Skip to content
Trang chủ » เรื่อง Tense: ใบ้ความหมายและวิธีใช้แบบไม่กี่ยุค

เรื่อง Tense: ใบ้ความหมายและวิธีใช้แบบไม่กี่ยุค

12 Tenses ครบในคลิปเดียว! | เรียน Grammar ภาษาอังกฤษฟรี กับครูดิว

เรื่อง Tense

เรื่อง Tense ในภาษาไทย

แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่อง Tense:

เรื่อง Tense เป็นหัวข้อที่สำคัญในการเรียนรู้ภาษาที่ต้องยึดมั่นเพราะมันเกี่ยวข้องกับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ภาษาอังกฤษมี 12 Tenses ที่สามารถนำมาใช้ในการแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แต่ในภาษาไทย เราไม่ได้แสดง Tense โดยบอกเวลามากนัก แต่ก็ยังเท่าไหร่ที่เราสามารถแยก Tense ในประโยคได้

ประเภทของ Tense ในภาษาอังกฤษ:

1. Simple Present Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ หรือเรียกว่าข้อเท็จจริง เช่น “I go to school every day.”

2. Present Continuous Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ หรืออยู่ระหว่างที่เกิดขึ้น เช่น “She is studying for her exam.”

3. Present Perfect Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังสัมผัสผลกระทบกับปัจจุบัน หรือเท่าไหร่ที่เราไม่ระบุเวลาเป็นชัดเจน เช่น “I have visited Japan.”

4. Present Perfect Continuous Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีต และยังคงดำเนินการจนถึงปัจจุบัน หรือเท่าไหร่ที่เราต้องการเน้นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ เช่น “She has been waiting for you since morning.”

5. Simple Past Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแบบไม่มีความใกล้ชิดกับปัจจุบัน เช่น “I studied English last year.”

6. Past Continuous Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแบบยาวนานเช่น “They were playing soccer in the park when it started raining.”

7. Past Perfect Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีต เช่น “We had already eaten dinner when she arrived.”

8. Past Perfect Continuous Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีต และยังคงดำเนินการจนถึงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต หรืออยู่เป็นเวลานาน เช่น “He had been studying for the exam for hours before he was interrupted.”

9. Simple Future Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “I will go to the cinema tomorrow.”

10. Future Continuous Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่จะกำลังเกิดขึ้นในอนาคต หรือกำลังอยู่ในบางช่วงของเวลาในอนาคต เช่น “She will be cooking dinner at 7 pm tonight.”

11. Future Perfect Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่จะสิ้นสุดในอนาคต ก่อนเหตุการณ์อื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น “They will have finished the project by this time next week.”

12. Future Perfect Continuous Tense: ใช้ในการเล่าเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีต และยังคงดำเนินการจนถึงเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต หรือกำลังอยู่ในบางช่วงของเวลาในอนาคต เช่น “By the time he comes back, I will have been waiting for him for two hours.”

การใช้เต็มรูปและแบบกำหนดเวลาของ Tense:

เต็มรูปและแบบกำหนดเวลาของ Tense มีดังนี้:
1. Affirmative: เช่น “She exercises every day.”
2. Negative: เช่น “He does not like coffee.”
3. Interrogative: เช่น “Do you play the guitar?”
4. Negative interrogative: เช่น “Doesn’t she speak English?”

ผลกระทบของ Tense ต่อประโยคและความหมาย:

Tense มีผลกับการเปลี่ยนแปลงความหมายและบรรยายเหตุการณ์ในประโยค การใช้ Tense ให้ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้คำพูดหรือเขียนมีความชัดเจนและถูกต้องทางไวยากรณ์

ความแม่นยำในการใช้ Tense:

การใช้ Tense ให้แม่นยำมีความสำคัญ เพราะคำพูดหรือเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่จะสื่อถึงความหมายที่แท้จริง การใช้ Tense ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความสับสนหรือการเข้าใจผิดพลาด

หลักการใช้งาน Tense ในเนื้อหาอื่น ๆ ของงานเขียน:

ในเนื้อหาอื่น ๆ ของงานเขียน เราสามารถใช้ Tense ตามลักษณะของเหตุการณ์ ถ้าเราต้องการบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เราสามารถใช้ Past Tense ได้ เช่น “The author wrote the book.” หากเราต้องการบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราสามารถใช้ Present Tense ได้ เช่น “The sun shines brightly.” และหากเราต้องการบอกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราสามารถใช้ Future Tense ได้ เช่น “The celebration will take place tomorrow.”

การใช้ Tense ในประโยคเงื่อนไขและประโยคพูดหลักฐาน:

ในประโยคเงื่อนไข เราสามารถใช้ Tense ต่าง ๆ และวลีที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงความสมมาตรของเงื่อนไข ตัวอย่างเช่น “If it rains tomorrow, we will stay at home.” ในประโยคพูดหลักฐาน เราสามารถใช้ Tense ต่าง ๆ เพื่อประพจน์เหตุการณ์หรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับคำพูดในบทสนทนา เช่น “She said that she had already finished her assignment.”

ความแตกต่างระหว่าง Tense และ Aspect:

Tense เกี่ยวข้องกับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ในขณะที่ Aspect เกี่ยวข้องกับการกำหนดรูปแบบหรือมุมมองในการพูดถึงเหตุการณ์ กระแสเวลาหรือความยาว-สั้นของเหตุการณ์

การปรับเปลี่ยน Tense เพื่อให้อากาศประกอบประโยคเหมาะสม:

การปรับเปลี่ยน Tense เพื่อให้อากาศประกอบประโยคเหมาะสมเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่เราจะใช้ในการเล่าเรื่อง หากเราต้องการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดในอดีต เราจะใช้ Past Tense เพื่อให้บอกถึงความเชื่อถือได้ อย่างไรก็ดี เราสามารถใช้ Present Tense เพื่อให้เกิดความสมมาตรกับผู้ฟังหรือผู้อ่านและมองหาข้อมูลเพิ่มเติมในปัจจุบัน

FAQs (คำถามที่พบบ่อย):

Q1: Tense ทั้ง 12 หมายถึงอะไรและแบ่งออกเป็นประเภทใดบ้าง?
A1: Tense ทั้ง 12 หมายถึงรูปแบบของการบอกถึงเวลาในประโยคภาษาอังกฤษ ประเภทของ Tense ได้แก่ Simple Present, Present Continuous, Present Perfect, Present Perfect Continuous, Simple Past, Past Continuous, Past Perfect, Past Perfect Continuous, Simple Future, Future Continuous, Future Perfect, และ Future Perfect Continuous.

Q2: การใช้ Tense ให้เป็นประโยชน์จะมีความสำคัญอย่างไร?
A2: การใช้ Tense ให้ถูกต้องจะทำให้เกิดความชัดเจนและเข้าใจง่ายของคำพูดหรือเนื้อหา โดยที่ความหมายและบรรยายเหตุการณ์มีความถูกต้องทางไวยากรณ์

Q3: การใช้ Tense ในภาษาไทยมีความแตกต่างจากในภาษาอังกฤษอย่างไร?
A3: ในภาษาไท

12 Tenses ครบในคลิปเดียว! | เรียน Grammar ภาษาอังกฤษฟรี กับครูดิว

คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: เรื่อง tense tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด pdf, tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด, tense ทั้ง 12 พร้อมตัวอย่าง, สรุป tense เข้าใจง่าย, สรุปtense 12, โครงสร้าง Tense ทั้ง 12, tense ตัวอย่างประโยค, tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด ppt

รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เรื่อง tense

12 Tenses ครบในคลิปเดียว! | เรียน Grammar ภาษาอังกฤษฟรี กับครูดิว
12 Tenses ครบในคลิปเดียว! | เรียน Grammar ภาษาอังกฤษฟรี กับครูดิว

หมวดหมู่: Top 85 เรื่อง Tense

12 Verb Tenses มีอะไรบ้าง

12 ช่วงเวลาการกระทำของกริยาในภาษาอังกฤษ

เกริ่นนำ
ในภาษาอังกฤษ เรามักใช้กริยาในหลาย ๆ ช่วงเวลาเพื่อให้เข้ากับบริบทและเวลาที่กำลังพูดหรือเขียน ภายในภาษาอังกฤษนั้นมี 12 ช่วงเวลาของการกระทำของกริยาที่เรียกว่า Verb Tenses มีอะไรบ้าง บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ เข้าสู่โลกของ Verb Tenses และแนะนำให้สามารถใช้แต่ละช่วงเวลาได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพื่อเลือกใช้ Verb Tenses ให้ถูกต้องต่อบริบทและเวลาที่กำลังพูดหรือเขียน

1. ช่วงเวลาปัจจุบัน (Present Simple)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำเกิดขึ้นในปัจจุบัน และถือเป็นข้อกำหนดหรือกระทำเป็นประจำ เช่น “I eat breakfast every morning” (ฉันกินอาหารเช้าทุกวันเช้า)

2. ช่วงเวลาปัจจุบันต่อเนื่อง (Present Continuous)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำเกิดขึ้นในปัจจุบันแต่ไม่ใช่กระทำเป็นข้อกำหนดหรือกระทำเป็นประจำ เช่น “I am watching TV right now” (ฉันกำลังดูทีวีอยู่ในขณะนี้)

3. ช่วงเวลาอนาคต (Future Simple)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “She will travel to Japan next month” (เธอจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนหน้า)

4. ช่วงเวลาอนาคตต่อเนื่อง (Future Continuous)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่จะกำลังดำเนินการในอนาคต เช่น “I will be studying at the library tomorrow afternoon” (ฉันจะอยู่ที่ห้องสมุดเรียนตลอดวันพรุ่งนี้)

5. ช่วงเวลาอนาคตแนบรอบ (Future Perfect)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่จะเสร็จสมบูรณ์ในอนาคตเมื่อกำหนดเวลาเสร็จสิ้น เช่น “I will have finished my homework by the time you arrive” (ฉันจะเสร็จการบ้านก่อนที่คุณจะมาถึง)

6. ช่วงเวลาอดีต (Past Simple)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและได้สิ้นสุดลง เช่น “He visited his grandparents last weekend” (เขาไปเยี่ยมปู่ย่าของเขาในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา)

7. ช่วงเวลาอดีตต่อเนื่อง (Past Continuous)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและกำลังดำเนินการอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น “I was studying when you called” (ฉันกำลังเรียนอยู่เมื่อคุณโทรเข้ามา)

8. ช่วงเวลาอดีตแนบรอบ (Past Perfect)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่เสร็จสมบูรณ์ในอดีตก่อนที่เวลาอื่น ๆ ได้เกิดขึ้น เช่น “She had already left when I arrived” (เธอไปแล้วเมื่อฉันมาถึง)

9. ช่วงเวลาปัจจุบันในอดีต (Present Perfect)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตแต่มีผลต่อปัจจุบันเรา เช่น “I have seen that movie before” (ฉันเคยดูหนังเรื่องนั้นมาก่อน)

10. ช่วงเวลาปัจจุบันในอดีตต่อเนื่อง (Present Perfect Continuous)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เช่น “They have been playing tennis for two hours” (พวกเขาเล่นเทนนิสมาสองชั่วโมงแล้ว)

11. ช่วงเวลาอนาคตในอดีต (Future Perfect)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่จะเสร็จสมบูรณ์ในอดีตก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น “By this time next week, I will have finished my exams” (ในช่วงเวลานี้หน้าสัปดาห์หน้าฉันจะเสร็จสิ้นการสอบของฉันแล้ว)

12. ช่วงเวลาอนาคตในอดีตต่อเนื่อง (Future Perfect Continuous)
ช่วงเวลานี้ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่จะกำลังดำเนินการในอนาคตต่อเนื่องจนถึงเวลาที่คำบอกเหตุการณ์กำหนด เช่น “By the time he arrives at the party, we will have been waiting for an hour” (เมื่อเขามาถึงงานเลี้ยงฉันพวกเราจะรอมานานหนึ่งชั่วโมงแล้ว)

คำถามที่พบบ่อย
1. Verb Tenses มีอะไรบ้างในภาษาอังกฤษ?
ในภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 12 ช่วงเวลาของกริยา (Verb Tenses) คือ Present Simple, Present Continuous, Future Simple, Future Continuous, Future Perfect, Past Simple, Past Continuous, Past Perfect, Present Perfect, Present Perfect Continuous, Future Perfect, และ Future Perfect Continuous

2. ช่วงเวลาใดที่ใช้ในกรณีที่มีการกระทำเกิดขึ้นในปัจจุบันและกระทำเป็นข้อกำหนดหรือกระทำเป็นประจำ?
ช่วงเวลาที่ใช้ในกรณีนี้คือ Present Simple เช่น “I eat breakfast every morning” (ฉันกินอาหารเช้าทุกวันเช้า)

3. ช่วงเวลาใดที่ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต?
ช่วงเวลาที่ใช้ในกรณีนี้คือ Future Simple เช่น “She will travel to Japan next month” (เธอจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนหน้า)

4. ช่วงเวลาใดที่ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและได้สิ้นสุดลง?
ช่วงเวลาที่ใช้ในกรณีนี้คือ Past Simple เช่น “He visited his grandparents last weekend” (เขาไปเยี่ยมปู่ย่าของเขาในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา)

5. ช่วงเวลาใดที่ใช้ในกรณีที่มีการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและกำลังดำเนินการอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนด?
ช่วงเวลาที่ใช้ในกรณีนี้คือ Past Continuous เช่น “I was studying when you called” (ฉันกำลังเรียนอยู่เมื่อคุณโทรเข้ามา)

สรุป
Verb Tenses เป็นส่วนที่สำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อให้สามารถใช้ตรงกับบริบทและเวลาที่นำไปใช้ ในภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 12 ช่วงเวลาของการกระทำของกริยา (Verb Tenses) ซึ่งครอบคลุมการกระทำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อนาคต อดีต และการเกิดขึ้นในปัจจุบันแต่มีผลต่ออดีต มากถึง อนาคตในอดีตต่อเนื่อง อดีตแนบรอบ ปัจจุบันในอดีต ฯลฯ เพื่อให้เพื่อน ๆ เข้าใจ Verb Tenses ได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Verb Tenses และคำตอบที่ให้แก่เพื่อน ๆ ด้วย

3 Tense มีอะไรบ้าง

มีอะไรบ้าง Three Tenses ในภาษาไทย

ภาษาไทยเป็นภาษาที่น่าสนใจและซับซ้อน มีหลายองค์ประกอบที่ต้องการใช้อย่างถูกต้องเพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องราวหรือคำพูดต่างๆ ภาษาไทยใช้รูปแบบการสร้างคำที่ต่างจากภาษาอังกฤษ ภาษาไทยมีการกำหนดความแตกต่างในเรื่องของเวลาหรือช่วงเวลาที่ต่างกันด้วยคำกริยาที่สร้างความหมายออกมาได้อย่างชัดเจน ภาษาไทยมีระบบ Tenses หรือช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับคำกริยาได้ถึง 3 ตัวแทนที่สำคัญ ซึ่งจะได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดในบทความนี้

เราสามารถพูดถึง Three Tenses ภาษาไทยได้ดังนี้:

1. Tense ปัจจุบัน (Present Tense)
2. Tense อดีต (Past Tense)
3. Tense อนาคต (Future Tense)

1. Tense ปัจจุบัน (Present Tense):
Tense ปัจจุบันในภาษาไทยเหมือนกับภาษาอังกฤษที่ใช้เล่าเรื่องในปัจจุบัน หรือจะพูดถึงคำกริยาที่มีการเกิดขึ้นในปัจจุบันของเราเอง ยกตัวอย่างเช่น:

– ฉันกินอาหาร (I eat food)
– เขาน่ารัก (He/she is cute)

ในภาษาไทย ถ้ากำหนดตารางเวลาอย่างละเอียดแบบภาษาอังกฤษอาจจะใช้คำวาทย์เพิ่มเติม เช่น “ตอนนี้” แต่ในกรณีทั่วไป เราไม่จำเป็นต้องระบุประโยคว่า “ตอนนี้” เพราะคำกริยาจะอยู่แค่ตัวอย่างคำจากที่แสดงอยู่นั้น โดยในภาษาไทยสามารถตอบคำถามในหลายประเภทเกี่ยวกับรูปแบบ Tense ปัจจุบันได้ โดยมักใช้คำถาม “กำลัง..?” เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น “เขากำลังทำอะไรอยู่?” “พ่อกำลังอ่านหนังสืออยู่ไหม?”

2. Tense อดีต (Past Tense):
Tense อดีตในภาษาไทยเหมือนกับภาษาอังกฤษที่ใช้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต หรือจะพูดถึงคำกริยาที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตของเราเอง ยกตัวอย่างเช่น:

– เมื่อวานฉันกินข้าว (Yesterday, I ate rice)
– เขาสอนฉันถนน (He/she taught me the way)

ในภาษาไทย เมื่อพูดถึง Tense อดีต เราสามารถใช้คำวาทย์เพิ่มเติมเช่น “เมื่อวาน”, “คืนนี้” หรือ “มาที่นี้” เพื่อให้เข้าใจว่าเหตุการณ์ที่กล่าวถึงเกิดขึ้นในอดีต การตอบคำถามในประเภท Past Tense อาจมีคำถาม “ทำอะไร” เช่น “เมื่อวานคุณทำอะไร?” “เมื่อวานเขาเล่นกอล์ฟกับใคร?”

3. Tense อนาคต (Future Tense):
Tense อนาคตในภาษาไทยได้แสดงถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือคำกริยาที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของเราเอง ยกตัวอย่างเช่น:

– พรุ่งนี้ฉันจะไปเที่ยว (Tomorrow, I will go on a trip)
– เขาจะได้งานใหม่ (He/she will get a new job)

ในภาษาไทย ถ้าใช้ระบบ Tense อนาคต บางครั้งเราจำเป็นต้องใช้คำวาทย์เพิ่มเติมเช่น “พรุ่งนี้”, “ที่บ้าน”, “สัปดาห์หน้า” เพื่อให้เข้าใจได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดขึ้นในอนาคต ในส่วนการตอบคำถามเกี่ยวกับ Tense อนาคตเราสามารถใช้คำถาม “จะ..ไหม” เพื่อสอบถามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “พรุ่งนี้คุณจะไปเที่ยวที่ไหน?” “สัปดาห์หน้าคุณจะทำงานที่งานเก่าไหม?”

Frequently Asked Questions (FAQs)

Q1: มีแต่ Tense ปัจจุบัน อดีต และ อนาคตหรือไม่มีอีกอย่างอื่น?
A1: ในกระบวนการสื่อสารที่ใช้ Tense ในภาษาไทย เรามีแต่ Tense ปัจจุบัน อดีต และ อนาคตเป็นเรื่องหลัก

Q2: เราต้องระบุคำวาทย์ลงไปแต่ละประโยค Tense หรือไม่?
A2: ไม่จำเป็นต้องระบุคำวาทย์ที่แสดงความชัดเจนในทุก ๆ ประโยค ในภาษาไทย เพราะความหมายได้แสดงอยู่ในชนิดคำกริยาที่ใช้

Q3: กรณีมีการสร้างประโยคที่เรียงลำดับ Tense ทั้งที่ 3 อย่าง จะต้องใช้คำวาทย์เพิ่มเติมหรือไม่?
A3: ในกรณีที่เราต้องการให้แสดงความชัดเจนระหว่าง Tense ทั้ง 3 อย่าง แนะนำให้ใช้คำวาทย์อย่างเช่น “ก่อนหน้านี้”, “ผ่านมา”, “ในอนาคต” เพื่อให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจได้ชัดเจน

Q4: ถ้าเราต้องการสอบถามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Tense ในภาษาไทย จะใช้รูปแบบคำถามอย่างไร?
A4: ในกรณีของ Tense ปัจจุบัน เราสามารถใช้คำถาม “กำลัง..?” เช่น “พ่อกำลังอ่านหนังสืออยู่ไหม?” สำหรับ Tense อดีต เราสามารถใช้คำถาม “ทำอะไร” เช่น “เมื่อวานคุณทำอะไร?” ในส่วนของ Tense อนาคต เราสามารถใช้คำถาม “จะ..ไหม” เพื่อสอบถามเรื่องที่เกี่ยวจะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “พรุ่งนี้คุณจะไปเที่ยวที่ไหน?”

ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com

Tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด Pdf

ความหมายของ Tense ทั้ง 12 อย่างละเอียดและไฟล์ PDF

หากคุณเคยเรียนภาษาอังกฤษ คุณอาจจะเคยได้ยินถึงคำว่า “Tense” มาบ้างแล้ว โดยทั่วไปแล้ว Tense หมายถึงสถานะหรือเวลาที่เกิดขึ้นในทางบริบทของประโยค ภาษาอังกฤษมี Tense ทั้งหมด 12 อย่างได้แก่ Present Simple Tense, Past Simple Tense, Future Simple Tense, Present Continuous Tense, Past Continuous Tense, Future Continuous Tense, Present Perfect Tense, Past Perfect Tense, Future Perfect Tense, Present Perfect Continuous Tense, Past Perfect Continuous Tense, และ Future Perfect Continuous Tense

โดยเรามาศึกษาและมองในแง่ของ ‘Tense’ เหล่านี้อย่างละเอียดในตอนต่อไป

1. Present Simple Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ สถานะ หรือเหตุผลที่เป็นความจริงเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ต่อมา เช่น “I eat rice every day.” (ผมกินข้าวทุกวัน) ในกรณีแบบทั่วไป

2. Past Simple Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น “She danced beautifully last night.” (เธอเต้นรำสวยงามเมื่อคืน)

3. Future Simple Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น “They will arrive at 8 p.m.” (พวกเขาจะมาถึงเวลา 8 โมง)

4. Present Continuous Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นชั่วคราวขณะเราพูด เช่น “He is watching TV at the moment.” (เขากำลังดูโทรทัศน์ในขณะนี้)

5. Past Continuous Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยืนหยัดอยู่ในช่วงเวลาใด ๆ เช่น “They were sleeping when the phone rang.” (พวกเขากำลังหลับเมื่อโทรศัพท์ร้องเรียก)

6. Future Continuous Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาที่กำหนดให้ เช่น “I will be studying at 5 p.m. tomorrow.” (ฉันจะกำลังเรียนวันพรุ่งนี้เวลา 5 โมงเย็น)

7. Present Perfect Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ยังคงสัมพันธ์กับปัจจุบัน เช่น “I have seen that movie before.” (ฉันเคยดูหนังเรื่องนั้นมาก่อน)

8. Past Perfect Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น “She had already eaten dinner when her friends arrived.” (เธอกินข้าวเสร็จก่อนที่เพื่อนของเธอจะมาถึง)

9. Future Perfect Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะสิ้นสุดลงก่อนเหตุการณ์อื่น ๆ ในอนาคต เช่น “By the time they arrive, we will have finished cooking.” (ถึงเวลาที่พวกเขามาถึง เราจะเสร็จการทำอาหารไปแล้ว)

10. Present Perfect Continuous Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เริ่มต้นตั้งแต่อดีตและยังคงดำเนินการในปัจจุบัน เช่น “He has been playing tennis for two hours.” (เขาเล่นเทนนิสมาเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้ว)

11. Past Perfect Continuous Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและยังคงดำเนินการไปอยู่ในช่วงต่าง ๆ ในอดีต เช่น “She had been waiting for a taxi for half an hour before it finally arrived.” (เธอรอรถแท็กซี่มาเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนที่มันจะมาถึง)

12. Future Perfect Continuous Tense: Tense นี้ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะดำเนินการในเวลาที่กำหนดให้ในอนาคต โดยให้ค่าเวลาของเหตุการณ์ถูกต้อง เช่น “By this time next week, I will have been working here for two years.” (ในช่วงเวลาเกินสัปดาห์นี้ ฉันจะได้ทำงานที่นี่มาเป็นเวลาสองปี)

เมื่อคุณได้รู้จักและเข้าใจ Tense แต่ละประเภท คุณจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษในรูปแบบที่ถูกต้องและเหมาะสมกับบริบทที่ต้องการได้อย่างถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Tense

1. Tense ที่สำคัญที่สุดคืออะไร?
ตอบ: Tense ที่สำคัญที่สุดคือ Present Simple Tense, Past Simple Tense และ Future Simple Tense เนื่องจากใช้บ่อยที่สุดในการพูด และเขียนภาษาอังกฤษ

2. ประโยคอะไรที่ใช้ Tense ทั้ง 12 ด้วยกัน?
ตอบ: “By the time he arrives, I will have been watching TV for five hours while eating dinner since 6 p.m.” (ถึงเวลาที่เขาจะมาถึง เราจะได้ดูโทรทัศน์มาเป็นเวลาห้าชั่วโมงโดยฉันกำลังรับประทานอาหารตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น)

3. Tense ใดที่ใช้ร่วมกับคำกริยาช่องที่ 3 ในประโยคบอกรับปฏิเสธ?
ตอบ: Present Simple Tense ใช้กับกริยาช่องที่ 3 ในคำกริยาปฏิเสธแบบกริยาช่วย “do not/does not”, เช่น “He does not go to school on Sundays.” (เขาไม่ไปโรงเรียนในวันอาทิตย์)

4. Tense ใดที่ใช้ในการพูดถึงเหตุการณ์ที่จบลงก่อนหน้าเหตุการณ์อื่น?
ตอบ: Past Perfect Tense ใช้ในกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์อื่น เช่น “I had already finished my homework before my friend called me.” (ฉันได้ทำการบ้านเสร็จก่อนที่เพื่อนของฉันจะโทรศัพท์มาหาฉัน)

5. Tense ใดที่ใช้ในประโยคสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน?
ตอบ: Present Simple Tense ใช้ในกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น “She washes her car every Sunday.” (เธอล้างรถของเธอทุกวันอาทิตย์)

ผ่านการศึกษา Tense ทั้ง 12 และคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Tense นี้ ได้เสร็จสมบูรณ์โดยละเอียด เราอาจจะได้ข้อมูลเพียงพอในการใช้ Tense ในภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพในการแสดงความหมายของประโยค

Tense ทั้ง 12 อย่างละเอียด

ทั้ง 12 อย่างละเอียดของ Tense ในภาษาอังกฤษ

ในการศึกษาภาษาอังกฤษ หนึ่งในเรื่องที่เรียนรู้ที่สำคัญคือเรื่องของ Tense หรือเวลา (Verb Tense) เนื่องจาก Tense เป็นตัวแสดงช่วงเวลาที่เกิดขึ้นกับกริยาในประโยค ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 12 กลุ่มหลักๆที่เกี่ยวข้องหรือเรียกว่า 12 Tenses หลักด้วยกัน ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักและศึกษาเกี่ยวกับทั้ง 12 Tenses นั้นๆให้ละเอียดยิบกว่าเดิม มาเริ่มต้นกันเลย!

1. Simple Present Tense (Present Simple)
Simple Present Tense เป็น Tense ที่นำกริยามารูฟรองการเกิดขึ้นเป็นประจำ หรือเกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งมักใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำ หรือเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เช่น I go to school every day. (ฉันไปโรงเรียนทุกวัน)

2. Present Continuous Tense (Present Progressive)
Present Continuous Tense นำกริยามาบ่งบอกเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นขณะใด ๆ ในปัจจุบัน เช่น He is playing football at the moment. (เขากำลังเล่นฟุตบอลในขณะนี้)

3. Present Perfect Tense
Present Perfect Tense เป็นการนำกริยามาบ่งบอกเรื่องและสถานการณ์ที่สำเร็จแล้วในอดีต ไม่ระบุเวลาที่เกิดขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว เช่น They have traveled to many countries. (พวกเขาเดินทางไปหลายประเทศ)

4. Present Perfect Continuous Tense
Present Perfect Continuous Tense เป็นการนำกริยามาบ่งบอกเรื่องที่เริ่มต้นตั้งแต่อดีตและยังคงเกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน โดยไม่ระบุจำนวนครั้งที่เกิดขึ้น เช่น I have been studying for hours. (ฉันเรียนมานานหลายชั่วโมงแล้ว)

5. Simple Past Tense (Past Simple)
Simple Past Tense เป็น Tense ที่ใช้บอกเหตุการณ์หรือเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต โดยระบุเวลาที่เกิดขึ้น เช่น She visited her grandmother last weekend. (เธอไปเยี่ยมปู่ของเธอในวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา)

6. Past Continuous Tense (Past Progressive)
Past Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้บอกเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในสมัยหรือเวลาที่ผ่านมา เช่น We were watching a movie when she called. (เรากำลังดูหนังเมื่อเธอโทรหาเรา)

7. Past Perfect Tense
Past Perfect Tense ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์หรือเรื่องที่ถูกกล่าวมาในอดีต เช่น He had already eaten when his friend invited him for dinner. (เขากินอาหารไปแล้วเมื่อเพื่อนชวนทานเย็น)

8. Past Perfect Continuous Tense
Past Perfect Continuous Tense เป็น Tense ที่ใช้บอกเรื่องที่กระทำเป็นเวลานานในอดีตก่อนๆ และยังคงกระทำอยู่เมื่อตอนใดตอนหนึ่งในอดีต เช่น She had been studying for hours before the exam. (เธอเรียนมานานหลายชั่วโมงก่อนสอบ)

9. Simple Future Tense (Future Simple)
Simple Future Tense ใช้บอกเหตุการณ์หรือเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยใช้คำกริยาช่อง 2 เช่น They will go to the beach next weekend. (พวกเขาจะไปชายหาดในสุดสัปดาห์หน้า)

10. Future Continuous Tense (Future Progressive)
Future Continuous Tense ใช้บอกเรื่องที่จะเกิดขึ้นอยู่ในเวลาหรือสมัยใดสมัยหนึ่งในอนาคต เช่น I will be cooking dinner at 7 o’clock tonight. (ฉันจะทำอาหารเย็นเมื่อเวลา 7 โมงคืนนี้)

11. Future Perfect Tense
Future Perfect Tense ใช้เมื่อต้องการบอกเหตุการณ์ที่จะสิ้นสุดก่อนเวลาที่ระบุ ในอนาคตอุตสาหกรรม เช่น By the time he arrives, we will have finished the project. (ถึงเวลาที่เขาจะมาถึง เราจะทำเสร็จโครงการนี้แล้ว)

12. Future Perfect Continuous Tense
Future Perfect Continuous Tense เป็น Tense ที่ความยาวนานกว่า Future Perfect Tense และบอกเรื่องที่จะกระทำตลอดระยะเวลาในอนาคตก่อนเวลาที่ระบุ เช่น We will have been waiting for 2 hours by the time you arrive. (เราจะต้องรอมานาน 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาของคุณ)

FAQs เกี่ยวกับ Tense

Q: เรียน Tense มีความสำคัญอย่างไร?
A: การเรียนรู้ Tense จะช่วยให้เราสื่อสารและเขียนเป็นประโยคโดยถูกต้องตามเวลาของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ถ้าใช้ Tense ไม่ถูกต้องอาจทำให้ความหมายหรือเนื้อหาที่เราต้องการสื่อสารผิดพลาด

Q: มีวิธีใดสำหรับการเรียนรู้ Tense ที่ดี?
A: การฝึกฝนและทำแบบฝึกหัดจะช่วยให้เราเข้าใจและเจาะลึกเกี่ยวกับ Tense ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การอ่านและฟังประโยคในภาษาอังกฤษที่ใช้ Tense ต่างๆ ในความต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มพูนความคิดเชิงภาษาได้ครับ

Q: การใช้ Tense สามารถปรับเปลี่ยนได้หรือไม่?
A: ใช่ การใช้ Tense ขึ้นอยู่กับเกิดขึ้นของเหตุการณ์ในปัจจุบัน อดีต หรืออนาคต ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน Tense ให้เหมาะสมกับเนื้อหาหรือเหตุการณ์ที่เราต้องการสื่อสารได้

Q: Tense ในภาษาอังกฤษมีแค่ 12 หรือไม่?
A: ในภาษาอังกฤษมี Tense หลัก 12 แต่นอกจากนั้นยังมี Tense รองซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงได้เพื่อเสริมแต่ละ Tense ให้มีความหมายที่หลากหลายและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

Q: การใช้ Tense มีทั้งแบบปกติและพิเศษหรือไม่?
A: ใช่ ทั้ง Tense ในภาษาอังกฤษสามารถใช้ในรูปแบบปกติหรือพิเศษได้ เช่น รูปแบบปกติของ Tense Simple Past คือ Verb + -ed (ex. danced, played) แต่สำหรับรูปแบบพิเศษอาจมีการเปลี่ยนแปลงในการเติมคำ, การปรับเปลี่ยน, หรือการใช้คำช่วยแต่ต้องทำตามกฎของแต่ละ Tense อย่างถูกต้อง

ในภาษาอังกฤษ Tense เป็นส่วนสำคัญและสำคัญอย่างมากในการใช้ภาษา นอกจากการสื่อสารและเขียนงาน ทั้งนี้ Tense ใช้ในการเล่าเรื่องเพื่อเม้าท์กลุ่มคนหรือครอบครัว และการสื่อสารกับคนที่ใช้ Tense ในการผ่านความหมายของคุณได้อย่างถูกต้อง ศึกษา Tense อย่างถูกต้องสามารถเพิ่มความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของคุณและจะช่วยให้คุณเป็นผู้สื่อสารอย่างไร้ข้อผิดพลาด ความรู้ที่ละเอียดยิบเกี่ยวทั้ง 12 อย่างของ Tense นี้ย่อมเป็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่งสำหรับผู้เรียน Tense สามารถย้ายจากระดับเริ่มต้น,ป้อน,ลัดเป็นขั้นสูงเมื่อเราฝึกปฏิบัติและฝึกฝนเนื้อหาที่กล่าวผ่านลักษณะและตัวอย่างต่างๆของ Tense นี้

มี 7 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เรื่อง tense.

12 Tense ในภาษาอังกฤษ: โครงสร้าง หลักการใช้ และสัญญาณการรับรู้
12 Tense ในภาษาอังกฤษ: โครงสร้าง หลักการใช้ และสัญญาณการรับรู้
สรุปบทเรียน : ชีทสรุปภาษาอังกฤษ ม. ปลาย โครงสร้าง Tense ทั้ง 12 Tenses |  Trueplookpanya | สมุดคณิตศาสตร์, คำคมการเรียน, การเรียนภาษาอังกฤษ
สรุปบทเรียน : ชีทสรุปภาษาอังกฤษ ม. ปลาย โครงสร้าง Tense ทั้ง 12 Tenses | Trueplookpanya | สมุดคณิตศาสตร์, คำคมการเรียน, การเรียนภาษาอังกฤษ
สรุป Tense ที่ใช้และเจอบ่อยพร้อมลุย GatและO-Net
สรุป Tense ที่ใช้และเจอบ่อยพร้อมลุย GatและO-Net
12 Types Of Tenses With Examples And Formula
12 Types Of Tenses With Examples And Formula
Jj Style'S] 09/07/64 🟡Blog 17/100 ⏰11:45-12:01 📚วันนี้จะมาอธิบาย 1  Concept ในเรื่อง “ 12 Tense ” 📍จากวิชา 001211 English Listening And  Speaking For Communication ( การฟังและการพูกภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสา
Jj Style’S] 09/07/64 🟡Blog 17/100 ⏰11:45-12:01 📚วันนี้จะมาอธิบาย 1 Concept ในเรื่อง “ 12 Tense ” 📍จากวิชา 001211 English Listening And Speaking For Communication ( การฟังและการพูกภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสา
สรุปการใช้ Tense ทั้ง 12 Tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย -  ภาษาอังกฤษออนไลน์
สรุปการใช้ Tense ทั้ง 12 Tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย – ภาษาอังกฤษออนไลน์
Tenses – Grammaryipyoi
Tenses – Grammaryipyoi
Simple Present Tense | English Grammar -
Simple Present Tense | English Grammar –
Present Simple Tense (Simple Present): Definition, Rules And Useful  Examples • 7Esl
Present Simple Tense (Simple Present): Definition, Rules And Useful Examples • 7Esl
Tense | โครงสร้างไวยากรณ์ (Grammar)
Tense | โครงสร้างไวยากรณ์ (Grammar)
Bài Tập Present Simple Đơn Giản Để Bé Học Ngữ Pháp Tiếng Anh
Bài Tập Present Simple Đơn Giản Để Bé Học Ngữ Pháp Tiếng Anh
12 Tense - ทรัพยากรการสอน
12 Tense – ทรัพยากรการสอน
Present Simple Tense: Definition, Examples, Rules
Present Simple Tense: Definition, Examples, Rules
Learn The Present Tense In 4 Minutes 📚| Learn With Examples - Youtube
Learn The Present Tense In 4 Minutes 📚| Learn With Examples – Youtube
Simple Present Tense - Verb-To-Be &…: English Esl Worksheets Pdf & Doc
Simple Present Tense – Verb-To-Be &…: English Esl Worksheets Pdf & Doc
Present Tense คืออะไร และมีหลักการใช้อย่างไร สรุปมาให้อย่างละเอียด By  Premier Prep Ondemand - Ondemand
Present Tense คืออะไร และมีหลักการใช้อย่างไร สรุปมาให้อย่างละเอียด By Premier Prep Ondemand – Ondemand
โน้ตของ Present Simple Tense ชั้น - Clear | เรียนหนัก, ศึกษา,  บทเรียนภาษาอังกฤษ
โน้ตของ Present Simple Tense ชั้น – Clear | เรียนหนัก, ศึกษา, บทเรียนภาษาอังกฤษ
What Are Tenses: Tenses, Types Of Tenses, Present Perfect Tense, Simple  Present Tense - Javatpoint
What Are Tenses: Tenses, Types Of Tenses, Present Perfect Tense, Simple Present Tense – Javatpoint
16 Tenses In English Grammar (Formula And Examples) – Examplanning
16 Tenses In English Grammar (Formula And Examples) – Examplanning
มาเรียน Tense ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆกันเถอะ - Pantip
มาเรียน Tense ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆกันเถอะ – Pantip
Simple Present Tense
Simple Present Tense
สรุป 12 Tense ภาษาอังกฤษ ใช้ยังไง การใช้ ตัวอย่างประโยค – Bestkru
สรุป 12 Tense ภาษาอังกฤษ ใช้ยังไง การใช้ ตัวอย่างประโยค – Bestkru
Present Simple Tense (Simple Present): Definition, Rules And Useful  Examples • 7Esl
Present Simple Tense (Simple Present): Definition, Rules And Useful Examples • 7Esl
สรุปวิธีการใช้ Present Continuous ฉบับรวบรัด
สรุปวิธีการใช้ Present Continuous ฉบับรวบรัด
8,648 Present Tense English Esl Worksheets Pdf & Doc
8,648 Present Tense English Esl Worksheets Pdf & Doc
เรื่อง Present Tense โดยมีคำบอกเวลา และเเต่งประโยคให้เข้ากับคำศัพท์เรื่องสถานที่ต่างๆ  - Nockacademy
เรื่อง Present Tense โดยมีคำบอกเวลา และเเต่งประโยคให้เข้ากับคำศัพท์เรื่องสถานที่ต่างๆ – Nockacademy
Simple Present Tense: Everything You Need To Know!
Simple Present Tense: Everything You Need To Know!
Present Tense Chart: Tense Table, Examples, Rules & Definition
Present Tense Chart: Tense Table, Examples, Rules & Definition
8,648 Present Tense English Esl Worksheets Pdf & Doc
8,648 Present Tense English Esl Worksheets Pdf & Doc
The Simple Present Tense: Useful Usage And Example Sentences - Esl Forums
The Simple Present Tense: Useful Usage And Example Sentences – Esl Forums
Verb Tenses Chart In English Grammar [Download Pdf] | English Grammar &  Vocabulary
Verb Tenses Chart In English Grammar [Download Pdf] | English Grammar & Vocabulary
สรุปการใช้ Tense ทั้ง 12 Tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย -  ภาษาอังกฤษออนไลน์
สรุปการใช้ Tense ทั้ง 12 Tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย – ภาษาอังกฤษออนไลน์
Present Tense Chart: Tense Table, Examples, Rules & Definition
Present Tense Chart: Tense Table, Examples, Rules & Definition
สรุปเรื่อง Tense ในภาษาอังกฤษแบบละเอียด
สรุปเรื่อง Tense ในภาษาอังกฤษแบบละเอียด
▷ Present Tense - Blog En Learniv.Com
▷ Present Tense – Blog En Learniv.Com
หลักการใช้ 12 Tense อย่างละเอียด พร้อมโครงสร้าง Tense ที่สรุปเข้าใจง่าย  อ่านจบเก็ททันที
หลักการใช้ 12 Tense อย่างละเอียด พร้อมโครงสร้าง Tense ที่สรุปเข้าใจง่าย อ่านจบเก็ททันที
Tense ทั้งหมด
Tense ทั้งหมด
Present Tense ต้องสังเกตคำไหนถึงรู้ว่าใช้อะไรดี? - Learnneo
Present Tense ต้องสังเกตคำไหนถึงรู้ว่าใช้อะไรดี? – Learnneo
12 Tense มีอะไรบ้าง และโครงสร้างประโยคเป็นอย่างไร
12 Tense มีอะไรบ้าง และโครงสร้างประโยคเป็นอย่างไร
All About The Present Simple Tense
All About The Present Simple Tense
What Is Simple Present Tense? | Thesaurus.Com
What Is Simple Present Tense? | Thesaurus.Com
Simple Future Tense - Verbs And Tenses
Simple Future Tense – Verbs And Tenses
Trueplookpanya Freebasic
Trueplookpanya Freebasic
Simple Present Tense Online Exercise For Grade 3
Simple Present Tense Online Exercise For Grade 3
100+ Words Past Present Future Tense » Onlymyenglish.Com
100+ Words Past Present Future Tense » Onlymyenglish.Com
Simple Present Tense: Definition, Examples, Rules & Formula 2023
Simple Present Tense: Definition, Examples, Rules & Formula 2023
Verb Tenses: Past Tense, Present Tense & Future Tense With Examples - Esl  Grammar
Verb Tenses: Past Tense, Present Tense & Future Tense With Examples – Esl Grammar
Simple Present Tense – English Verb Tenses
Simple Present Tense – English Verb Tenses
Present Tense คืออะไร และมีหลักการใช้อย่างไร สรุปมาให้อย่างละเอียด By  Premier Prep Ondemand - Ondemand
Present Tense คืออะไร และมีหลักการใช้อย่างไร สรุปมาให้อย่างละเอียด By Premier Prep Ondemand – Ondemand
Present Simple Tense คืออะไร มีหลักการใช้งาน และวิธีการสร้างประโยคอย่างไร
Present Simple Tense คืออะไร มีหลักการใช้งาน และวิธีการสร้างประโยคอย่างไร

ลิงค์บทความ: เรื่อง tense.

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ เรื่อง tense.

ดูเพิ่มเติม: lasbeautyvn.com/category/digital-studios

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *