แต่งประโยค Past Perfect: ฟังก์ชั่นและวิธีใช้ (Title: แต่งประโยค Past Perfect ฟังก์ชั่นและวิธีใช้)

แต่งประโยค Past Perfectในภาษาไทยมีหลักการและทฤษฎีเฉพาะของตัวมันเอง การใช้ Past Perfect สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีตได้ จะเป็นเหมือนการเรียงลำดับเหตุการณ์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นประโยคที่สำคัญในการเล่าเรื่องราวในภาษาไทย

ลักษณะและการสร้างประโยค Past Perfect
ประโยค Past Perfect สร้างขึ้นด้วยการใช้กริยาช่วย “ได้” (had) นำหน้ากริยาหลักในรูปประโยคคำนามหรือกริยาต่อท้าย โดยกริยาหลักนั้นจะต้องอยู่ในรูปประโยคที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้แล้ว ประโยค Past Perfect ยังต้องมีกลุ่มคำเชื่อมที่เรียกว่า “เฉพาะ” (already, just, never, ever, before, until, yet) นำหน้ากริยาหลักด้วย

ตัวอย่างประโยค Past Perfect:
1. เขาได้ซื้อรถผลิตใหม่ ก่อนที่เขาจะหยุดทำงาน
2. พ่อเคยอ่านหนังสือนี้เรียบร้อยแล้ว
3. ฉันได้ทำงานที่นี่มาหลายปี
4. คุณเคยได้ยินเสียงนี้ที่ห้องน้ำ
5. เธอเคยลืมรหัสผ่านของเธอมาก่อน

การใช้ประโยค Past Perfect เพื่อให้เรียงเหตุการณ์ในอดีต
ประโยค Past Perfect ช่วยให้สามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ในอดีตได้อย่างมีระเบียบ โดยประโยคที่เกิดขึ้นก่อนอดีตหนึ่งจะอยู่ในรูป Past Perfect ในขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตหลังจะอยู่ในรูป Past Simple หรือ Past Continuous

ตัวอย่างประโยค:
1. เมื่อฉันไปถึงบ้านเพื่อน พร้อมกับเขาได้ไปทำที่ทำงานแล้ว (Past Perfect) เขาบอกว่าเขาได้ทำข้อสอบตอนเช้า (Past Simple)
2. เมื่อเขาเรียกฉันออกไปเดินเล่นหลังจากที่เขาได้รับข่าวสิ่งเลวร้ายจากฉัน (Past Perfect) เขาดูเศร้า ๆ (Past Simple)
3. เมื่อฉันได้หยิบเงินจากกระเป๋าของฉัน (Past Perfect) และนำไปให้เขา (Past Simple) เขาเพิ่งกลับจากที่ทำงาน (Past Simple)
4. เมื่อเขาจะเดินออกจากห้อง (Past Simple) เขาทำให้กลิ่นติด (Past Perfect) ซึ่งทำให้ผมหกหิน (Past Simple)

การใช้ประโยค Past Perfect เพื่อแสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีต
อีกกรณีหนึ่งที่สามารถใช้ประโยค Past Perfect ได้คือเมื่อต้องการอธิบายว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์อื่นในอดีต โดยอาจจะมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตนั้น

ตัวอย่างประโยค:
1. เมื่อเธอถึงที่บ้าน (Past Simple) เธอพบว่าเขาได้รออยู่มานานแล้ว (Past Perfect) และเขาได้ทำอาหารไว้ให้เธอ (Past Simple)
2. เมื่อผมเริ่มต้นทำงานให้เธอ (Past Simple) เธอได้ทำงานอย่างหนัก (Past Perfect) และเธอได้รับเงินเดือนเป็นหลายเดือนแล้ว (Past Perfect)
3. เมื่อเธอทำอาหาร (Past Simple) เธอพบว่าเธอไม่มีข้าวอื่นเป็นจำนวนมากแล้ว (Past Perfect) เพราะเธอใช้หม้อหมุนไปมาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (Past Simple)

ความหมายและคำอ่านของประโยค Past Perfect
การใช้ประโยค Past Perfect ช่วยให้เราเข้าใจว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์อื่น ๆ ในอดีต กริยา “ได้” (had) สำหรับประโยค Past Perfect อยู่หน้ากริยาหลักและช่วยให้เรารู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้ว สำคัญที่สุดคือการใช้คำวิเศษณ์ชนิดเฉพาะเพื่อให้รู้ว่าเบื้องหลังประโยค Past Perfect นั้นเกิดอะไรขึ้น และนำไปสู่เหตุการณ์ในอดีต

ความสัมพันธ์ระหว่างประโยค Past Perfect กับประโยคอื่น ๆ
ประโยค Past Perfect สามารถใช้ร่วมกับประโยคอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความรู้สึกถึงเวลาและบรรยากาศของเหตุการณ์ในอดีตมากขึ้น โดยส่วนมากแล้วจะใช้ร่วมกับประโยค Past Simple เพื่อเรียงลำดับเหตุการณ์ให้มีความเข้าใจง่ายขึ้น

ตัวอย่างประโยค:
1. เมื่อเขาเริ่มต้นเขียนหนังสือนี้ (Past Simple) เขาได้ใช้หลายปีเพื่อเสร็จสมบูรณ์มัน (Past Perfect)
2. เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้อง (Past Simple) เธอทั้งหมดถือกลิ่น (Past Perfect)
3. เมื่อผมเห็นตัวเองในกระจก(Past Simple) ผมตัดสินใจที่จะเปลี่ยนทรงผม (Past Perfect)
4. เมื่อเขาหยิบเงินจากกระเป๋าของฉัน (Past Simple) เขารู้ว่าฉันไม่เข้าเมืองแล้ว (Past Perfect)

ตัวอย่างประโยค Past Perfect ในชีวิตประจำวัน
1. ฉันเคยทำงานอยู่ในแผนกการตลาดก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนสายงานไปเป็นนักการเงิน
2. เธอได้หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาก่อนที่เธอจะตอบรับการโทร
3. เมื่อเขาได้รับอีเมล (Past Simple) เขาเริ่มฝึกอ่านอีเมลอย่างสม่ำเสมอ (Past Perfect)
4. เมื่อฉันได้ทำรายงานให้อยู่กับลูกค้า (Past Simple) ผมตัดสินใจที่จะเรียกว่า “สิ่งนี้ทำให้คุณประทับใจ” (Past Perfect)

การใช้คำวิเศษณ์ในประโยค Past Perfect
คำวิเศษณ์ชนิดเฉพาะเองถูกใช้ในประโยค Past Perfect เพื่อให้รู้ว่าเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นแล้วนั้นสำคัญอย่างไร และมีอิทธิพลต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน คำวิเศษณ์ชนิดเฉพาะที่ใช้ในประโยค Past Perfect ได้แก่ “เราเคย”, “ไม่เคย”, “เพิ่ง”, “แต่ก่อน” เป็นต้น

ตัวอย่างประโยคที่ใช้คำวิเศษณ์ในประโยค Past Perfect:
1. ซอกแก้วนั่งผ่านไปยืนของฉัน เพื่อสัญญาณต่องไง
2. เมื่อผมได้รับข่าวเบื้องต้น ผมไม่เชื่อว่าเป็นจริง
3. เธอเพิ่งได้ยินเสียงเองตอนที่เธอไปที่ห้องน้ำ
4. มีบางเหตุการณ์ที่ชวนให้ฉันคิดถึงอดีต

ตัวอย่างประโยคผิดประโยค Past Perfect:
1. พ่อเคยกอดฉันทุกราคาที่มีโอกาส เสมอ
2. เมื่อผมกำลังจะรับสายการบิน ผมลืมหนังสือเดินทาง
3. เธอไม่เคยพบผมมาแ

ตัวอย่างประโยค Past Perfect Tense: 20 ประโยคในภาษาไทย

Past Perfect Tense หรือ ประโยคกริยาช่วงย้อนหลังใช้ในการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและเสร็จสิ้นก่อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตอีกครั้งหนึ่ง ประโยคแบบนี้มักใช้เมื่อต้องการอธิบายลำดับของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตเพื่อให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้จะมีตัวอย่างประโยค Past Perfect Tense อย่างน้อย 20 ประโยคในภาษาไทยและส่วนท้ายของบทความจะเป็นส่วนที่ตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตัวอย่างประโยค Past Perfect Tense:

1. เมื่อเธอมาถึงบ้านแล้ว เขาได้ไปหมายเลขหนึ่งแล้ว (When she arrived home, he had already made a phone call.)

2. พ่อของฉันไม่ได้ทำงานหลังเที่ยงคืนใน2 ปีที่ผ่านมา (My father hadn’t worked past midnight in two years.)

3. เสียงเอกเหนือกว่าฉันเมื่อฉันเล่นเพลงนั้น (The soprano had sung higher than me when I played that song.)

4. ผมไม่เคยได้ยินประเทศนั้นก่อนที่ผมเดินทางมาที่นี่ (I had never heard of that country before I traveled here.)

5. เขาได้อัพโหลดรูปภาพของเขาในสื่อออนไลน์ก่อนที่เขาจะติดต่อเรา (He had uploaded his picture on social media before he contacted us.)

6. พวกเขาไม่ได้ตื่นเต้นเกินไปเมื่อได้ยินคำปฏิญาณนั่น (They had not been too excited when they heard that slogan.)

7. ฉันคิดว่าเธอได้กินอาหารไปแล้วก่อนที่ฉันจะมา (I thought she had eaten already before I came.)

8. เขาระบุว่าเขาเคยเที่ยวประเทศนั้น (He stated that he had visited that country.)

9. ผมตอบเขาว่าผมไม่มีโอกาสเห็นฟ้าในวันผ่านมา (I replied to him that I hadn’t had a chance to see the sky yesterday.)

10. การปฎิบัติงานครั้งนี้จะไม่สนุกเท่าที่เคยทำโดยเฉพาะกัน (This job wouldn’t be as enjoyable as it had been before.)

11. ก่อนที่เขาจะขนส่งแมวเหล่านี้ พวกเขาได้กลั่นออกมาจากบ้านอย่างเงียบๆ (Before he shipped these cats, he had sneaked them out of the house discreetly.)

12. เมื่อครูได้ถามเขา เขารู้สึกไม่มั่นใจแล้วตอบไม่แน่นอน (When the teacher asked him, he had felt uncertain and gave an unclear answer.)

13. เมื่อฉันตื่นขึ้นมาวันนี้ มีข่าวว่ามีการเกิดเหตุระเบิดที่กรุงเทพฯเมื่อคืน (When I woke up today, the news said that there had been a bombing in Bangkok last night.)

14. พ่อของฉันเก็บเงินมาตั้งแต่ฉันเกิดอยู่ (My father had saved money since I was born.)

15. เธอได้อ่านหนังสือเล่มนั้นอึ้งเมื่อวาน (She had finished reading that book yesterday.)

16. เราได้รับรู้กันมานานแล้วว่ามนุษย์ได้มีการใช้งานม้า มะม่วง และช่วงเครื่องเดินนับสัตว์เลี้ยง (We have known for a long time that humans had used horses, mangoes, and animal-powered transportation.)

17. ครูถามหายไปตอนไหน คำตอบคือปรากฏอยู่ River Euphrates บนแผ่นดินด้านตะวันออกของเมสอปอเตเมีย (When did the teacher go missing? The answer revealed itself on the banks of the River Euphrates, in Mesopotamia.)

18. ฉันกินได้หน่อย เพราะฉันกินข้าวไป (I could eat a little because I had already eaten.)

19. เมื่อคนอื่นเข้ามา ทั้งหมดได้เริ่มเครื่องถือและตั้งสติ (When the others came in, everyone had started meditating and focusing.)

20. พ่อของฉันเคยบอกฉันว่าเขาเคยเป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาเป็นคนน่ารักที่ใจต้องการดูแล (My father had told me that he used to be a human, but now he is a lovely person who needs care.)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Past Perfect Tense:

Q1: คำว่า Past Perfect Tense หรือ ประโยคกริยาช่วงย้อนหลัง หมายถึงอะไรและทำไมต้องใช้?
A1: Past Perfect Tense ใช้ในการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและสิ้นสุดไปแล้วก่อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอีกครั้งหนึ่ง จุดประสงค์ของการใช้ Past Perfect Tense คือเพื่อให้เห็นความสัมพันธ์และลำดับของเหตุการณ์ ทำให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อน

Q2: ในประโยคข้างต้นของ Past Perfect Tense มีกริยาช่วยอะไรบ้างและใช้กับรูปของกริยาอย่างไร?
A2: กริยาช่วยที่ใช้กับ Past Perfect Tense คือ “had” และมักใช้กับกริยาช่องที่ 3 (Past Participle) ของกริยาเช่น been, eaten, หรือ visited เป็นต้น เช่น “had gone,” “had eaten,” “had visited.”

Q3: ขอบเขตเวลาที่ใช้กับ Past Perfect Tense คืออะไร?
A3: ขอบเขตเวลาที่ใช้กับ Past Perfect Tense คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตเท่านั้น ไม่มีวันและเวลาที่เฉพาะเจาะจง

Q4: จะเรียนรู้เรื่อง Past Perfect Tense ได้อย่างไร?
A4: เพื่อรู้เรื่อง Past Perfect Tense ให้ดูและศึกษาตัวอย่างประโยคที่มีการใช้ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต วิเคราะห์ลำดับและความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ เพื่อเข้าใจลักษณะและการใช้งานแบบถูกต้องของ Past Perfect Tense

Q5: มีการใช้คำว่า “had” อยู่แล้วในประโยค จึงจำเป็นที่ต้องใช้ Past Participle อีกเสมอหรือไม่?
A5: ไม่จำเป็นต้องใช้ Past Participle ทุกครั้งที่มีการใช้คำว่า “had” ในประโยคของ Past Perfect Tense การใช้ Past Participle ขึ้นอยู่กับประโยคและตำแหน่งที่ต้องการสื่อความหมายให้ถูกต้อง

Past Perfect Tense (ตัวอย่างประโยคบอกเล่า) และส่วนถามตอบที่พบบ่อย

Past Perfect tense, or ตัวอย่างประโยคบอกเล่า in Thai, is a crucial grammatical structure that helps us express events that occurred before another past action. It adds depth and clarity to our storytelling, making our narratives more coherent and engaging. In this article, we will explore the intricacies of the past perfect tense in Thai, provide numerous examples, and address some frequently asked questions.

ใช้ Past Perfect tense เมื่อเราต้องการจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ที่มีอยู่ในอดีตเราใช้ “ได้” และวิธีการใช้คือ ใช้รูปกริยาช่อง 3 ของคำกริยา

ตัวอย่างประโยคบอกเล่าใน Past Perfect tense:
1. เมื่อฉันเดินออกจากบ้านไปข้างนอกเมือง เพื่อนร่วมงานของฉันคุยกับลูกเรือชาวต่างชาตินานมากกว่าสิบนาทีแล้ว (When I had walked out of the house to the outskirts of the city, my co-worker had been talking to the foreign sailors for over ten minutes).
2. ฉันเห็นพ่อใช้กับโทรศัพท์และเดาว่าเขาได้รับข่าวสารร้ายเกี่ยวกับลูกชายผม (I saw my father on the phone and guessed that he had received bad news about my son).
3. เมื่อฉันมาถึงสนามบิน เครื่องบินได้ออกไปแล้ว (When I arrived at the airport, the plane had already departed).
4. สมชายบอกว่าเคยอยู่ในปารีสก่อนที่เขาจะย้ายเข้ามาอาศัยที่กรุงเทพ (Somchai said he had lived in Paris before he moved to Bangkok).
5. เหตุการณ์ที่ทำให้เจอันดับที่ 1 เกิดขึ้นก่อนที่เจอันดับที่ 2 (Event 1 happened before I encountered event 2).

หากเราไม่กำหนดลำดับเหตุการณ์ การใช้ Past Perfect tense อาจไม่จำเป็นต้องใช้ (However, the use of Past Perfect tense may not be necessary if we do not specify the order of events).

คำศัพท์ที่ใช้กับ Past Perfect tense:
1. เมื่อ (when)
2. ต่อมา (then)
3. อยู่แล้ว (already)
4. สักครู่ (in a while)
5. เคย (ever)

The Past Perfect tense in English is sometimes used in combination with time phrases like “before” and “after.” However, in Thai, we generally do not need to use these phrases to express the sequence of events. By relying on the Past Perfect tense, we can convey the specific order of actions or events within a narrative without the need for additional time phrases.

Frequently Asked Questions:

Q: Can the Past Perfect tense be used without specifying the order of events?
A: Yes, the Past Perfect tense can still be used even if the order of events is not explicitly stated. It helps provide a clear timeline of action in a narrative.

Q: What is the difference between Past Simple and Past Perfect tenses?
A: The Past Simple tense describes an action that took place and ended in the past, while the Past Perfect tense refers to a completed action that happened before another past event. For example, “I had eaten breakfast before I went to work” illustrates the Past Perfect tense, while “I ate breakfast before I went to work” uses the Past Simple tense.

Q: Can the Past Perfect tense be used to discuss hypothetical situations?
A: No, the Past Perfect tense is used specifically to describe completed actions that occurred before another past event. To discuss hypothetical situations, we would use other grammatical structures.

Q: Are there any exceptions when using the Past Perfect tense in Thai?
A: While the Past Perfect tense is generally straightforward, there are some cases where its use may vary. This is particularly true when different regional dialects or colloquial Thai are used. It’s always best to refer to specific language resources or consult with native speakers for precise usage in such instances.

Q: Can the Past Perfect tense be used solely with the verb “to have”?
A: No, the Past Perfect tense can be used with any verb to express a completed action that occurred before another past event. The use of “to have” as an auxiliary verb simply facilitates the construction of sentences in English.

In conclusion, mastering the Past Perfect tense, or ตัวอย่างประโยคบอกเล่า in Thai, is essential for expressing events that occurred before another past action. By using this grammatical structure, we can bring our narratives to life, providing a clear timeline of events and enhancing our storytelling abilities. Familiarizing ourselves with the examples provided and addressing common inquiries will contribute to our proficiency in using the Past Perfect tense effectively in Thai.

ตัวอย่างประโยคคำถามใน Past Perfect Tense และการใช้งานอย่างถูกต้อง

Past Perfect Tense หรือช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้วแต่เป็นอดีต เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่นักเรียนต้องเรียนรู้ในภาษาอังกฤษ แฟกต์ของ Past Perfect Tense คือการสร้างประโยคที่เน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์ในอดีต โดยใช้คำกริยาช่วย “had” และรูปธรรมดา (verb past participle) ของคำกริยาที่ต้องการใช้ เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการใช้งาน Past Perfect Tense ได้อย่างถูกต้อง จะมาพูดถึงตัวอย่างประโยคคำถามใน Past Perfect Tense และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องในบทความนี้

ตัวอย่างประโยคคำถามใน Past Perfect Tense:

1. Had you finished your work before the deadline?
คุณเสร็จงานก่อนคำสั่งงานหรือไม่?

2. Had they seen the movie before?
พวกเขาได้ดูภาพยนตร์นี้มาก่อนหรือไม่?

3. Had she ever traveled to Europe before her recent trip?
เธอเคยเดินทางไปยุโรปมาก่อนการเดินทางครั้งล่าสุดหรือไม่?

4. Had he called you before you arrived?
เค้าได้โทรถามคุณมาก่อนที่คุณจะมาถึงหรือไม่?

5. Had they finished their homework before their parents came back?
พวกเขาทำการบ้านเสร็จก่อนพ่อแม่กลับบ้านหรือไม่?

การใช้งาน Past Perfect Tense ในคำถามได้ทำหน้าที่ในการเฉลยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คำถามใน Past Perfect Tense จะมีรูปแบบว่า “Had + ประธาน + คำกริยาที่ผ่านไปก่อนหน้านี้ + เหตุการณ์ที่ต้องการทราบ” โดยใช้ “Had” เป็นคำกริยาช่วยก่อนตามด้วยประธานและคำกริยาที่ผ่านไปก่อนหน้านี้ครับ

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. วิธีการจับคู่เหตุการณ์ในอดีตให้เหมาะสมกับ Past Perfect Tense เป็นอย่างไร?

ในการใช้งาน Past Perfect Tense อย่างถูกต้อง จะต้องสังเกตุไปที่ลำดับเวลาของเหตุการณ์เหล่านั้น เพื่อตรงกับการใช้ Past Perfect Tense ควรจะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เช่น เหตุการณ์ A เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ B ในที่นี้เราจะใช้ Past Perfect Tense ในเหตุการณ์ A และใช้ Past Simple Tense ในเหตุการณ์ B ตัวอย่างเช่น:
– “I had already eaten when she arrived.” (ผมกินไปแล้วเมื่อเธอมาถึง)
ในประโยคนี้ เหตุการณ์กินข้าวเกิดขึ้นก่อนในอดีต และเหตุการณ์เธอมาถึงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น

2. ใช้ Past Perfect Tense ได้ในกรณีไหนบ้าง?

Past Perfect Tense สามารถใช้ได้ในกรณีที่ต้องการเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าหรือก่อนจากเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น ก่อนที่เรามาถึง ก่อนที่เหตุการณ์ใด ๆ จะเกิดขึ้น หรือก่อนที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น:
– “I had seen that movie before.” (ผมเคยดูภาพยนตร์นั้นมาก่อน)
ในประโยคนี้เหตุการณ์ดูภาพยนตร์เกิดขึ้นก่อนและสิ่งที่อาจเปลี่ยนไปคือความรู้สึกหรือการเข้าใจเกี่ยวกับภาพยนตร์นั้น ๆ

3. อะไรคือข้อแตกต่างระหว่าง Past Perfect Tense และ Past Simple Tense?

Past Perfect Tense ใช้ในกรณีที่ต้องการเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เช่น “I had finished my work before I went to bed.” (ผมเสร็จงานก่อนที่จะไปนอน) ในขณะเดียวกัน Past Simple Tense ใช้ในกรณีที่เรียนรู้เรื่องราวในอดีตโดยไม่เน้นเหตุการณ์ และไม่จำเป็นต้องมีเหตุการณ์ก่อนหน้า เช่น “I went to bed after I finished my work.” (ผมไปนอนหลังจากที่ผมเสร็จงาน)

โดยสรุปบทความนี้ได้พูดถึงตัวอย่างประโยคคำถามใน Past Perfect Tense และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีส่วนข้อสงสัยที่พบบ่อย (FAQs) เพื่อช่วยให้เข้าใจและนำไปใช้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง โดยหวังว่าบทความนี้จะช่วยเพิ่มความเข้าใจในการใช้งาน Past Perfect Tense ให้กับผู้อ่าน

พบ 43 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ แต่ง ประโยค past perfect.