้งสองกลุ่มเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างไร?
– Present Perfect ใช้เมื่อเราต้องการให้ความสนใจกับผลลัพธ์เป็นหลัก ในขณะที่ Present Perfect Continuous เน้นความต่อเนื่องและกระทบที่เล็กน้อยกว่า
5. ในการใช้ในอนาคต Present Continuous อย่างไร?
– ในกรณีที่ต้องการอธิบายการวางแผนในอนาคตที่มั่นใจ Present Continuous สามารถใช้เน้นการเตรียมเช่น I am seeing my friends tomorrow (ฉันกำลังไปพบเพื่อนของฉันพรุ่งนี้)
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
มี 29 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หลักการใช้ present simple tense.
ลิงค์บทความ: หลักการใช้ present simple tense.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ หลักการใช้ present simple tense.
- หลักการใช้ Present Simple Tense [ 2 ข้อ จำให้แม่น] ปัจจุบันธรรมดา …
- Grammar: หลักการใช้ Present Simple Tense : เรื่องจริงในชีวิต …
- Present Simple Tense คืออะไร? ดูวิธีการจำง่าย ๆ สไตล์ครูดิว!
- Present Simple Tense คืออะไร มีหลักการใช้งาน และวิธีการสร้าง …
- Present Simple Tense คืออะไร โครงสร้างประโยค วิธีใช้
- Present tense คืออะไร และมีหลักการใช้อย่างไร สรุปมาให้อย่าง …
- Present simple tense คืออะไร มีการใช้อย่างไร
- หลักการใช้ Present simple tense ฉบับเข้าใจง่าย
- Present Simple Tense คืออะไร? ดูวิธีการจำง่าย ๆ สไตล์ครูดิว!
ดูเพิ่มเติม: https://lasbeautyvn.com/category/digital-studios