เขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ
การเขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญเมื่อต้องการให้ผู้รับอ่านเข้าใจว่าวันที่ใดที่ของเดือนหรือขอบเขตเวลาใด ๆ ที่กำหนดไว้ ในบทความนี้เราจะสอนวิธีการใช้รูปแบบและตัวอย่างของการเขียนวันที่ในภาษาอังกฤษโดยละเอียด
แบ่งประเภทรูปแบบการเขียนวันที่ในภาษาอังกฤษ
1. รูปแบบการเขียนวันที่ระบุเลขทศนิยม – ในรูปแบบนี้ เราใช้เลขเต็มและเพิ่มเครื่องหมายจุลภาค (.) อยู่ระหว่างวัน เดือน และปี ตัวอย่างเช่น วันที่ 15 มกราคม 2010 จะเขียนว่า “January 15th, 2010” หรือ “15th January 2010”
2. รูปแบบการเขียนวันที่ระบุเลขโรมัน – รูปแบบนี้ใช้เลขโรมันระบุวันและเครื่องหมายจุลภาคก่อนจากนั้นค่อยกำหนดเดือนและปี ตัวอย่างเช่น เขียนวันที่ 3 กันยายน 1987 จะเป็น “September 3rd, 1987” หรือ “3rd September 1987”
3. รูปแบบการเขียนวันที่ระบุเลขคำทั้งสอง – ในรูปแบบนี้เราใช้เลขคำจำกัดเวลา (ordinal numbers) กับเดือนเป็น commonplace และปีเป็น numerical form ตัวอย่างเช่น วันที่ 2 พฤษภาคม 1998 จะเป็น “May 2nd, 1998” หรือ “2nd May 1998”
การสร้างประโยคเอื้องความใช้ในการเขียนวันที่
ในการเขียนประโยคที่มีการระบุวันที่ เราสามารถใช้คำเชื่อม (prepositions) เพื่อเชื่อมปี อาทิ “on” หรือ “in” ระหว่างวัน เดือน และปี เช่น
– The meeting will be held on March 15th, 2022. (การประชุมจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 15 มีนาคม 2022)
– She was born on December 1st, 1990. (เธอเกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1990)
– The concert is scheduled for June 10th, 2023. (คอนเสิร์ตถูกกำหนดไว้วันที่ 10 มิถุนายน 2023)
การใช้รูปแบบวันที่ในการบอกเวลา
เมื่อใช้รูปแบบวันที่ระบุเวลา เราจะเติมเลขเต็มระหว่างวันและเวลาที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น
– The flight departs at 8:30 AM on January 4th, 2022. (การบินออกเวลา 8:30 นาฬิกาเช้าในวันที่ 4 มกราคม 2022)
– The event starts at 7:00 PM on December 31st, 2021. (เหตุการณ์เริ่มเวลา 7:00 นาฬิกาเย็นในวันที่ 31 ธันวาคม 2021)
– The meeting is scheduled for 9:15 AM on March 22nd, 2022. (การประชุมถูกกำหนดไว้เวลา 9:15 นาฬิกาในวันที่ 22 มีนาคม 2022)
วันที่ในรูปแบบเครื่องหมายเมนัส และเครื่องหมายเสียงเครื่องหมายจุลภาค
ในบางกรณี เราอาจเห็นเครื่องหมายเมนัส (apostrophe) เพิ่มเข้าไประหว่างวันที่และตัวย่อเพื่อแสดง ordinal numbers ตัวอย่างเช่น
– Today is December 1st. (วันนี้เป็นวันที่ 1 ธันวาคม)
– I will see you on April 3rd. (ฉันจะพบคุณในวันที่ 3 เมษายน)
– She was born on August 22nd. (เธอเกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม)
การใช้วันที่ในการเขียนด้านธุรกิจและงานวิชาการ
ในงานทางธุรกิจและงานวิชาการ เรามักจะใช้รูปแบบเดียวกันในการเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจและความถูกต้องตามมาตรฐาน ตัวอย่างเช่น
– The conference will take place on October 20th, 2022. (การประชุมจะจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม 2022)
– The report is due on February 28th, 2023. (รายงานครบกำหนดในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2023)
– The deadline for submissions is March 15th, 2022. (กำหนดส่งงานในวันที่ 15 มีนาคม 2022)
การเขียนวันที่อย่างถูกต้องตามสไตล์เขียนและมาตรฐานของภาษาอังกฤษ
เพื่อให้การเขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษถูกต้องตามสไตล์เขียนและมาตรฐาน นี่คือสิ่งที่คุณควรทราบ:
– ใช้คำหยุด (comma) ในการแบ่งวัน เดือน และปี เช่น “January 1st, 2022” หรือ “1st January, 2022”
– ใส่เครื่องหมายจุลภาค (.) ระหว่างวัน เดือน และปี เช่น “January 1st. 2022”
– การเขียนวันที่ในเรื่องทางธุรกิจและงานวิชาการใช้รูปแบบ “month-day-year” หรือ “day-month-year” ก็ได้ แต่ควรทำตามการใช้งานที่กำหนดไว้ในสถาบันหรือองค์กรที่คุณทำงาน
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. เราจะเขียนวันที่ภาษาอังกฤษย้อนหลังได้อย่างไร?
เราสามารถเขียนวันที่ภาษาอังกฤษย้อนหลังได้โดยใช้รูปแบบเดียวกับการเขียนปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น January 1st, 1990
2. เขียนวันที่ภาษาอังกฤษแบบย่อได้อย่างไร?
วันที่ภาษาอังกฤษแบบย่อใช้เลขหลังเล็กๆ ที่ปรากฏในตัวอักษรตัวแรกของเดือน เช่น Jan 1st, 2022
3. วิธีการเขียนวันที่ภาษาอังกฤษตั้งแต่ 1 ถึง 31?
ใช้เลขเต็มและตัวย่อ (ordinal numbers) เช่น 1st, 2nd, 3rd, 4th, 5th, 6th, 7th, 8th, 9th, 10th, 11th, 12th, 13th, 14th, 15th, 16th, 17th, 18th, 19th, 20th, 21st, 22nd, 23rd, 24th, 25th, 26th, 27th, 28th, 29th, 30th, 31st
4. วันที่ภาษาอังกฤษมีชื่อเดือนอะไรบ้าง?
ชื่อเดือนภาษาอังกฤษมีดังนี้: January, February, March, April, May, June, July, August, September, October, November, December
5. วิธีการเขียนตัวย่อวันที่ภาษาอังกฤษ?
ใช้ตัวย่อเลขที่อยู่หลังเลขวัน เช่น “1st” จะเขียนเป็น “st” และ “21st” เขียนเป็น “st” เช่นเดียวกัน
6. วิธีการเขียนตัวย่อวันที่ภาษาอังกฤษตั้งแต่ 1 ถึง 31?
ใช้ตัวย่อเลขหน้าเลขวัน เช่น “1st” จะเขียนเป็น “1st” และ “11th” เขียนเป็น “11th” เช่นเดียวกัน
7. วัน เดือน ปี ในภาษาอังกฤษเขียนวันที่ถูกต้องตามมาตรฐานกฎหมายอย่างไร?
ในภาษาอังกฤษ เราใช้รูปแบบ “วัน เดือน ป
วิธีเขียนวันที่ภาษาอังกฤษง่ายๆ
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: เขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ เขียนวันที่ภาษาอังกฤษ th st, เขียนวันที่ภาษาอังกฤษ แบบย่อ, วันที่ภาษาอังกฤษ 1-31, เดือนภาษาอังกฤษ, ตัวย่อวันภาษาอังกฤษ th, ตัวย่อวันที่ภาษาอังกฤษ 1-31, การเขียน วัน เดือน ปี ที่ ถูก ต้อง, วัน เดือน ปี เกิด ภาษาอังกฤษ
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ
หมวดหมู่: Top 90 เขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ
ดูเพิ่มเติมที่นี่: lasbeautyvn.com
เขียนวันที่ภาษาอังกฤษ Th St
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและท้าทายสำหรับคนที่ชื่นชอบการเรียนรู้และเมื่อเราพูดถึงเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การเรียนรู้วันที่ภาษาอังกฤษจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในภาษาอังกฤษ เราใช้เครื่องหมาย “th” เพื่อเรียกวันที่ที่มีตัวเลข 1st, 2nd, 3rd และต่อมา 4th, 5th, 6th เป็นต้นไป แต่ในภาษาไทยเราใช้การจัดหลักฐานแตกต่างกันอ่อนโยนกว่า
การเรียนรู้วันที่ภาษาอังกฤษ “th” ในภาษาไทยจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากมันไม่เพียงแค่เป็นการเรียนรู้ภาษาใหม่ แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจและใช้ภาษาได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถอ่านและเขียนวันที่ในภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ว่าเราจะใช้ “th” เพื่อเขียนวันที่ในภาษาอังกฤษ “th” ในภาษาไทยอย่างถูกต้อง
วันที่ในภาษาอังกฤษ “th” ในภาษาไทย
ในภาษาอังกฤษ วันที่ 1 ถึง 9 มักจะมีการใช้ “st”, “nd” และ “rd” ต่อท้ายตัวเลข เช่น 1st, 2nd, 3rd แต่เมื่อถึงตัวเลข 10 และอื่น ๆ ต่อมา จะใช้ “th” เช่น 4th, 5th, 6th และต่อมา ในภาษาไทยเราไม่มักจะใช้อักขระเหล่านี้ เนื่องจากเราใช้คำว่า “วันที่” หรือ “ที่” เพื่อตัวอย่างเช่น “วันที่ 1”, “ที่ 2” งั้นจึงไม่สามารถใช้ “st”, “nd” และ “rd” ได้ตามภาษาอังกฤษ
การเรียนรู้วันที่ภาษาอังกฤษ “th”
การเรียนรู้การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ “th” นั้นง่ายและไม่ยากเกินไป นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ตารางดังต่อไปนี้เพื่อช่วยในการเรียนรู้:
1st = วันแรก
2nd = วันที่สอง
3rd = วันที่สาม
4th = วันที่สี่
5th = วันที่ห้า
6th = วันที่หก
7th = วันที่เจ็ด
8th = วันที่แปด
9th = วันที่เก้า
10th = วันที่สิบ
และต่อมาเรียงไปเรื่อย ๆ เช่น 11th = วันที่สิบเอ็ด, 12th = วันที่สิบสอง และอื่น ๆ
ปัญหาที่พบบ่อย (FAQs)
เพื่อช่วยคุณในการเรียนรู้และเข้าใจวันที่ภาษาอังกฤษ “th” ในภาษาไทย ส่วนนี้จะรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้:
คำถาม 1: อะไรคือวันแรกในเดือน?
ตอบ: วันแรกในเดือนมีค่าเป็น “1st” ในภาษาอังกฤษ ในภาษาไทยเราจะใช้คำว่า “วันที่หนึ่ง” เช่น “วันที่หนึ่งของเดือนมกราคม” ซึ่งไม่มีคำว่า “st” เหมือนในภาษาอังกฤษ
คำถาม 2: เราจะเขียนวันที่สองในภาษาอังกฤษอย่างไร?
ตอบ: วันที่สองในภาษาอังกฤษจะเขียนเป็น “2nd” อย่างไรก็ตามเพียงแค่เลื่อนตัวเลขขึ้นมากรณีที่เราต้องการเขียนวันที่อื่น ๆ เช่น วันที่สิบเอ็ด (11th) วันที่สิบสอง (12th) และอื่นๆ
คำถาม 3: ถ้าเราต้องการเขียนวันที่ 21 ในภาษาอังกฤษ “th” เราจะเขียนอย่างไร?
ตอบ: เราจะเขียนวันที่ 21 เป็น “21st” ในภาษาอังกฤษ ในภาษาไทย เราจะเขียนว่า “วันที่ยี่สิบเอ็ด”
คำถาม 4: ถ้าเราต้องการเขียนวันที่ 31 ในภาษาอังกฤษ “th” เราจะเขียนอย่างไร?
ตอบ: เราจะเขียนวันที่ 31 เป็น “31st” ในภาษาอังกฤษ ในภาษาไทย เราจะเขียนว่า “วันที่สามสิบเอ็ด”
คำถาม 5: เราสามารถใช้ “th” ในภาษาไทยหรือไม่?
ตอบ: ในภาษาไทยเราสามารถใช้ “th” เพื่อเขียนวันที่ได้ แต่แนะนำให้ใช้วิธีการตัวเลือกอื่น เช่น “วันที่” เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจและอ่าน
เพื่อให้คุณเข้าใจและเรียนรู้วันที่ภาษาอังกฤษ “th” ในภาษาไทย คุณสามารถฝึกฝนตัวอย่างต่อไปนี้ได้ดี: อ่านและเขียนวันที่ในภาษาอังกฤษ “th” ที่แตกต่างระหว่างเดือน และทดลองสร้างปฏิทินของคุณเองที่ตั้งอย่างถูกต้อง นอกจากนี้การศึกษาภาษาอังกฤษอื่น ๆ อาจช่วยให้คุณรู้จักกับการใช้ “th” ในเชิงบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของคุณ
เขียนวันที่ภาษาอังกฤษ แบบย่อ
การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษแบบย่อ เป็นอีกหนึ่งทักษะที่เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ในการเวียนว่ายหรือการเจรจาในงานธุรกิจระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการเขียนวันที่ที่ง่ายต่อการอ่านและเข้าใจเพื่อให้คนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาตัวเองสามารถเข้าใจได้สะดวกอย่างมาก ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการเขียนวันที่ภาษาอังกฤษแบบย่ออย่างละเอียดกันเถอะ!
มาแรกเลย เรามาเรียนรู้วิธีการเขียนชื่อเดือนในภาษาอังกฤษโดยภาษาไทยเราจะใช้ลักษณะของเดือนที่แตกต่างกันไม่เหมือนกัน ในภาษาอังกฤษ แต่ละเดือนจะมีการเขียนแบบย่อที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ตารางดังนี้จะเป็นตัวอย่างเดือนและลักษณะที่เขียนแบบย่อทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาไทย:
• มกราคม (January) – Jan.
• กุมภาพันธ์ (February) – Feb.
• มีนาคม (March) – Mar.
• เมษายน (April) – Apr.
• พฤษภาคม (May) – May
• มิถุนายน (June) – Jun.
• กรกฎาคม (July) – Jul.
• สิงหาคม (August) – Aug.
• กันยายน (September) – Sep.
• ตุลาคม (October) – Oct.
• พฤศจิกายน (November) – Nov.
• ธันวาคม (December) – Dec.
เมื่อทราบแล้ววิธีเขียนลักษณะเดือน มาถึงวิธีการเขียนวันที่และปี ในภาษาอังกฤษการเขียนวันที่แบบย่อจะทำได้หลากหลายแบบ ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 มกราคม 2022 สามารถเขียนแบบต่อไปนี้ได้:
• 01/01/2022
• 1st January 2022
• January 1st, 2022
การเลือกใช้รูปแบบการเขียนวันที่นั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกและการใช้งานของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ ในบางครั้งวันที่อาจจะถูกเขียนในรูปแบบที่ไม่นอกจากตัวเลขอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น:
• 1-Jan-22
• 01-January-2022
สำหรับตารางสรุปเกี่ยวกับการเขียนวันที่และปี จะมีอยู่ดังนี้:
• 1st – first
• 2nd – second
• 3rd – third
• 4th – fourth
• 5th – fifth
• 6th – sixth
• 7th – seventh
• 8th – eighth
• 9th – ninth
• 10th – tenth
จงจำไว้ว่าเพียงแค่หลักการอธิบายนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากการเขียนวันที่และปีแบบย่ออาจมีความแตกต่างไปตามเครื่องหมายที่นำหน้า ตัวอย่างเช่น:
• 21st – twenty-first
• 22nd – twenty-second
• 23rd – twenty-third
• … และเช่นไป
การเขียนปีในภาษาอังกฤษมักใช้เลขทั่วไปเช่น:
• 2022
• ’22
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
1. ในภาษาอังกฤษ ทำไมถึงมีการเขียนวันที่และเดือนแบบย่อ?
การเขียนวันที่และเดือนแบบย่อในภาษาอังกฤษเกิดขึ้นเพื่อความสะดวกสบายและประหยัดที่สุดในการเขียนเอกสาร เนื่องจากการใช้รูปแบบแบบย่อทำให้เราสามารถเขียนวันที่และเดือนได้อย่างรวดเร็วและสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน
2. บางครั้งเป็นไปได้ว่าเราอาจเขียนวันที่และเดือนแบบย่อผิด จะทำอย่างไรให้ถูกต้อง?
การเรียนรู้การเขียนวันที่และเดือนแบบย่อถือเป็นการปรับปรุงทักษะทางภาษาอังกฤษ เมื่อเผลอเขียนผิดพลาด สิ่งที่เราควรทำคือทบทวนการเขียนและการอ่านใหม่อีกครั้งเพื่อป้องกันความผิดพลาดในอนาคต
3. การเขียนวันที่และเดือนแบบย่อในภาษาอังกฤษมีรูปแบบอื่นๆที่เราสามารถนำไปใช้ได้อีกไหม?
ในภาษาอังกฤษมีรูปแบบการเขียนวันที่และเดือนอื่นๆที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอีกหลายแบบ เช่น เราสามารถเขียนวันที่แบบเต็มๆเช่น “January 1st, 2022” หรือหากต้องการแสดงวันที่และเดือนในรูปแบบที่ปกติเช่น “January 1, 2022” ก็สามารถทำได้เช่นกัน การเลือกรูปแบบขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสะดวกในการใช้งานของแต่ละบุคคล
วันที่ภาษาอังกฤษ 1-31
คำใบ้เริ่มต้น: ให้นำเสนอข้อมูลที่ละเอียด และตอบคำถามทั้งหมดให้เข้าใจได้ดี
วันที่ภาษาอังกฤษ 1-31 คือระบบที่เรียงลำดับวันของเดือนในภาษาอังกฤษ โดยวันที่ 1 คือวันแรกของเดือนและวันที่ 31 คือวันสุดท้ายของเดือน ซึ่งระบบวันที่ภาษาอังกฤษเป็นระบบที่นิยมใช้ทั่วไปในการเรียงลำดับและการแสดงคาดการณ์เวลาและวันที่จากคลังข้อมูลต่าง ๆ หรือในการกำหนดกิจกรรมต่าง ๆ
การแสดงวันที่ภาษาอังกฤษมีลักษณะเฉพาะ เช่น การใช้ชื่อเดือนในรูปแบบย่อ ๆ เรียกว่าสังกัด (Abbreviations) แบบเฉพาะ เช่น Jan ในสังกัดของเดือนมกราคม และการใช้ Suffix หรือตัวย่อเพื่อแสดงวันที่ เช่น st (1st), nd (2nd), rd (3rd) และ th (4th, 5th, 6th, 7th และต่อไป) เพื่อแสดงลำดับของวันในเดือน
นี่คือรายละเอียดเป็นอย่างไรเมื่อพูดถึงวันที่ภาษาอังกฤษ 1-31:
1. วันที่ 1 (First): วันแรกของเดือนที่นับจากวันขึ้นปีใหม่ อังคาร (Tuesday) และพฤหัสบดี (Thursday) เป็นวันที่ที่อาจถูกใช้ในการเริ่มต้นกิจกรรมทางธุรกิจหรืองานประจำวัน
2. วันที่ 2 (Second): ในทางภาษาวิวัฒนาการ วันที่สองอาจถูกใช้เพื่อเป็นเวลาสำคัญในการตัดสินใจหรือผลิตงาน
3. วันที่ 3 (Third): วันที่ที่สามมีความหมายที่ซับซ้อน มักถูกเกี่ยวข้องกับโอกาสที่ต้องพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ
4. วันที่ 4-20: เป็นวันที่ที่ไม่มีความหลากหลายมากในความหมายเฉพาะ การใช้วันที่เหล่านี้อาจได้ผลมอบตกลงกับงานต่าง ๆ อย่างเรียบง่าย
5. วันที่ 21 (Twenty-first): วันที่ยอดเยี่ยมและดั่งเดิมอาจถูกเกี่ยวข้องกับเกมหรือกิจกรรมที่ต้องส่งผลให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกสนุกสนาน
6. วันที่ 22-30: เหมือนกับวันที่ 4-20 วันที่เหล่านี้อาจมีความหมายอย่างเรียบง่าย และมักใช้ในการกำหนดกิจกรรมพื้นฐาน
7. วันที่ 31 (Thirty-first): เป็นวันสุดท้ายของเดือน และมักใช้ในการฉลองผลงานหรือสิ้นสุดกิจกรรม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวันที่ภาษาอังกฤษ:
คำถาม 1: ทำไมเดือนกุมภาพันธ์มีวันที่ 28 วันและบางปีมีวันที่ 29 วัน?
คำตอบ: เดือนกุมภาพันธ์มีวันตั้งต้นเท่านั้น ซึ่งถูกกำหนดให้มีวันที่ 28 วัน เว้นแต่ยังประกอบด้วยปีที่หารด้วย 4 ลงตัว หารด้วย 100 ไม่ลงตัว และปีที่หารด้วย 400 ลงตัว ซึ่งจะทำให้มีวันที่ 29 วันในปีนั้น ๆ
คำถาม 2: เดือนหนี้ (September) มาจากคำว่าอะไร?
คำตอบ: คำว่า September มาจากภาษาละตินเก่า “septem” ซึ่งหมายถึง “หนึ่งทศวรรษ”
คำถาม 3: ทำไมบางเดือนมีคำย่อสั้น ๆ เช่น Jan, Feb, Mar และบางเดือนไม่มีคำย่อ?
คำตอบ: การใช้คำย่อสั้นของบางเดือนเกิดจากการย่อชื่อของเดือนในภาษาละติน เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานและสื่อสาร แต่บางเดือนอาจไม่มีคำย่อเนื่องจากความยาวของชื่อเดือนดังกล่าว
ในสรุป วันที่ภาษาอังกฤษ 1-31 เป็นระบบที่นิยมใช้ในการเรียงลำดับวันของเดือนภาษาอังกฤษ วันที่แต่ละวันในเดือนจะมีความสำคัญและความหมายที่แตกต่างกัน และมีคำตอบกับคำถามทั่วไปเกี่ยวกับวันที่ภาษาอังกฤษที่เราสามารถพบได้ในชีวิตประจำวัน
พบ 7 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ.
ลิงค์บทความ: เขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ เขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษ.
- แชร์ทริคง่าย ๆ เขียน วัน เดือน ปี ในภาษาอังกฤษ ทั้งแบบเต็มและย่อ
- เขียน วัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ อย่างถูกต้อง (แบบเต็ม-แบบย่อ)
- เขียนวันที่ วันเดือนปี เป็นภาษาอังกฤษ (แบบเต็ม-แบบย่อ) การอ่านวัน …
- การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ และนับชั้นของตึกเป็นภาษาอังกฤษ มี …
- การเขียนวันที่ภาษาอังกฤษ
- เขียนวันที่ วันเดือนปี เป็นภาษาอังกฤษ ทั้งแบบเต็มและแบบย่อ
- วิธีเขียนวันที่ การอ่านวันที่ แบบฝรั่ง การเขียน วันเดือนปี แบบภาษา …
- Date การเขียน วันที่ ภาษาอังกฤษ – GrammarLearn
- Grammar: การเขียนวันที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งแบบบริติชและอเมริกัน
- การเขียน วัน เดือน ปี ภาษาอังกฤษ ที่ถูกต้องแบบ America และ …
ดูเพิ่มเติม: lasbeautyvn.com/category/digital-studios