หลักการใช้ Past Perfect Tense
Past perfect tense เป็น tense ในภาษาไทยที่ใช้ในการบ่งบอกเหตุการณ์หรือกริยาที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีต ซึ่งถือว่าเป็นหลักการที่แตกต่างจากอื่นๆ ในภาษาไทย เนื่องจากต้องใช้รูปปัจจุบันของกริยาเสมอและคำวิเศษณ์ “เคย” มาเป็นกรรมพิเศษ
Past perfect tense ถูกสร้างขึ้นโดยการใช้ “เคย” และกลุ่มของกริยาที่อยู่ในรูปปัจจุบัน ซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนรูปของคำวิเศษณ์ “เคย” โดยการเพิ่ม “เคย” หรือ “เคยแล้ว” ไปด้านหน้าของกริยา
ตัวอย่างประโยค:
– เขาเคยไปเที่ยวที่บางกอกก่อนที่จะอพยพไปอยู่ต่างประเทศ (He had gone to Bangkok before he moved abroad)
– เมื่อฉันจองโต๊ะผ่านโทรศัพท์ ร้านอาหารนั้นยังไม่เคยเห็นฉันมาก่อน (When I made the reservation over the phone, the restaurant had never seen me before)
การใช้ past perfect tense เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
Past perfect tense ใช้เพื่อแสดงเหตุการณ์หรือกริยาที่เกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต เช่น เมื่อเราต้องการกล่าวถึงว่าเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต ดังนั้นเราต้องใช้ past perfect tense เข้ามาช่วยในประโยค
ตัวอย่างประโยค:
– เมื่อเขามาถึงบ้าน ฉันเคยไปให้เชียวมือเขาแล้ว (When he arrived home, I had already given him my hand)
– เมื่อเราเข้าสู่ห้อง เครื่องทีวีมีอยู่แล้ว (When we entered the room, the TV had already been there)
การเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีตด้วย past perfect tense
Past perfect tense สามารถใช้เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีตเข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันหรืออดีต ซึ่งนำเสนอเหตุการณ์ในอดีตก่อนหน้าอดีตที่เกิดขึ้น
ตัวอย่างประโยค:
– เมื่อฉันได้ยินเสียงครูดนตรีเพราะฉนั้น ฉันจากไปตามเสียง (When I had heard the sound of music, I followed it)
– เมื่อสถานีรถไฟถึงเจ้าหน้าที่พวกนั้นก็ทำได้รวดเร็ว ทำให้ฉันเคยหายใจเบาลง (When the train station reached the staff, they acted quickly, so I had breathed softly)
– เมื่ออาหารถึงบนโต็ะ แน่นอนว่าคนบริเวณที่นั่งก็เคยนับหน้าพระจันทร์ (When the food reached the table, it’s certain that the people around had counted the moon’s face)
การใช้ past perfect tense เพื่อเปรียบเทียบเหตุการณ์สองเหตุการณ์ในอดีต
Past perfect tense พบการใช้เพื่อเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตสองเหตุการณ์ประเภทต่างๆ ซึ่งอาจมีการใช้คำวิเศษณ์เพื่อเสริมความเป็นจริงในประโยคด้วย
ตัวอย่างประโยค:
– สามีของฉันเคยจูบฉันแล้วสตรีหนึ่งออกมาบรรยายเล่าว่า ฮาฮา ก่อนหน้านั้นที่ฉันอยู่ติดใจเขา (My husband had kissed me and then a woman came out and said, “Haha, before that, I was infatuated with him”)
– เมื่อน้องทีถึงบ้านเขาเคยอ่านหนังสือที่ฉันเคยอ่านเสียงเขาออกมาออกเสียงทุกอย่างอออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ (When my sister arrived home, she read the book that I had read. Her voice came out very loud)
– ก่อนที่พ่อจะตาย เขาได้ทำให้สามีของเขาเคยร้องเพลงเพื่อพ่อของเขาแล้วร้องและเล่าเรื่องราวอย่างละเอียด (Before her father died, he made her husband sing a song for her father and then sing and tell stories in great detail)
การใช้ past perfect tense เพื่อแสดงสาเหตุและผลของเหตุการณ์ในอดีต
Past perfect tense สามารถใช้เพื่อแสดงว่าเหตุการณ์ในอดีตเป็นสาเหตุที่ส่งผลให้เหตุการณ์อื่นเกิดขึ้นในอดีตหรือปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างภาคของประโยคนี้เป็นรูปแบบแบบวงกลม
ตัวอย่างประโยค:
– เพราะเธอได้ถูกกลิ่นเหม็นเไม้เก่าอีกทีฉันเคยจัดการเอาราศีเสื้อออกไปเผาทำให้บรรยากาศภายในบ้านดีขึ้น (Because she had smelled the scent of old wood again, I had managed to put the moth-eaten shirt out to burn, making the atmosphere inside the house better)
– เมื่อเตรียมเข้ามาขอยืมหนังสือ ตารางการทำงานของฉันเคยสร้างความง่วงมั่นกับผู้คนอีกที (When she came to ask for a book, my work schedule had created confidence in people again)
– เมื่อคุณเล่าเรื่องจากอดีตครั้งที่เคยเป็นเรื่องร้อนแรง โอกาสที่ผู้คนจะเถียงศัพท์ได้ในอีกทีมีน้อยลง (When you told the story from the past that had been controversial, there was less opportunity for people to argue later)
การใช้ past perfect tense เพื่อแสดงความร้อนแรงหรือผิดหวังที่เกิดขึ้นในอดีต
Past perfect tense สามารถใช้เพื่อแสดงความร้อนแรงหรือความผิดหวังที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้อีกเช่นกัน
ตัวอย่างประโยค:
– เมื่อน้องสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่เธอเคยเพิ่งลาออก ตานเริ่มเป็นน้ำตาเหมือนความสาเหตุของเธอไม่มีทางเปลี่ยนแปลง (When my sister fought to protect what she had just quit, her eyes started to tear like the cause of her couldn’t change)
– เมื่อเขามารถหาดความสุข ตอนนั้นความเศร้าของเขาเคยยังไม่ขาด (When he came to find happiness, at that time, his sorrow hadn’t disappeared)
– สถานการณ์นี้เคยเป็นเรื่องร้อนแรงในความเป็นจริงเร็วแต่ยาว (This situation had been a hot topic in reality, soon but long)
การใช้ past perfect tense พร้อมกับคำวิเศษณ์เพื่อเสริมความสมบูรณ์ของอดีต
Past perfect tense สามารถใช้พร้อมกับคำวิเ
หลักการใช้ Past Perfect Tense ง่ายสุดๆ
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: หลักการใช้ past perfect tense Past Perfect Tense โครงสร้าง, Past Perfect Tense, past perfect continuous tense ตัวอย่างประโยค, ตัวอย่าง past perfect tense พร้อมเฉลย, Past perfect simple, Past Perfect คือ, Past Perfect Continuous, present perfect tense ตัวอย่างประโยค
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หลักการใช้ past perfect tense
หมวดหมู่: Top 73 หลักการใช้ Past Perfect Tense
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
Past Perfect Tense โครงสร้าง
Past Perfect Tense เป็น tense ในภาษาอังกฤษที่ใช้แสดงการเกิดขึ้นของเหตุการณ์หรือสถานะในอดีตก่อนหน้าเหตุการณ์หรือสถานะอื่น ๆ ในอดีต นั่นคือ ตัวอย่างเช่น “When I arrived at the party, everyone had already left” ซึ่งในประโยคนี้คำว่า “had already left” แสดงถึงการเกิดเหตุการณ์การไปออกจากปาร์ตี้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั่นเอง
โครงสร้างของ Past Perfect Tense ในภาษาอังกฤษมีการใช้กริยาช่องที่ 3 ของกริยา พร้อมกับ “had” เสมอ และต่อท้ายด้วยกริยาช่วย (auxiliary verb) ที่มีรูปแบบเดียวกับกริยาที่สร้างขึ้น และแสดงถึงขณะในอดีต เช่น
กริยาช่องที่ 3 + had + V3 (past participle)
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ Past Perfect Tense ในกรณีที่มีการใช้คำว่า “before” หรือ “after” ในประโยคอยู่ด้วย เพื่อแสดงความเป็นลำดับของเหตุการณ์การเกิดขึ้นในอดีต เช่น
I had studied English before I moved to the United States.
(She had already finished her homework before she watched TV.)
10 ข้อสังเกตเมื่อใช้ Past Perfect Tense
1. เมื่อใช้กริยาช่องที่ 3 เสมอ เช่น gone, eaten, seen
2. ใช้ “had” เสมอก่อนกริยา
3. กริยาช่วยหลัง “had” มีรูปแบบเดียวกับกริยาช่องที่ 3
4. ใช้ “already” เพื่อระบุว่าเหตุการณ์หรือสถานะนั้นเกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์ในอดีต
5. ใช้ “just” เพื่อระบุว่าเหตุการณ์หรือสถานะเกิดขึ้นในขณะเดียวกันกับเหตุการณ์หรือสถานะอื่นในอดีต
6. ใช้ “never” เพื่อแสดงถึงสถานะที่ไม่เคยเกิดขึ้น
7. ใช้ “yet” เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์หรือสถานะที่ยังไม่เกิดขึ้นในขณะหรือก่อนหน้าเหตุการณ์ในอดีต
8. ใช้ “before” เพื่อแสดงความเป็นลำดับของเหตุการณ์การเกิดขึ้นในอดีต
9. ใช้ “after” เพื่อแสดงความเป็นลำดับของเหตุการณ์การเกิดขึ้นในอดีต
10. คำในกริยาช่วยห้ามใช้กับ Past Perfect Tense ได้แก่ “will, would, may, might, shall, should, can, could, must, ought to” เป็นต้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Past Perfect Tense
1. การใช้ Past Perfect Tense กับ Simple Past Tense ต่างกันอย่างไร?
Past Perfect Tense ใช้เมื่อหากเราต้องการกล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตก่อนหน้าเหตุการณ์ในอดีต ในขณะที่ Simple Past Tense ใช้เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ในอดีตแต่ไม่ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์กับเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีต
2. ใช้ Past Perfect Tense เมื่อไหร่?
Past Perfect Tense ใช้เมื่อต้องการแสดงความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต โดยระบุว่าเหตุการณ์หรือสถานะใดเกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์ในอดีตนั้น
3. สามารถนำ Past Perfect Tense ไปใช้ในประโยคประเภทอื่น ๆ ได้หรือไม่?
ใช่ สามารถนำ Past Perfect Tense ไปใช้กับประโยคเงื่อนไข (Conditional Sentence) เพื่อแสดงความสัมพันธ์และลำดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้
4. ในกรณีที่เราใช้คำว่า “already” หรือ “yet” จะต้องใช้ Past Perfect Tense หรือไม่?
ใช่ คำว่า “already” และ “yet” เป็นคำที่ใช้ระบุเวลาในอดีต ดังนั้นจึงควรใช้ Past Perfect Tense เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์และลำดับของเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดก่อนหน้า
5. จำเป็นต้องใช้ Past Perfect Tense เมื่อใช้คำว่า “before” หรือ “after” ในประโยคหรือไม่?
ไม่จำเป็น การใช้ “before” หรือ “after” ตัวโดยอันเป็นอันใดอันหนึ่งมันเพียงแค่วิธีการบอกถึงช่วงเวลา ในกรณีที่เราต้องการระบุความสัมพันธ์และลำดับของเหตุการณ์ในอดีต ควรใช้ Past Perfect Tense เพื่อเสริมความหมายและความถูกต้องของประโยค
ในท้ายนี้ เมื่อได้รู้จักกับโครงสร้างของ Past Perfect Tense และคำถามที่พบบ่อย หวังว่าทุกคำถามหรือความสงสัยในเรื่องนี้จะได้รับคำตอบที่ชัดเจนและเข้าใจได้เหมือนกัน
Past Perfect Tense
The Thai language has a unique and complex grammatical structure, which includes various tenses to convey different aspects of the past, present, and future. One of the most essential tenses to master is the Past Perfect Tense. In this article, we will delve into the details of the Past Perfect Tense in Thai, exploring its formation, usage, and providing examples to illustrate its application. Additionally, a Frequently Asked Questions (FAQs) section will address common doubts and misconceptions related to this tense.
I. Formation of Past Perfect Tense in Thai
To form the Past Perfect Tense in Thai, the auxiliary verbs ได้ (dâi) and แล้ว (láew) are used. The verb ได้ is generally placed before the verb to indicate that an action has been completed. On the other hand, แล้ว is placed after the verb to indicate that the action has already taken place. Let’s take a look at the following examples:
1. ฉันได้ทำการบ้านแล้ว (Chan dâi tam gaan bâan láew)
I had done the homework.
2. เขาได้รับของขวัญแล้ว (Khao dâi ráp khǎwng-kwun láew)
He/She had received the gift.
In these examples, the auxiliary verbs ได้ and แล้ว are combined with the main verbs ทำ (tam) and รับ (ráp) to form the past perfect tense.
II. Usage of Past Perfect Tense in Thai
1. Expressing events that occurred before another past event:
The Past Perfect Tense is commonly used to describe an action that happened before another event in the past. It provides a chronological context for the sequence of events. Let’s see an example:
ผมเดินอยู่ที่บ้านก่อนฝนตก (Phǒm dern yùu tîi bâan gòrn fǒn dtòk)
I was walking at home before it rained.
In this sentence, the action of walking (เดิน dern) occurred before the event of raining (ฝนตก fǒn dtòk).
2. Narrating an action that was completed before a specific point in the past:
The Past Perfect Tense is also used to express an action that was already completed before a particular point in the past. Let’s consider the following example:
ฉันเคยทำงานที่นั่นได้ 2 ปีก่อนเขาเสียงาน (Chan kooeii tam-ngaan tîi nân dâi sǎwng bpii gòrn khǎo sǐi-ngaan)
I had worked there for 2 years before he lost his job.
In this sentence, the action of working (ทำงาน tam-ngaan) took place before the incident of losing the job (เสียงาน sǐi-ngaan).
III. Frequently Asked Questions (FAQs)
Q1. Can the Past Perfect Tense be used without auxiliary verbs?
A1. No, the Past Perfect Tense in Thai requires the use of auxiliary verbs ได้ (dâi) and แล้ว (láew).
Q2. Is there any difference between using ได้ (dâi) and แล้ว (láew) in the Past Perfect Tense?
A2. Yes, there is a slight difference. ได้ (dâi) indicates the completion of an action, whereas แล้ว (láew) signifies that the action has already taken place.
Q3. Can the Past Perfect Tense be used to describe future events?
A3. No, the Past Perfect Tense is strictly used for actions that have already taken place in the past.
Q4. Are there any exceptions to the formation of the Past Perfect Tense?
A4. Yes, there are some irregular verbs that have their unique forms in the Past Perfect Tense. Some examples include เป็น (bpen) which becomes เคย (kooeii) and พบ (phóp) which becomes พบแล้ว (phóp láew).
Q5. Does the Past Perfect Tense have any influence on the tense of surrounding verbs in a sentence?
A5. Yes, when the Past Perfect Tense is used, other verbs in the sentence must be adjusted accordingly to maintain consistency in tense.
In conclusion, the Past Perfect Tense in Thai plays a crucial role in conveying events that occurred in the past before another past event or a specific point in time. By utilizing the auxiliary verbs ได้ (dâi) and แล้ว (láew), Thai speakers can accurately express these nuanced temporal relationships. Although mastering the Past Perfect Tense may require practice, understanding its formation and usage is essential for effective communication in Thai.
Past Perfect Continuous Tense ตัวอย่างประโยค
Past Perfect Continuous Tense เป็นกลุ่ม Tense หนึ่งในภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่ออธิบายเหตุการณ์หรือสถานะที่เกิดขึ้นในอดีตซึ่งก่อนหน้าเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีตอีกทีหนึ่ง ความหมายของ Past Perfect Continuous Tense อยู่บนพื้นฐานของประโยคที่ใช้กับอดีตและอดีตควบคู่กับกริยาที่ไม่ระบุเวลา (time marker). ในภาษาไทย กลุ่ม Tense นี้สามารถตีความได้ว่า “เหตุการณ์ที่ได้เริ่มขึ้นในอดีตอยู่ภายใต้การกระทำหรือการเกิดขึ้นซึ่งเต็มเปี่ยมขึ้นต่อไป” ยาวเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นประโยคในอดีตควบคู่กับ Past Perfect และเป็นประโยค Continuous กลุ่มนี้ใช้สร้างประโยคที่มีความน่าเชื่อถือและปฏิบัติตามกฏภาษาอังกฤษได้อย่างเหมาะสมในทุก ๆ สถานการณ์
คุณลักษณะของ Past Perfect Continuous Tense สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้:
1. การใช้เวลา: Past Perfect Continuous Tense ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนหน้าของอดีตภายใต้ช่วงเวลาที่กว่านั้น (e.g. for two hours, since 1990, all day).
ตัวอย่างประโยค:
– She had been studying Chinese for five years before she moved to Beijing. (เธอเคยเรียนภาษาจีนมาห้าปีก่อนที่เธอจะย้ายไปปักกิ่ง)
– They had been dating for three months prior to their breakup. (พวกเขาเคยออกดื่มกันมาสามเดือนก่อนที่จะเลิกกัน)
2. กริยาช่วย: Past Perfect Continuous Tense ใช้กริยาช่วย “had” ตามหลัง Subject และก่อนกริยาหลักที่เป็น -ing form (present participle).
ตัวอย่างประโยค:
– He had been working as an engineer for three years before he decided to change careers. (เขาทำงานเป็นวิศวกรมาสามปีก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ)
3. ประโยคประกอบใน Past Perfect Continuous Tense:
ในประโยคประกอบแบบบวก (positive sentence) ใช้ผันช่วยมาเพื่อระบุตนเองหรือเพื่อระบุว่าเรื่องที่กล่าวถึงขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวถึงอีกเรื่องหนึ่งในอดีต:
– I had been reading a book when she called me. (ฉันอ่านหนังสืออยู่เมื่อเธอโทรมาหาฉัน)
ในประโยคประกอบแบบปฏิเสธ (negative sentence) ใช้ผันช่วยนายและคำกริยาเป็นรูปต่างหาก:
– They hadn’t been practicing the piano for very long before their recital. (พวกเขาก็ไม่ได้ฝึกเล่นเปียโนนานเท่าใดก่อนการแสดงผล)
– She hadn’t been running for more than ten minutes when she sprained her ankle. (เธอไม่ได้วิ่งมาเกินสิบนาทีก่อนที่เธอจะเคล็ดเข็มขัดข้อเท้า)
ในประโยคประกอบแบบคำถาม (question form) ก็ใช้ผันช่วยนายและคำกริยาเป็นรูปต่างหากโดยใส่คำถามเอกพจน์ (auxiliary verb) แต่ในกรณีแปลกประหลาดแล้วก็ใช้กริยาช่วยเป็นหลักแทนการใช้คำถามเอกพจน์:
– Had you been waiting long before the bus finally arrived? (คุณที่รอนานเรื่องรอคอยก่อนที่จะมีรถบัสมาถึง)
– Had they been living in New York for a few years before they moved to San Francisco? (พวกเขาเคยอาศัยอยู่นิวยอร์กหลายปีก่อนที่จะบ้านสากลไปซานฟรานซิสโก)
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. เราควรใช้ Past Perfect Continuous Tense ในกรณีใด?
Past Perfect Continuous Tense สามารถใช้เพื่ออธิบายระยะเวลาหรือการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความยาว เช่น เพื่อเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เคยอยู่ในอดีตหลายปีเช่น “He had been studying French for five years before he moved to Paris” (เขาเคยศึกษาภาษาฝรั่งเศสมาห้าปีก่อนที่จะย้ายไปปารีส) หรือเพื่ออธิบายอาการที่เต็มเปี่ยมขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกที เช่น “I had been feeling tired all day before I finally got a good night’s sleep” (ฉันรู้สึกเหนื่อยมาตลอดวันก่อนที่จะหลับตาอย่างหลับสบาย)
2. เราสามารถใช้ Past Perfect Continuous Tense ในประโยคประกอบที่มี Time Marker ได้หรือไม่?
ใช่ได้ แต่ในกรณีที่มี Time Marker แสดงถึงเวลาเกิดเหตุการณ์ในอดีตแล้ว ก็สามารถใช้ Past Perfect Tense หรือ Past Simple Tense เพื่อให้ประโยคมีความกระชับมากยิ่งขึ้น เช่น “They had been playing tennis since 3 p.m. Before it started raining” (พวกเขาก็เล่นเทนนิสตั้งแต่เวลา 3 โมงเมื่อก่อนฝนตก)
3. กริยาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Tense นี้มีอะไรบ้าง?
Past Perfect Continuous Tense สามารถเชื่อมกับ Tenses อื่น ๆ ได้เช่นกัน โดยรูปในแต่ละ Tenses จะเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เช่น:
– Present Perfect Continuous Tense: “He has been working on this project since last year” (เขาทำงานโครงการนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว)
– Future Perfect Continuous Tense: “By the time you arrive, I will have been waiting for an hour” (ถึงเวลาที่คุณมาถึง ฉันจะได้รอกันไปมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว)
ในสรุป, Past Perfect Continuous Tense เป็นกลุ่ม Tense ที่ใช้ในภาษาอังกฤษเพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตหรือสถานะที่ยาวนานก่อนเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีตอีกทีหนึ่ง การใช้งานในประโยคประกอบส่งผลให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเห็นภาพเหตุการณ์ที่เป็นนัยสำคัญในอดีตอย่างชัดเจน ผู้ที่เรียนรู้ Tense นี้ก็ควรใช้และปฏิบัติตามกฎภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและสื่อความหมายได้อย่างถูกต้อง
มี 5 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หลักการใช้ past perfect tense.
ลิงค์บทความ: หลักการใช้ past perfect tense.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ หลักการใช้ past perfect tense.
- การใช้ Past Perfect Tense ในภาษาอังกฤษ – Wall Street English
- สรุปวิธีใช้ Past Perfect แบบเข้าใจง่าย ใช้ไม่ยาก – Globish
- Grammar: หลักการใช้ Past Perfect Tense เรื่องหนึ่งจบอีกเรื่องหนึ่ง …
- หลักการใช้ Past perfect tense ฉบับเข้าใจง่าย – GrammarLearn
- Past perfect tense | EF | ประเทศไทย
- Past Perfect Tense: โครงสร้าง หลักการใช้ และแบบฝึกหัด
- หลักการใช้ Past Perfect Tense ใช้ยังไง พร้อมตัวอย่างประโยคที่ …
- หลักการใช้ Past Perfect Tense อีกหนึ่ง tense ที่น่าปวดหัว แต่ไม่น่า …
- Past Perfect Tense คืออะไร การใช้ หลักการ ตัวอย่างประโยค
- Past Tense เทคนิคการเล่าเรื่องในอดีต มีอะไรบ้าง ตัวอย่างประโยค
ดูเพิ่มเติม: https://lasbeautyvn.com/category/digital-studios